เยียวยาผู้เสียชีวิต1ล้าน
“พิชัย” สั่งแบงก์รัฐลุยอัดมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา "ออมสิน" สั่งพักชำระเงินต้นจนถึง ธ.ค.68 "ธอส." เตรียม 200 ล.รองรับเต็มสูบ “สศค.” การันตีพื้นฐาน ศก.ไทยแกร่ง รบ.เคาะเยียวยาเสียชีวิต 1 ล้าน ทุพพลภาพ 7 แสน
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า กระทรวงการคลังได้เร่งออกมาตรการในการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาไปหมดแล้ว และหวังว่าสถานการณ์จะจบได้โดยเร็ววัน โดยได้มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจดำเนินมาตรการด้านการเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบคลุมทั้งมาตรการพักชำระหนี้ มาตรการลดอัตราดอกเบี้ย และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน
นายพิชัยกล่าวว่า ในส่วนธนาคารออมสิน จัดทำมาตรการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อาทิ มาตรการพักชำระเงินต้น สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงงวดเดือน ธ.ค.68 และให้จ่ายดอกเบี้ยเพียงบางส่วน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้ ส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ อาทิ โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 68 เพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น วงเงินต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR ของ ธ.ก.ส. เท่ากับ 6.725% ต่อปี) ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี ปลอดชำระดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก
รองนายกฯ และ รมว.การคลังกล่าวอีกว่า ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าของธนาคารจากเหตุการณ์ชายแดน วงเงินโครงการ 200 ล้านบาท อาทิ กรณีผู้กู้บาดเจ็บสาหัส หรือที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยปีที่ 6 เป็นต้นไป ขณะที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยการพัก ลด ขยาย เติม ให้เอสเอ็มอีไปต่อได้แม้เจอวิกฤต
เขาระบุต่อว่า ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ มีมาตรการบรรเทาผลกระทบเร่งด่วน ขยายระยะเวลาชำระหนี้สูงสุด 365 วัน และปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสูงสุด 20% จากอัตราเดิม และเพิ่มวงเงินชั่วคราว 1 ปี สูงสุด 30% ด้วยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% ต่อปี ด้านธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) มีมาตรการ ‘ไอแบงก์เราไม่ทิ้งกัน’ อาทิ พักชำระเงินต้นและกำไร กำหนดอัตรากำไรตามสัญญาสินเชื่อเดิม ระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน ขยายระยะเวลาออกไปสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน หรือไม่เกินค่างวดชำระเดิม ส่วนบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเดิมและมาตรการภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS11 บสย. SMEs ยั่งยืน
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่ากรมบัญชีกลางได้มีการอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ความขัดแย้งเพิ่มเติมจังหวัดละ 100 ล้านบาท ตามขอของกระทรวงมหาดไทยเรียบร้อยแล้ว มองว่าเรื่องนี้เป็นการให้ความช่วยเหลือที่เร็วและตอบโจทย์มากที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้
ขณะที่ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินผลกระทบต่อภาคการค้าและเศรษฐกิจในภาพรวมจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ผลกระทบต่อสัดส่วนการค้าชายแดนต่อจีดีพีนั้น เบื้องต้นมองว่าน่าจะมีไม่มาก เพราะสัดส่วนการค้าระหว่างไทยและกัมพูชามีไม่มาก โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจนก่อนการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
นายพรชัยกล่าวว่า คาดว่าเมื่อได้ความชัดเจนจะสามารถประเมินผลต่อเศรษฐกิจได้ชัดมากขึ้น ส่วนการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจในรอบถัดไป ซึ่ง สศค.จะประกาศในวันที่ 30 ก.ค.นี้ จะมีการนำปัจจัยความเสียหายและสถานการณ์ปะทะในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเข้ามาร่วมประเมินด้วย
วันเดียวกัน น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ติดตามการดูแลพนักงานของสถาบันการเงินและผู้ใช้บริการ โดยให้สถาบันการเงินที่มีสาขาในกัมพูชา ทยอยนำพนักงานคนไทยกลับประเทศแล้ว และคาดว่าจะกลับได้ทั้งหมดในวันที่ 25 ก.ค.
น.ส.สุวรรณีกล่าวด้วยว่า สถาบันการเงินได้ปิดบางสาขาในพื้นที่ชายแดนในสุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สระแก้ว ตราด และจันทบุรี ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางอื่นของสถาบันการเงิน เช่น Mobile Banking, Internet Banking ได้ และลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาและเวลาทำการผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ หรือติดต่อผ่าน Call Center ของแต่ละสถาบันการเงิน โดยปัจจุบันยังไม่พบการรายงานว่ามีความเสียหายในสาขาของแต่ละสถาบันการเงิน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้หารือกับ 7 สายการบินพาณิชย์สัญชาติไทย ซึ่งประกอบด้วย การบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยเวียตเจ็ท, ไทยไลอ้อนแอร์, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และนกแอร์ รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถึงมาตรการการนำคนไทยในกัมพูชากลับประเทศ โดยทุกฝ่ายพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมเพิ่มจำนวนที่นั่งให้เพียงพอต่อการรองรับคนไทยกลับประเทศทั้งหมด ยืนยันว่าเที่ยวบินเส้นทางทั้งจากเสียมเรียบและพนมเปญกลับมายัง กทม.ยังมีที่นั่งเหลือจากปรับเพิ่มที่นั่งในช่วงสองถึงสามวันข้างหน้านี้
วันเดียวกัน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2/2568 เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ภายหลังการประชุมนายพีระพันธุ์เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี มีมติอนุมัติในหลักการให้ความช่วยเหลือประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และทหารพราน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนี้ 1.กรณีเสียชีวิต รายละ 1,000,000 บาท 2.กรณีทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท 3.กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท 4.กรณีบาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท และ 5.กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท.