หมอแม่ เจ้าของแบรนด์ Dr.Mom แชร์ปรัชญาเลี้ยงลูกยุคใหม่ แก้ปัญหาช่องว่างต่างวัย
‘หมอแม่’ เจ้าของแบรนด์ Dr.Mom แชร์ปรัชญาเลี้ยงลูกยุคใหม่ แก้ปัญหาช่องว่าง “ต่างวัย” พร้อมเผยแนวคิดธุรกิจ
พญ.พิศศรี เจ้าของเพจ Dr.Mom ควงแขนลูกชาย ภาวินท์ เจ้าของเพจ pawindrmom เผยฮาวทูแก้ช่องว่างระหว่างวัยกับลูก-แนวคิดธุรกิจ ภายในงาน “Thailand Healthcare 2025” งานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์
‘เครือมติชน’ พร้อมด้วยพันธมิตรด้านสุขภาพ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ “Thailand Healthcare 2025” ภายใต้ธีม ‘A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย’ ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
พญ.พิศศรี คุ้มอนุวงศ์ หรือ หมอแม่ เจ้าของเพจ Dr.Mom บอกเล่าถึงการเลี้ยงลูกที่มีช่องว่างระหว่างวัยว่า เธอใช้เหตุผลเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก เช่น การซื้อของเล่นจะใช้การกำหนดเลขให้ซื้อขอที่มีราคา 2 หลักเท่านั้น และเมื่ออยู่ในช่วงวัยที่โต้เถียงได้จะสอนให้รู้ว่าอยากได้เพราะอะไรอย่างมีเหตุผล
ถัดมาในช่วงมัธยม เรื่องเพื่อนกับโรงเรียนสำคัญมาก หากเลือกโรงเรียนดีก็เบาใจได้ส่วนหนึ่ง และโชคดีที่เขามีเพื่อนที่ดีจึงพากันเรียน ไม่ต้องเคี้ยวเข็ญกันมาก
แม่ลุกคุยกัน แก้ปัญหาช่องว่าง “ต่างวัย”
เมื่อถามถึงการแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างวัย หมอแม่ ตอบด้วยท่าทางมีความสุขว่า สมัยเด็กของเราพ่อแม่จะสั่งอย่างเดียว ห้ามพูดห้ามเถียง แต่ในมุมเราเป็นเด็กรู้สึกว่าทำไมถึงพูดไม่ได้ พอมีลูกจึงตั้งใจว่าจะไม่ทำแบบนั้นน่ะ จึงพยายามทำตัวเป็นยิ่งกว่าเพื่อนของเขา หากมีอะไรลูกต้องมามาหาเราก่อนเพื่อน
โชคดีที่ยุคนั้นยังไม่มีโซเชียล ยังฟังเทป อ่านการ์ตูนให้ฟัง เดี๋ยวนี้อะไรก็ง่ายไปหมด รวดเร็ว ทำให้เด็กเคยชินกับความเร็ว บางครั้งแม่แอบคิดว่าหากมาเลี้ยงลูกในตอนนี้ก็อาจทำไม่ได้
อยากให้พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบห่างจอ เพราะจะทำให้สมาธิสั้น แทนที่จะได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กกลายเป็นจดจ่อแต่กลับสีๆ และในฐานะที่เป็นจักษุแพทย์ จอ ยังส่งผลกับดวงตาด้วย การเพ่งมองนานนานจะทำให้สายตาสั้นง่ายขึ้น ทำให้ตาแห้ง หลังงอ ปวดหัว เสียบุคลิก
สมัยก่อนเด็กๆไม่ค่อยเป็นไมเกรน แต่ปัจจุบันเป็นเยอะขึ้นมากเพราะแสงสีฟ้าจากจอโทรศัพท์-แท็บเลท
เด็กเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ ขึ้นอยู่กับการป้อนข้อมูล สอนอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ขึ้นอยู่กับการวางแนวทาง เพราะมนุษย์เป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้เร็วมาก เรารู้อยู่แล้วว่าการตามใจลูกจะเกิดอะไรขึ้น
ท้ายนี้ หมอแม่ฝากถึงผู้ปกครองที่มีช่วงต่างระหว่างวัยว่า ในส่วนของโซเชียล ผู้ปกครองควรเป็นผู้เสพสื่อแล้วจึงนำมาใช้กับลูกหลานต่อ เพราะความอบอุ่นที่อยากได้จากพ่อแม่-ตายาย ไม่ใช่สิ่งที่หากันได้ง่ายๆ เป็นเรื่องโชคดีมากที่เขาได้รับจากญาติผู้ใหญ่
“อยากให้พ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ อย่าคิดแต่ว่าจะให้ลูกหลานมาหาเราอย่างเดียว ต้องปรับตัวหาเด็กด้วย หาเรื่องตามโซเชียลมาคุย อย่าเอาแต่ดุด่าว่ากล่าว การที่เราพูดด้วยความหวังดีแต่อาจเป็นจุดที่ทำให้ช่องว่างมันห่างกันมากยิ่งขึ้น”
ด้าน ภาวินท์ โล่ห์ตระกูลวัฒน์ เจ้าของเพจ pawindrmom เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตนไม่ได้รู้สึกว่า ครอบครัวเลี้ยงมาแบบผิดปกติ เพิ่งรู้ตอนทำคอนเทนท์ว่าเป็นการเลี้ยงลูกอีกรูปแบบหนึ่ง
ส่วนตัวมองว่าเด็กยุคนี้มีความแตกต่างในเรื่องของเทคโนโลยี กล่าวคือ มีความยากที่จะเข้าใจในแต่ละช่วงวัย จึงอยากแนะนำให้พ่อแม่เอ Gen Y ใช้วิธีคุยกับลูกด้วยเหตุผล
จุดเริ่มต้นจากวงการสุขภาพสู่วงการบิวตี้
หมอแม่ และ ภาวินท์ ได้มีการทำแบรนด์ร่วมกันในชื่อ “Dr.Mom” มากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งภาวินท์ เป็นคนดูแลระบบหลังบ้านทั้งหมด ในส่วนนี้หมอแม่มองว่าการทำแบรนด์ด้วยกันทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น
ส่วนแนวคิดการทำธุรกิจ เธอเน้นการทำธุรกิจด้วยความจริงใจ ใช้ตัวของหมอแม่เป็นแบรนด์ดิ้ง จึงสามารถแตกไลน์ได้เยอะในเวลาอันสั้น
เริ่มต้นจากสกินแคร์สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย-ผู้สูงอายุ ต่อยอดมาเป็นอาหารเสริมสำหรับวัยกลางคนและผู้สูงอายุ โดยภูววินทร์กล่าวเสริมในส่วนนี้ว่า การแม่เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ทำให้มีผลที่ดีต่อผู้บริโภคและสามารถทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หมอแม่ เจ้าของแบรนด์ Dr.Mom แชร์ปรัชญาเลี้ยงลูกยุคใหม่ แก้ปัญหาช่องว่างต่างวัย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th