สนธิประกาศ ถ้ามีวิกฤตการเมือง แล้วจะมีรัฐประหาร “ก็เรื่องของเขา” แต่ขออย่าเอานายพลมาบริหาร
วานนี้ (28 มิถุนายน) ช่วงหนึ่งของการชุมนุม สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ‘รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย’ โดยเปิดคลิปเสียงคำปราศรัยของของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเสียเขาพระวิหารให้กัมพูชา เมื่อปี 2505
จากนั้น สนธิได้เริ่มปราศรัยระบุว่า วันนี้อายุ 78 ปีแล้ว ถ้าไม่ครั้งสุดท้ายแล้ว ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม สมเด็จฮุน เซน บอกว่า ทักษิณได้พูดจาบจ้วงสถาบันฯ ตนเองไม่เถียง เพราะรู้มานานแล้ว
“วันนี้เราต้องมองให้ลึกลงไป ปัญหาใหญ่ที่สุดในประเทศเราคือระบบการเมือง” สนธิกล่าว
สนธิกล่าวด้วยว่า วันนี้คนไทยเป็นหนี้ธนาคารทั่วประเทศ เขากำลังฟ้องล้มละลาย คนที่ไม่มีเงินจ่ายอีกไม่กี่ปีก็จะมีคนล้มละลายทั่วประเทศ และจะยึดทรัพย์ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากธนาคารที่คิดดอกเบี้ยยุบยับ และจะรวมหนี้สินทั้งหมดที่เป็นหนี้เสียให้รัฐบาลซื้อ และก็คนรวยทั้งหลายเข้าไปใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อซื้อหนี้เสีย มูลค่า 100 ซื้อมาแค่ 10 บาท และมาตามเก็บจากประชาชนอีก
“ระบบการเมืองแบบนี้เอื้อประโยชน์ อำนวยให้คนรวย ให้คนมีเส้นสายรวยเอาๆ บนความพินาศของประชาชน”
สนธิ ยืนยันว่า ไม่ได้ยุให้เกิดการรัฐประหาร เพราะทหารจะรัฐประหารก็ไม่ได้บอก จะทำเมื่อไหร่ก็ทำไป ถ้าเห็นว่าวิกฤติการเมืองเกิดขึ้น และแก้ไม่ได้ เขาจะทำก็เรื่องของเขา
“แต่ขออย่างเดียว ถ้าจะทำ สาธุ ขออย่าเอาพลเอกมาบริหารชาติบ้านเมืองอีก ให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาประเทศชาติ” สนธิกล่าว
สนธิกล่าวอีกว่า การชุมนุมในครั้งนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ในกรุงเทพฯ ตำรวจบอกว่ามีคนมา 30,000 ส่วนตัวมองว่า ต้องคูณ 2 วันนี้ต้องมี 6-7 หมื่นคน และไม่เคยคิด 20 ปีที่แล้ว เดินขึ้นมาบนเวทีเพื่อไล่ทักษิณ มาถึงวันนี้ 20 ปีให้หลัง เป็นความซวยของชีวิต มาถึงยุคที่ต้องไล่ลูกสาว
นอกจากนี้ หลังจบการปราศรัยของสนธิ ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมระบุว่า ตนเองอายุ 91 ปี ไม่ได้ไปขึ้นเวที แต่ขอส่งกำลังใจให้ประชาชน เหมือน ‘อังเคิล’ ให้กำลังใจหลาน