ประชุมปศุสัตว์อาเซียน ครั้งที่ 33
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 16 กรกฎาคม 2568 เวลา 23.03 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพ 16 ก.ค. – ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมปศุสัตว์อาเซียน ครั้งที่ 33 หนุนความร่วมมือภูมิภาคสู่การผลิตปศุสัตว์อย่างยั่งยืน โดยอธิบดีกรมปศุสัตว์ ชี้ว่า ภาษี 36% ของสหรัฐอเมริกา จะสร้างความลำบากให้เกษตรกรไทยแต่พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมคณะทำงานปศุสัตว์อาเซียน ครั้งที่ 33 (ASEAN Sectoral Working Group on Livestock : ASWGL) และมีการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมผู้ประสานงานแห่งชาติด้านผลิตภัณฑ์ทางสัตวแพทย์แห่งอาเซียนครั้งที่ 12 (ASEAN National Focal Points on Veterinary Products: ANFPVP) และการประชุมสมัยพิเศษของศูนย์ประสานงานอาเซียนด้านสุขภาพสัตว์และโรคระหว่างสัตว์และคน (ASEAN Coordinating Center for Animal Health and Zoonoses (ACCAHZ) Special Meeting)
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า เป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันความร่วมมือทางวิชาการปศุสัตว์ ทั้งสุขภาพสัตว์ มาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ การผลิตสินค้าปศุสัตว์ และการควบคุมป้องกันโรคในสัตว์ของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีภูมิภาค เสริมความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศอื่น ๆ ในด้านการค้าและการลงทุนของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียนโดยรวม สำหรับการประชุม ASWGL ถือเป็นเวทีเฉพาะทางด้านการปศุสัตว์ของอาเซียนในการแลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนานโยบาย และกำหนดทิศทางความร่วมมือด้านการปศุสัตว์ในระดับภูมิภาค ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 18 กรกฎาคม 2568 นำโดยอธิบดีกรมปศุสัตว์ในฐานะประธานคณะอำนวยการจัดการประชุมฯ และมีผู้แทนจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ติมอร์-เลสเต ในฐานะผู้สังเกตการณ์รวมถึงผู้แทนจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน หน่วยงานหุ้นส่วนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนา และองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฯ การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตาม กำหนดทิศทาง จัดทำสรุปและรายงานผลการดำเนินงานต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการเกษตรและป่าไม้ (Senior Officials Meeting on Agriculture and Forestry; SOM-AMAF) และเป็นเวทีที่ใช้พิจารณาความก้าวหน้า และแนวทางความร่วมมือ เช่น การบริหารจัดการกองทุนสุขภาพสัตว์อาเซียน (ASEAN Animal Health Trust Fund) นโยบายและกิจกรรมความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับแผนงานและตัวชี้วัดของอาเซียนด้านการเกษตร ผลการประชุมอาเซียนที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการปศุสัตว์ มาตรฐานอาเซียนด้านการเลี้ยงสัตว์และการผลิต รวมถึงผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ แนวปฏิบัติที่ดีทางการเลี้ยงสัตว์ การพัฒนาบุคลากรด้านปศุสัตว์ การดำเนินการต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงท่าทีและความร่วมมือของอาเซียนกับองค์กรระหว่างประเทศและหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ
การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ แสดงถึงบทบาทที่เข้มแข็งของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านปศุสัตว์ในภูมิภาค และเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมืออันดี การพัฒนาศักยภาพ และยกระดับมาตรฐานการปศุสัตว์อาเซียนให้มีความมั่นคงและยั่งยืนยิ่งขึ้น
นายสัตวแพทย์สมชวน เปิดเผยถึงผลกระทบด้านปศุสัตว์ที่จะมีการขึ้นภาษีนำเข้า 36% ของสหรัฐอเมริกาด้วยว่า จะทำให้เกษตรกรไทยลำบากมากขึ้น แต่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีคณะทำงานเรื่องนี้อยู่แล้ว ทางกรมปศุสัตว์ ก็พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงฯ.-513-สำนักข่าวไทย