ส.ก.คาใจ ‘ทำหมันสัตว์จรจัด’ แบบใดไม่มีใครรู้? ลั่น ข้อมูลเก่ายังไม่มา โครงการใหม่จะเกิดอีก
ส.ก.อยากรู้ จับสัตว์จรไปทำหมัน แบบใด ไม่มีใครรู้ ข้อมูลเก่าขอไปยังไม่มา โครงการใหม่จะเกิดอีก รองผู้ว่าฯแจง พร้อมแชร์ข้อมูลแทร็กกิ้ง
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยฝ่ายบริหาร ข้าราชการ และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้ง 50 เขต เข้าร่วมการประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 5) โดยมี นายวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาฯ ซึ่งมีวาระการประชุมที่น่าสนใจ ได้แก่ การพิจารณา ญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เป็นวันที่ 4 ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ซึ่งมี ส.ก.ร่วมอภิปรายตั้งข้อสังเกตถึงการตั้งงบฯ รายจ่าย ของฝ่ายบริหารในหลายประเด็น
ในตอนหนึ่ง นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย อภิปรายต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงงบประมาณฯ สำนักอนามัย ซึ่งเรียนตามตรงว่าตอนนี้ไข้เลือดออกระบาดในพื้นที่ ฉีดยุงเกือบทุกวัน จากวัตถุประสงค์และกิจกรรมที่ระบุ อ่านแล้วรู้สึกว่าเหมือนเดิมทุกปี แต่ไม่สามาถแก้ไขปัญหาได้
กิจกรรมที่บอกว่า พัฒนาศักยภาพบุคลากร ให้มีความรู้ ความเข้าใจในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่แยกออกเป็นข้อๆ ซึ่งเน้น การจัดประชุมและสัมมนา เป็นหลัก
“ท่านจะเห็นว่าเป็นการอบรมและสัมมนาส่วนใหญ่ แนวทางปฏิบัติในนี้บอกว่า ใช้สารเคมีเพื่อป้องกันและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงซึ่ง เมื่อวาน อนงค์ เพชรทัต ส.ก.เขตดินแดง ท่านได้พูดถึงการซื้อ ‘สารกำจัดลุกน้ำยุงลาย’ ซึ่งมันน้อยนิดมาก พื้นที่ กทม. เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ซื้อ มันไม่เพียงพอ”
“จริงๆ แล้วการแก้ไขปัญหาไข้เลือดออก ลูกน้ำยุงลาย มันไม่ใช่แบบนี้ นี่คือปลายเหตุแต่เราต้องทำ เมื่อมีพี่น้องประชาชนเป็นไข้เลือดออก เขาไม่ได้แจ้งเขต เขาแจ้งมาที่พวกเราส่วนใหญ่ เพราะเวลาผมฉีด ผมฉีดรอบทั้งชุมชน สมัยก่อนผมฉีดทั้งเขตบางกอกน้อย ทุกตรอก ซอก ซอย ค่าใช้จ่ายออกเอง ประมาณ 2,000-3,000 บาท/ครั้งในการฉีด” นายนภาพลเผย
นายนภาพลกล่าวต่อว่า งบฯ ที่สำนักอนามัยขอมาในการจัดซื้อ สารเคมีกำจัดลูกน้ำยุงลายนั้น น้อยมาก ไม่เพียงพอ และไม่ใช่ว่าเราเพิ่งพูดเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ส.ก.หลายท่านพูดถึงบ่อยมาก ซึ่งท่านผู้ว่าฯ เอง ก็เห็นด้วย
“สารเคมีทีที่ได้ผลดีกว่า ทรายอะเบท (Abate) มีเยอะแยะตอนนี้ ทำไมท่านไม่จัดซื้อสิ่งที่มีคุณภาพกว่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้ำเติบโตเป็นยุงลาย ไม่ใช่มาแก้ไขโดยการฉีดหมอกควันกำจัดยุงลายแบบนี้” นายนภาพลชี้
นายนภาพลกล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมา เป็นเรื่องสำคัญซึ่งเห็นทางโซเชียล ท่านผู้ว่าฯไปเปิดงานเกี่ยวกับการฝังไมโครชิปสุนัข เพราะข้อบัญญัติ กทม. เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงกำลังจะมีผลบังคับใช้ ม.ค.69 ซึ่งตนเป็นประธานคณะกรรมการวิสามัญฯ ในการออกข้อบัญญัตินี้ แล้วมีประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก
“เหตุที่ออกข้อบัญญัตินี้ ในการประชุม ทางฝ่ายบริหารจะตั้งหน่วยงานภายนอกเข้ามา อย่าง Soi Dog Foundation ซึ่งผมต้องขอชื่นชม เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือ กทม.เยอะมาก เขาไปจับสัตว์จรจัดมาทำหมันฟรี ไม่เคยเบิกค่าใช้จ่ายจาก กทม.เลย เงินเขามี เมื่อถาม เขาบอกว่าไม่ต้องสนับสนุน จากสถิติที่เขาทำ จำนวนสุนัขจรจัดลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ”
นายนภาพลกล่าวต่อว่า ปัญหาสุนัขจรจัดจะทำอย่างไร เมื่อเราเป็นเมืองพุทธ วิธีเดียวที่เราจะทำได้คือ ‘ทำหมันสัตว์จรจัด’ แม้ไม่ใช่ความรับผิดชอบ แต่Soi Dog Foundation ก็ยังทำให้เรา ทำไมเราไม่ทำบ้าง ประสานงานงานกรมปศุสัตว์ มี 3 หน่วยงานทำร่วมกัน ก็จะเร็วขึ้น แต่สำนักอนามัยไม่มีบุคลากร จึงตั้งขึ้นมา 1 โครงการคือ ‘โครงการทำหมันสัตว์จรจัด’ ซึ่งคนรู้น้อยมาก ในปี 2568 สำนักอนามัย ได้ว่าจ้างบริษัท Outsource
ซึ่งเมื่อสอบถามไปที่เขต ปรากฏว่า เขาบอกโครงการนี้ดำเนินการเสร็จแล้ว ทำหมันเฉพาะสุนัขและแมวจรจัด และบันทึกรายละเอียด ละติจูดลองติจูดที่ทำแผนตรวจสอบได้ รวมถึงฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า ด้วย
“การทำบริษัทรับจ้างทำโครงการนี้ ต้องมีคนไปจับสัตว์จรจัดในแต่ละเขต ปรากฏว่า โครงการนี้เริ่มเปิดประมาณ 2 เดือน เขาบอก เขาจับสัตว์ทำหมดแล้ว ผมตกใจว่าทำแล้วจริงหรือ 15,000 ในโครงการนี้ จับทั้งแมวและสุนัขมาทำหมดแล้ว เร็วขนาดนั้นเลยหรือ เขาบอกว่าประสานงานทั้งเขต และ ส.ก. แต่ถามเพื่อนสมาชิกแล้วไม่มีประสานมาสักคน” นายนภาพลกล่าว และว่า
“เมื่อถามประธานชุมชนในพื้นที่ของตน ทุกชุมชน เขาบอกไม่เคยมีมาเลย ขนาดคนในชุมชนเอง เขตให้กรงมาดัก เดี๋ยวนี้มันยังรู้ ไม่เข้าแล้ว คนแปลกหน้ามาจับยังไง ผมถาม บางทีชาวบ้านยังโวยวายไม่ให้จับเลย เพราะเขาไม่รู้ว่าจะจับไปทำอะไร”
นายนภาพลกล่าวด้วยว่า โครงการนี้เสร็จแล้ว 3 เดือน เมื่อขอข้อมูลไปว่า จับไปทำหมันตรงไหนบ้าง? จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อมูล ตนจึงไปถามชาวบ้าน เพียงเพราะอยากให้โครงนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์จริงๆ จึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงไม่มีข้อมูลมา บันทึกลงระบบช้าขนาดนั้นเชียวหรือ หรือเพิ่งดำเนินการอยู่ตอนนี้หลังจากที่ตนสอบถามไป
เมื่อวันก่อน ผู้ว่าฯ ไปเปิดงานฝังไมโครชิป แต่ฝังเฉพาะสัตว์มีเจ้าของ เพื่อป้องกันไม่ใช้เกิดการทิ้งเป็นสัตว์จรจัด จึงอยากสอบถามว่า ตอนนี้ กทม.โดยสำนักอนามัย ได้ซื้อชิปฝังสุนัขและแมวหรือไม่ มีเพียงพอ ก่อนที่ข้อบัญญัติจะบังคับใช้หรือไม่
“ปีนี้ ก็ขอทำโครงการนี้มาเหมือนกัน โครงการที่แล้วท่านยังไม่มีข้อมูลให้เลย ปีนี้ทำโครงการจ้างเหมา ผ่าตัด ทำหมัน ควบคุมจำนวนและฉีดวัคซีน 6 กลุ่มเขต ปี 2568 ทำ 15,000 ปี 2569 ตั้งไว้ 7,300 ตัว
“โครงการนี้มีประโยชน์ในการช่วยควบคุมสัตว์จรจัด ที่มีเป็นแสน ตอนนี้ทำ 2 ปี ประมาณ 20,000 ตัว ท่านก็หวังว่า ภาคีเครือข่ายจะมาช่วย แต่หลักแล้ว กทม.ต้องรับผิดชอบ ผมเลยสอบถามไปยังฝ่ายบริหาร ข้อมูลทำไมช้าจัง อันเก่ายังไม่ได้ อันใหม่จะเกิดแล้ว การประสานงานกับสำนักงานเขต ไม่เป็นไปตามรายงานที่ท่านบอกกับคณะกรรมการฯ มีการซื้อชิป ซื้อน้ำยากำจัดลูกน้ำเพิ่มไหม ผมถามทั้งเขตและชุมชน ไม่มีใครประสานงานมาเลย” นายนภาพลกล่าว
ต่อมา นายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ ส.ก.เขตทุ่งครุ กล่าวสนับสนุนญัตติดังกล่าว โดยระบุว่า ตนเคยอภิปรายประเด็นนี้ เคยเกริ่นว่า ให้ช่วยประสานงานอะไรหรือไม่
“หน่วยงานบอกไม่ต้องยุ่ง ตอนนั้นภาพค่อนข้างเริ่มชัด ที่ไม่อยากให้เราเข้าไปช่วยประชาสัมพันธ์เพราะอะไร ขนาดหน่วยงานภายนอก Soi Dog ยังเคยถูกประชาชนมองเป็นมิจฉาชีพ พอมีนักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปดูแล เขาก็ให้ ก็คงต้องรอตัวเลขว่าสุดท้ายได้ทำตามที่งบฯ ได้ผ่านสภาฯ ไปหรือไม่” นายกิตติพงศ์ชี้
จากนั้น น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กล่าวชี้แจงว่า ในเรื่องยุงลย เรามีการซื้อสารเคมีและน้ำยา จำนวนมาก เราเลือกเส้นทางนี้ด้วย เพราะสเปรย์กำจัดได้แต่ยุงโตเต็มวัย สำคัญที่สุด ละอองเคมีที่ตกค้าง จะเป็นอันตรายกับประชาชนได้
ในปี 66 เรามีคนไข้ สูงเกินค่ามัธยฐาน คือ 10,000 คน และมีงบฯ เพียง 7 ล้าน ในปี 2567 เราใช้งบฯ 13 ล้านในสารเคมีจัดการยุงลาย ปรากฎว่าคนไข้ลดลง เหลือ 5,000 คน และในปี 2568 เราใช้งบ 12 ล้าน ปัจจุบันมีคนไข้ 1,500 คน หมายความว่า เราเริ่มใช้ประมาณ ประกอบกับอาสาสมัครสาธารณสุข และกระบวนการทางชีววิทยาที่ไม่ใช้สารเคมี ได้ผลครึ่งต่อครึ่ง ของทุกปีปฏิทิน ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน งบฯ อยู่ที่ประมาณ 12 ล้าน เท่ากับปีที่แล้ว
น.ส.ทวิดากล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องของสัตว์จรนั้น ในปี 2567 เราทำการผ่านตัดทำหมันสุนัขและแมวทั้งหมด 59,168 ในปี 2568 จนถึงปัจจุบันประมาณ 38,000 ตัว
“หน่วยที่เราออก ของสำนักอนามัย มีทั้งเปิดจองและวอล์กอิน ยอดที่เราทำในแต่ละวัน 80- 200 ตัว/ หน่วย ที่ออกทุกอาทิตย์ ปฏิทินสามารถพบได้ในเฟซบุ๊กทั่วไป และปฏิทินของสำนักอนามัยเอง หายังไม่ทั่วถึงต้องขออภัย
“เรามีวิธีการทำสัตว์ชุมชนอยู่ ซึ่งอาสามัครสาธารณสุข และเขตเป็นผู้สำรวจ กลับมาในฐานข้อมูล ทั้งหมดนี้อยู่ในฐานข้อมูลสำนักอนามัย” น.ส.ทวิดากล่าว
พร้อมรับปากว่าจะส่งฐานข้อมูล ที่แชร์ข้อมูลแทร็กกิ้งจากการสำรวจสัตว์ ให้แก่สมาชิก เพื่อรับทราบข้อมูลต่อไป
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ส.ก.คาใจ ‘ทำหมันสัตว์จรจัด’ แบบใดไม่มีใครรู้? ลั่น ข้อมูลเก่ายังไม่มา โครงการใหม่จะเกิดอีก
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th