รวบสองผู้ต้องหาแดนมังกรปลอมรอยตราประทับวีซ่าตบตาเจ้าหน้าที่หวังขอต่อวีซ่าระยะยาว
วันที่ 4 ส.ค.68 ที่ บก.ตม.1ตามนโยบายเน้นหนัก ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เกี่ยวกับการปราบปรามคนต่างด้าวที่กระทำความผิดกฎหมายอาญาในทุกรูปแบบอาชญากรรม โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคนเข้าเมือง หนังสือเดินทาง และตราประทับของทางราชการต่างๆ ซึ่งถือเป็นอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของ สตม.
โดยพฤติการณ์ที่เป็นที่มาของการจับกุมครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นหลังจาก พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ธวัชชัย หนองบัว ผกก.3 บก.ตม.1 และ ว่าที่ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 กรณีสืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้มี MR.TSAI (ไซ) สัญชาติ จีน (ไต้หวัน) อายุ 40 ปี ได้พา MR.ZHANG (จาง) สัญชาติ จีน อายุ 39 ปี มายื่นคำขออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อปฏิบัติงานช่างฝีมือ ให้กับบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ผ่านระบบสำหรับยื่นคำขอออนไลน์
ซึ่งผลการตรวจสอบคำขอเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้วเห็นว่า รอยตราประทับขาเข้าที่ปรากฏบนหนังสือเดินทางของ MR.ZHANG (จาง) เป็นการผ่อนผันการตรวจลงตราให้เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยว 60 วัน ซึ่งจะไม่สามารถขออยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีกได้ เนื่อจากขัดต่อระเบียบและหลักเกณฑ์ โดยเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ MR.ZHANG (จาง) เดินทางออก หรือขอเปลี่ยนประเภทการตรวจ ลงตราก่อน และต้องมายื่นเอกสารด้วยตนเอง
ต่อมาตามวันเวลาเกิดเหตุวันที่ 24 ก.ค.68 MR.TSAI (ไซ) จึงได้พา MR.ZHANG (จาง) มาพบเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด้วยตนเอง ณ ศูนย์บริการของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 บริเวณชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า One Bangkok ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. โดย MR.ZHANG (จาง) ได้ยื่นหนังสือเดินทางสัญชาติจีนของตน เพื่อแสดงให้กับเจ้าหน้าที่พิจารณา เจ้าหน้าที่เห็นความผิดสังเกต เกี่ยวกับรอยตราประทับขาเข้าที่ปรากฏบนหนังสือเดินทางฉบับดังกล่าว มีร่องรอยการขีดฆ่าและแก้ไขตัดทอน โดยเติมข้อความ เปลี่ยนจากเดิมคำว่า “ผ.60-ม.17” เป็น “NON-IB” เพื่อให้สามารถยื่นคำร้องขออยู่ในราชอาณาจักรต่อไปได้ จึงได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 นำโดย พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และ พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 มาตรวจสอบ จากการสอบปากคำเบื้องต้นในชั้นจับกุม MR.ZHANG (จาง) ปฏิเสธว่าตนมิได้เป็นผู้ขีดฆ่า และแก้ไขข้อความบนรอยตราประทับของหนังสือเดินทางของตน
แต่ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า MR.TSAI (ไซ) ซึ่งพาตนมาต่อวีซ่า เป็นผู้ทำการขีดฆ่า และแก้ไขเติมข้อความลงในหนังสือเดินทางของตน ก่อนเข้ามายื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงสอบถาม MR.TSAI (ไซ) ให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ปลอมขึ้นซึ่งดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับเดินทางต่างประเทศ” และแจ้งข้อกล่าวหา MR.ZHANG (จาง) ด้วยว่า “ใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้น” ส่ง พงส.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สตม. ขอเรียนประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนว่า การกระทำดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นด้วยเจตนาทุจริตก็ดี หรือด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ความผิดต่อหนังสือเดินทางหรือรอยตราประทับที่ใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศ ยังถือเป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่ชาติและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้กำชับและกวดขันในการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังมาโดยตลอด โดยความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษสูง คือจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท นอกจากนี้ การใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้นก็มีโทษเช่นเดียวกัน