เอส กันตพงศ์ ขอทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด สถานะสามี-ภรรยา ให้ฝ่ายหญิงเป็นคนพูด | เผยสาเหตุหัวใจวายเฉียบพลัน ปี 66 เพราะเครียดเรื่องครอบครัว
ไนน์เอ็นเตอร์เทน
อัพเดต 5 สิงหาคม 2568 เวลา 1.00 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • NineEntertain ข่าวบันเทิงอันดับ 1 ของไทยทำเอาแฟน ๆ แห่ให้กำลังใจและรอฟังจากปากเจ้าตัว สำหรับเรื่องราวครอบครัวของพระเอกหนุ่ม เอส กันตพงศ์ ที่คลุมเครือมานาน โดยก่อนหน้านี้เอสเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องแยกกันอยู่กับภรรยา คิตตี้ คริสติน่า หลังจากที่ฟื้นตัว และรักษาโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน ความจำบางส่วนหายไปเนื่องจากอาการป่วย ซึ่งแม้ออกจากโรงพยาบาล แต่ความทรงจำยังไม่กลับมาสมบูรณ์ เอสจึงแยกตัวไปอยู่ที่บ้านของคุณแม่ เพราะไม่อยากโยนความเครียดไปให้ลูก ทำให้พักหลังจึงไม่ค่อยได้เห็นโมเมนต์ครอบครัวแสนสุขเหมือนก่อน กระทั่งชาวเน็ตเกิดความสงสัยว่าทั้งคู่ได้เลิกรากันแล้วหรือไม่ เพราะไม่เห็นรูปคู่ของเอสในอินสตาแกรมของคิตตี้ รวมถึงรูปเก่าที่มีก็เหมือนจะถูกลบออกไปหมดแล้ว
จนปลายเดือนที่ผ่านมา (30 ก.ค. 68) ทุกอย่างก็กระจ่างชัด เมื่อ คิตตี้ ได้โพสต์อินสตาแกรมสตอรี่ให้ถามคำถามที่อยากรู้ ชาวเน็ตรายหนึ่งจึงถามคิตตี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเอสว่า “ขอโทษที่ถามคำถามนี้ คุณยังอยู่กับพ่อของลูกที่เมืองไทยหรือเปล่า” ซึ่งคิตตี้ก็ได้ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษระบุชัดเจนว่าทั้งคู่ได้หย่าร้างกันมาสักพักแล้ว โดยข้อความนั้นระบุว่า “ถามได้เลยค่ะ ฉันยังอยู่เมืองไทย แต่ฉันหย่ามาพักใหญ่แล้ว ฉันเคยโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เหมือนจะไม่ค่อยมีคนเห็น”
ล่าสุดวันนี้ (4 ส.ค. 68) เอส ได้เผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ตนยอมรับว่าไม่ได้พูดถึงเรื่องครอบครัวมานาน เพราะกังวลว่าเมื่อสื่อออกไปแล้วลูกโตมาจะเห็น อยากบอกเพียงว่าตนได้ทำหน้าที่ประคับประคองครอบครัวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว สิ่งที่อดีตภรรยาต้องการตนไม่มีสิทธิ์ไปขัดขวาง ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา พร้อมเปิดใจครั้งแรกว่า ตนได้รู้สาเหตุอาการป่วยของตัวเองแล้ว หลังความทรงจำได้กลับมา พบว่า ตนเป็นโรคไมเกรนตั้งแต่เด็ก ซึ่งหากเจอเรื่องเครียดขั้นสุดหนัก ๆ ก็จะทำให้มีภาวะหัวใจวายได้ คือ การได้ยินประโยคเดิมจากคนเดิมที่ทำให้เกิดความเครียด จนกระตุ้นไปกระทบต่อหัวใจ โดยตอนนี้ความจำเพิ่งกลับมาได้ 1-2 เดือน ทราบแล้วว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นถึงได้เกิดอาการป่วย ตอนแรกตนก็นึกว่าคิดไปเอง กระทั่งได้ไปถามคนรอบตัว จึงรู้ว่าช่วงนั้นได้มาปรึกษาเรื่องครอบครัวจริง ๆ ทุกวันนี้ก็พยายามหากิจกรรมที่ทำให้ไม่ต้องคิดเยอะ เพื่อที่จะได้ผ่อนคลาย
สำหรับเรื่องลูก ตอนนี้ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อ-แม่เหมือนเดิม เพื่อไม่ให้กระทบกับลูก ซึ่งคิตตี้เองก็ยังอยู่ประเทศไทย ยังติดต่อกันได้อยู่ แต่ตนไม่รู้ว่าอดีตภรรยาพักที่ไหน ส่วนลูกก็สลับไปมาทั้ง 2 ฝ่าย ยอมรับว่ายังไม่รู้ว่าจากนี้จะเอายังไงต่อ รอให้อีกฝ่ายเป็นคนพูดดีกว่า พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจจากทุกช่องทางทั้งแฟนคลับและคนรอบตัวที่ส่งมาให้เสมอ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน