โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ทรูคอร์ปอเรชั่น โชว์ผลงาน Q1/68 กำไรสุทธิ 2.0 พันล้าน ทำกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน

สยามรัฐ

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทรูคอร์ปอเรชั่น รายงานผลกำไรหลังหักภาษีประจำไตรมาส 2/2568 เป็นมูลค่ากว่า 2.0 พันล้านบาท ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันที่ผลการดำเนินงานของบริษัทพลิกกลับมาทำกำไร โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท ในส่วน EBITDA ยังคงมีแนวโน้มการปรับตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการควบรวมกิจการ โดยเป็นผลจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการ

วันที่ 5 สิงหาคม 2568 นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานทางการเงินในไตรมาสที่ 2 ยังคงทรงตัว ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายและเหตุการณ์โครงข่ายขัดข้องชั่วคราว โดยทรู คอร์ปอเรชั่น สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ตามความมุ่งมั่นของเราต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ การที่ทรูชนะการประมูลคลื่นความถี่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ทรูครอบครองคลื่นความถี่ครบและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะใช้ประโยชน์จากการจัดสรรคลื่นความถี่นี้มาเพื่อเพิ่มความสามารถของเครือข่าย รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแห่งอนาคต รวมถึงการเร่งผลักดันบริการทางดิจิทัลใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กร และเพื่อให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เราจึงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตแบบพลิกโฉม ผ่านการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และการเสริมสร้างความเป็นผู้นำในตลาดอย่างยั่งยืน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ทรู คอร์ปอเรชั่น มุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ จากความพยายามลดจำนวนผู้ใช้งานใหม่จากการหมุนเวียนของฐานลูกค้าเดิมลง (rotational gross adds) รวมทั้งการปรับปรุงโครงสร้างค่าใช้จ่ายด้านคอมมิชชั่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ จำนวนผู้ใช้บริการยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยลดลง จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไตรมาส 2/2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 47.5 ล้านเลขหมาย ลดลง 2.9 ล้านเลขหมาย หรือลดลง 5.8% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตบ้านเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 3.8 ล้านราย และ ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 จำนวนผู้ใช้บริการ 5G มีจำนวน 14.7 ล้านเลขหมาย

นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2568 มีกำไรสุทธิหลังหักภาษี เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้หลักชะลอตัวลงในระหว่างไตรมาสที่สอง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากเหตุการณ์ระบบโครงข่ายขัดข้องชั่วคราว ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อรายได้จากบริการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่

ไตรมาส 2/2568 รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย IC ลดลง 0.6% เทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นผลจากการลดลงของกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิก ชดเชยบางส่วนจากการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ เมื่อปรับปรุงผลกระทบจากเหตุการณ์โครงข่ายขัดข้องชั่วคราว และการลดลงของรายได้จากการให้บริการข้ามโครงข่ายภายในประเทศ รายได้จากการให้บริการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และไตรมาสก่อน ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานรายได้รวมลดลง 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นผลจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการ การลดลงของรายได้ค่าเช่าโครงข่ายอันเป็นผลจากการโอนย้ายผู้ใช้บริการออกจากคลื่น 850 MHz ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนสิงหาคม 2568 และรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลดลงจากปัจจัยตามฤดูกาล

สำหรับไตรมาส 2/2568 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ D&A ลดลง 8.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน ต้นทุนโครงข่ายลดลง 7.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงและการประหยัดต้นทุนจากการดำเนินการพัฒนาโครงข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลง 12.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับผลประโยชน์จากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการ จากการปรับโครงสร้างองค์กรให้ทันสมัยและการริเริ่มกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ ด้วยการบูรณาการกรอบการดำเนินงานที่มุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืนและวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง”

ทรู คอร์ปอเรชั่น บันทึกการปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA จำนวน 5.5 พันล้านบาท นับตั้งแต่การควบรวมกิจการ สะท้อนถึงความสามารถทางการเงินที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องของ EBITDA สำหรับ EBITDA ในไตรมาส 2/2568 ปรับตัวดีขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยได้รับผลกระทบเชิงลบจากการลดลงของรายได้ อันเป็นผลจากเหตุการณ์โครงข่ายขัดข้องชั่วคราว และรายได้จากการให้บริการข้ามโครงข่ายภายในประเทศที่ลดลง สำหรับ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน EBITDA ยังคงได้รับประโยชน์จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการ ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการรักษาวินัยทางการเงิน อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้จากการให้บริการปรับตัวดีขึ้น 2.2 จุดเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 60.8% สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 อัตราส่วนหนี้สินต่อกำไรของทรู คอร์ปอเรชั่น อยู่ที่ 4.0 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 ลดลง 0.7 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลง 0.1 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

สำหรับไตรมาส 2/2568 ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานกำไรสุทธิหลังหักภาษี 2.0 พันล้านบาท ทรู คอร์ปอเรชั่น บันทึกผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (one-time costs) จำนวน 2.5 พันล้านบาทที่เกี่ยวข้องกับการด้อยค่าสินทรัพย์จากการดำเนินการพัฒนาโครงข่ายให้ทันสมัย และการยุติบริการคลื่น 850 MHz เมื่อปรับปรุงผลกระทบจากรายการครั้งเดียวและผลประโยชน์ทางภาษีในไตรมาส 2/2568 จำนวน 368 ล้านบาท กำไรสุทธิหลังหักภาษีมีจำนวน 4.2 พันล้านบาท ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) สำหรับไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นต้นทุนการบูรณาการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาโครงข่ายให้ทันสมัย

จากภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นอุปสรรคต่อประเทศไทยในปี 2568 การปรับลดแนวโน้มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และผลกระทบจากเหตุการณ์โครงข่ายขัดข้องชี่วคราวต่อรายได้จากการให้บริการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ คณะผู้บริหารบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จึงได้ปรับเป้าหมายการดำเนินงานปี 2568 คณะผู้บริหารคาดว่ารายได้จากการให้บริการจะทรงตัว ถึงเติบโต 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย IC และการให้บริการข้ามโครงข่ายภายในประเทศกับ NT แนวโน้ม EBITDA เติบโต 7-8% สำหรับทั้งปี ขณะที่เงินลงทุน (CAPEX) คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 2.8-3.0 หมื่นล้านบาทสำหรับปี 2568 (ไม่เปลี่ยนแปลง) และจะยังคงมีกำไรตลอดทั้งปี 2568 ตามรายงานงบการเงิน (ไม่เปลี่ยนแปลง)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ติวฟรี CU-TEP 20 ส.ค.นี้

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สยามเซ็นเตอร์ และ Absolute Siam นำเสนอ ลงนวมบอยส์ แบรนด์เสื้อผ้าสะท้อนตัวตนไปพร้อมกับวัฒนธรรมไทย

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สยามเซ็นเตอร์ ชวนร่วมการผจญภัยของเหล่าเพื่อนรัก ZO&FRIENDS 1st POP-UP in BANGKOK

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

GULF ฉลอง 10 ปี “ศูนย์การเรียนรู้เกษตรฯ โรงไฟฟ้าหนองแซง” เปิดโลกวิถีชาวนาไทย-โชว์นวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ครบวงจร

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

SONP จับมือ Google เวิร์คช็อปเข้ม การใช้เครื่องมือ AI ในกองบรรณาธิการ

สยามรัฐ

TU ตัดขาย “ไทยยูเนี่ยน ไลฟ์ไซเอนซ์” ทั้งหมด ไร้ผลกระทบการดำเนินงาน

ข่าวหุ้นธุรกิจ

โตชิบาเดินหน้ากลยุทธ์รีเทล เปิด Flagship Store ใหม่ ตอกย้ำจุดยืนแบรนด์คุณภาพญี่ปุ่น

สยามรัฐ

CPF เปิดแผนรับมือ Tariff “เทคโนโลยี-กระจายรายได้” สู้ศึกหมูนำเข้า

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อั้นไว้ก่อน! OR-BCP ลดราคา “เบนซิน-แก๊สโซฮอล์” 40 สต. มีผลพรุ่งนี้

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ไม่ต้องกลัวลืม...จ่ายค่าผ่านทางพิเศษ แค่สมัคร Easy Pass วันนี้ แถม! รับเงินคืน 50 บาท

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...