‘วิตามิน’ กินอย่างไรให้ร่างกายได้ผลดี
“วิตามิน” เป็นสิ่งเสริมสร้างให้สุขภาพแข็งแรง ซึ่งนอกจากได้จากการรับประทานอาหารหลากหลายประเภทแล้ว ยังมีการกินวิตามินเสริมเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยมีเคล็ดไม่ลับในการกินวิตามินชนิดต่างๆ ให้เกิดประสิทธิผล
“โรงพยาบาลนครธน” มีสาระน่ารู้มาบอกเล่าเรื่องช่วงเวลาการกินวิตามินแต่ละชนิดที่แตกต่างกันไป และควรกินวิตามินคู่กับอะไร เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินสูงสุด โดยวิตามินที่เรารับประทานกันนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือวิตามินกลุ่มที่ละลายในน้ำ และกลุ่มละลายในไขมัน
1.วิตามินกลุ่มที่ละลายในน้ำเป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ ส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะโดยไม่สะสมในร่างกาย ได้แก่
-วิตามินซี ควรกินหลังอาหารเช้าแล้วดื่มน้ำตามเยอะๆ ทั้งนี้ควรแบ่งกินครั้งละ 500 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน หรือจนครบขนาดที่แนะนำ เนื่องจากร่างกายดูดซึมได้ปริมาณจำกัด
-วิตามินบีรวม (B-complex vitamins) อาทิ บี 1, 2, 3, 5, 6, 9 และ 12 ควรกินก่อนอาหาร 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพราะร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุด
-วิตามินบี 12 (Vitamin B12) ควรกินช่วงท้องว่าง จะทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดี และแนะนำให้กินร่วมกับโฟลิก (Folic acid)
-ธาตุเหล็ก (Iron) ควรกินขณะท้องว่าง จะทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีที่สุด
-แคลเซียม (Calcium) มี 2 ชนิด ได้แก่ แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate) ควรกินหลังอาหารทันที ดูดซึมได้ดีสุดหลังอาหารที่มีความเป็นกรด และแคลเซียมซิเทรท (Calcium citrate) ควรกินตอนท้องว่าง แต่เลี่ยงกินพร้อมยาอื่นๆ เพราะจะไปลดฤทธิ์ของยาได้
-สังกะสี (Zinc) ควรกินขณะท้องว่าง โดยอาจจะกิน 1 ชั่วโมงก่อนอาหาร หรือ 2 ชั่วโมง หลังอาหาร และที่สำคัญไม่ควรกินพร้อมกับแคลเซียมและธาตุเหล็ก
2.วิตามินกลุ่มละลายในไขมัน
ได้แก่ วิตามิน เอ, ดี, อี, เค และวิตามินโคเอนไซม์ คิว 10 (Co Q10) รวมถึงวิตามินตัวอื่นๆที่ละลายในไขมันได้ดี
ควรกินหลังอาหารจะดีที่สุด เนื่องจากจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น พร้อมกับไขมันในอาหารที่กินเข้าไป
ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญในการรับประทานวิตามินแต่ละชนิด คือ เรื่องปริมาณ ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะวิตามินบางชนิด เช่น กลุ่มที่ละลายในไขมัน หากรับประทานในปริมาณที่สูงเกินไปหรือต่อเนื่องนานเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับร่างกายได้ จึงควรปรึกษาจากแพทย์ เพราะจะทำให้ได้รับวิตามินที่ร่างกายต้องการในปริมาณที่เหมาะสมที่สุด