AOT เร่งเครื่องพัฒนา 6 สนามบิน ปักธงผู้นำท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก
นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT กล่าวว่า AOT ได้มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทางอากาศ อีกทั้งยังมีบทบาทโดยตรงต่อระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ด้วยการพัฒนาท่าอากาศยาน ให้มีความทันสมัยเพื่อรองรับหน้าที่ “ประตูสู่ประเทศ” โดยมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub)
นอกจากนี้ AOT ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่ระดับสากล ควบคู่กับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบินและไม่เกี่ยวกับการบิน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม
ทั้งนี้เพื่อรองรับปริมาณของผู้โดยสาร และเที่ยวบิน ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากสถิติพบว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม 2567 - พฤษภาคม 2568) มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ของ AOT รวม 88.53 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีเที่ยวบิน 544,590 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.9%
นอกจากนี้ AOT ได้ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในปีงบประมาณ 2569 (เดือนตุลาคม 2568-กันยายน 2569) คาดว่าจะมี ผู้โดยสารรวมกว่า 130 ล้านคน เที่ยวบินรวมกว่า 859,000 เที่ยวบิน และคาดว่าจะมีจำนวนสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ (Cargo) ประมาณ 1.64 ล้านตัน
ดังนั้น AOT จึงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อยกระดับ ทั้งในด้านคุณภาพการให้บริการ และการเพิ่มประสิทธิภาพด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย รวดเร็ว น่าประทับใจ และรองรับการเติบโตของผู้โดยสารในอนาคต โดยเน้นแนวคิด “World Class Hospitality” ที่มุ่งเน้นการให้บริการที่เหนือระดับ ความใส่ใจ และการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าบ้านที่ยินดีต้อนรับอย่างอบอุ่น
โดยคำนึงถึงความปลอดภัยตลอดการเดินทางเป็นสำคัญ ซึ่งในกระบวนการให้บริการผู้โดยสารภายในสนามบิน AOT มีการเก็บสถิติระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้โดยสารใช้เวลาผ่านทุกขั้นตอน
โดยพบว่า ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถิติดีกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ อาทิ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีสถิติผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ย 21 นาทีต่อคน ขาออกระหว่างประเทศ 27 นาทีต่อคน และผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ 14 นาทีต่อคน ขาออกภายในประเทศ 15 นาทีต่อคน ท่าอากาศยานดอนเมืองมีสถิติผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ย 21 นาทีต่อคน ขาออกระหว่าง ประเทศ 22 นาทีต่อคน และผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ 8 นาทีต่อคน ขาออกภายในประเทศ 10 นาทีต่อคน
อีกทั้ง AOT ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง กับการยกระดับคุณภาพการให้บริการ (Airport Service Quality) ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ซึ่งหนึ่งในภารกิจที่สำคัญ คือ การผลักดันและขับเคลื่อนแผนปรับปรุงพื้นที่ให้บริการภายในท่าอากาศยานให้มีความทันสมัย โปร่ง โล่ง สบาย ผ่อนคลาย และสะอาด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสารในปัจจุบัน
เช่น การจัดโซนนิ่งในอาคารผู้โดยสารใหม่ให้เหมาะสม จัดพื้นที่สันทนาการ สนามเด็กเล่น พื้นที่พักคอยในบรรยากาศผ่อนคลาย เพิ่มจุดให้บริการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงจัดการแสดงศิลปะวัฒนธรรมทั้งไทยและสากล เป็นต้น
สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการมากสุด AOT มีแผนจะผลักดันให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก้าวเป็นศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค ยกระดับประสบการณ์และความพึงพอใจของ ผู้โดยสาร ผ่านโครงการ “Suvarnabhumi Airport Experience Enhancement” ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก Concourse C เพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับ
ผู้โดยสารทุกเพศทุกวัย เช่น Kids and Gaming Zone สำหรับผู้โดยสาร กลุ่มครอบครัว และพื้นที่ Relaxing Co-Working Space Zone และ Digital Park Seats สำหรับกลุ่มวัยทำงาน พร้อมเปิดใช้งานได้ภายในปี 2569 นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการปรับปรุงห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้งในส่วนของอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จภายในปี 2571
ขณะที่ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AOT จะเร่งดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ตามปริมาณการเติบโตของผู้โดยสาร โดย “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” จะเร่งก่อสร้าง “ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก” (East Expansion) ให้แล้วเสร็จในปี 2573 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถจากปัจจุบัน 65 ล้านคนต่อปี เป็น 80 ล้านคนต่อปี
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ควบคู่กับการเริ่มดำเนินโครงการ “พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านทิศใต้” ประกอบด้วย อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) และทางวิ่งเส้นที่ 4 (4th Runway)
สำหรับ “ท่าอากาศยานดอนเมือง” คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างอาคาร ผู้โดยสารอาคาร 3 ได้ภายในปี 2569 และเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 เพื่อรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศในปี 2573 และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศในปี 2575
พร้อมกันนี้จะปรับปรุง “ท่าอากาศยานเชียงใหม่” ให้แล้วเสร็จในปี 2576 รองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคนต่อปี ส่วน “ท่าอากาศยานภูเก็ต” จะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานภูเก็ตเป็น 18 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 “ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย” มีแผนจะพัฒนาให้รองรับผู้โดยสารจาก 3 ล้านคนต่อปี เป็น 6 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2576
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,113 วันที่ 13 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568