ผู้ป่วยเบาหวาน ไตเริ่มเสื่อม หมอสั่งให้ดื่มกาแฟ 1 ชนิดทุกวัน ผลลัพธ์สุดทึ่ง
ผู้ป่วยเบาหวาน ไตเริ่มเสื่อม หมอสั่งให้ดื่มกาแฟ 1 ชนิดทุกวัน ผ่านไป 3 เดือนผลลัพธ์สุดทึ่ง
การดื่มกาแฟดำในปริมาณเหมาะสมทุกวัน ไม่เพียงช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัว แต่ยังอาจส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย โดยมีรายงานจากการสังเกตทางคลินิกพบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาล ความดัน และไขมันในเลือด พร้อมกับดื่มกาแฟดำทุกวันในปริมาณพอเหมาะ อาจช่วยปรับปรุงค่าการทำงานของไต และช่วยชะลอความรุนแรงของโรคไตได้
นพ.หง หย่งเซียง (洪永祥) แพทย์โรคไตชื่อดัง ได้เปิดเผยในรายการโทรทัศน์ สุขภาพดีมีชีวิต ว่า ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ว่า กาแฟไม่เพียงช่วยเพิ่มอัตราการกรองของไต (GFR) แต่ยังช่วยลดระดับโปรตีนในปัสสาวะอีกด้วย โดยได้ยกกรณีตัวอย่างของผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี ที่เป็นเบาหวานมากว่า 15 ปี และถูกส่งตัวมาจากแผนกต่อมไร้ท่อ เนื่องจากค่าการกรองของไตลดลงเหลือเพียง 50 และมีภาวะโปรตีนในปัสสาวะ ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคไตจากเบาหวาน
คุณหมอจึงแนะนำให้ผู้ป่วยควบคุมระดับน้ำตาล ความดัน และไขมันอย่างเคร่งครัด รวมถึงให้เพิ่มอาหารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น ผักผลไม้หลากสี น้ำมันมะกอก และน้ำมันเมล็ดชา พร้อมทั้งดื่ม "กาแฟดำ" วันละ 1–2 ถ้วยทุกวัน ผลการรักษาหลังผ่านไป 3 เดือน พบว่าโปรตีนในปัสสาวะลดลงจนแทบไม่ตรวจพบ และค่าการกรองของไตดีขึ้นจนเกิน 60 ซึ่งทำให้ผู้ป่วยดีใจมาก เพราะไม่คิดว่ากาแฟดำจะช่วยเรื่องไตได้
อย่างไรก็ตาม นพ.หง หย่งเซียง ย้ำว่า ปริมาณคาเฟอีนที่ผู้ใหญ่ควรบริโภคต่อวันไม่ควรเกิน 300 มิลลิกรัม โดยกาแฟคั่วเข้มขนาด 360 ซีซี มีคาเฟอีนประมาณ 235 มิลลิกรัม ส่วนกาแฟอเมริกาโนในปริมาณเดียวกันมีราว 150 มิลลิกรัม ดังนั้นควรจำกัดไม่ให้เกินวันละ 2 ถ้วย
นอกจากนี้ ยังมีช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการดื่มกาแฟ โดยแนะนำให้ดื่มในช่วง 09:30–10:30 น. เพื่อช่วยกระตุ้นสมองให้เข้าสู่โหมดการทำงาน และช่วง 14:30–15:30 น. เพื่อบรรเทาความง่วงช่วงบ่าย แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มหลัง 17:00 น. เพราะอาจรบกวนคุณภาพการนอนหลับได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มดื่มกาแฟดำเป็นประจำ และไม่ควรเปลี่ยนแผนการรักษาหรือรับประทานอาหารหรือยาใดๆ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากแพทย์ผู้ดูแล เนื่องจากร่างกายและข้อจำกัดของแต่ละคนต่างกัน ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อสุขภาพในระยะยาว