เกาะติดสถานการณ์เหตุปะทะไทย-กัมพูชา 30 ก.ค. 68 กัมพูชาละเมิดหยุดยิง!
เกิดการปะทะช่วงดึกจนเช้ามืด
เดิมทีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาดูจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หลังจากเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 68 แม่ทัพภาคของไทยได้หารือกับผู้บัญชาการทหารกัมพูชา กำหนดประเด็นเห็นชอบร่วมกันให้หยุดยิงและห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง ระหว่างรอการประชุม GBC ในวันที่ 4 ส.ค. 68
แต่ปรากฏว่าช่วงดึกวันเดียวกันกลับเกิดกรณีเหตุประทะบริเวณภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยกองทัพบกแจ้งว่า วันที่ 29 ก.ค.68 ช่วงกลางคืนมีเหตุใช้อาวุธปะทะกัน
พื้นที่ช่องอานม้า เวลา 21.30 น. มีเหตุการณ์ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงเข้ามายังที่ตั้งทหารไทย ทำให้ทหารไทยต้องยิงตอบโต้กลับไป และเกิดการยิงตอบโต้กันไปมา ใช้เวลา 30 นาที เสียงปืนจึงได้สงบลง
พื้นที่ภูมะเขือ เวลา 22.00 น. ฝ่ายกัมพูชาใช้ทั้งอาวุธปืนเล็ก และปืน ค. ยิงใส่ที่ตั้งทหารไทย ทำให้ทหารไทยต้องยิงตอบโต้กลับไป จึงทำให้เกิดการยิงตอบโต้กันไปมาตลอดเกือบทั้งคืน
กองทัพบกระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการแสดงถึงท่าทีที่ไม่ตั้งใจจริงของกัมพูชา เจตนาที่จะละเมิดในข้อตกลงที่รัฐบาลทั้งสองประเทศได้ตกลงกันแล้ว ซึ่งฝ่ายไทยเองได้ปฏิบัติตามพันธกรณี ที่รัฐบาลทั้งสอง ได้ตกลงกันแล้วอย่างเคร่งครัด
กองทัพบกจึงขอประนามต่อการกระทำดังกล่าวอีกเป็นครั้งที่ 2 เชื่อว่าจะมีผลต่อภาพลักษณ์ของกัมพูชาอย่างรุนแรงแรง ในสายตาของชาวโลก ต่อการกระทำในลักษณะเช่นนี้
ต่อมาเช้าวันที่ 30 ก.ค. 68 รองโษฆกกองทัพบกเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากหน่วยในพื้นที่ภูมะเขือว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 04.15 น. ถึง 05.25 น. ยังมีการยิงก่อกวนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า วันนี้จะมีการประชุมฉุกเฉิน ศบ.ทก. ในเวลา 09.00 น. เพื่อกำหนดท่าทีต่อกัมพูชาที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ทบ. เผย ไทม์ไลน์ เขมร ไม่หยุดยิงภูมะเขือ
เวลา 07.30 น. กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดน ช่วงเช้าของวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิง แต่ทางฝ่ายกัมพูชา ยังไม่หยุดโดยได้รับแจ้งจากหน่วยในพื้นที่ภูมะเขือ ตั้งแต่เวลาประมาณ 04.15 น. ถึง 05.25 น. ยังมีการยิงก่อกวนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง-เช้า ทหารไทยจะจำเป็นต้องตอบโต้ตามสถานการณ์ทั้งนี้ไล่เรียงไทม์ไลน์ช่วงกัมพูชาได้ใช้อาวุธปืนยิงฝั่งไทยตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา (29 ก.ค.)
- เริ่มที่ เวลา 22.24 น. ทบ. แจ้ง 2 จุด ภูมะเขือ อานม้า
- เวลา 23.27 น. ทบ. แก้ เป็น ที่ ภูมะเขือ ที่เดียว
- เวลา 01.43 น. ทบ.สรุป 2 พื้นที่ ภูมะเขือ และ ช่องอานม้า (ปะทะแค่ 30นาที
- เวลา 04.15 - 05.25 ทบ. เผย ภูมะเขือ ยังมียิงก่อกวนเข้ามา ต่อเนื่อง
เวลา 08.40 น .กระทรวงการต่างประเทศ แถลงการณ์เรื่อง การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยกองกำลังกัมพูชา ในช่วงค่ำของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา
กองกำลังของกัมพูชาโจมตีไทยด้วยอาวุธปืนขนาดเล็กและระเบิดมือในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ การโจมตียังคงดำเนินต่อไปจนถึงเช้าวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการโจมตีหลังจากทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยกองกำลังของกัมพูชาและแสดงให้เห็นถึงการขาดเจตนารมณ์ที่ดีอย่างชัดเจน
ประเทศไทยขอย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มที่ ตลอดจนการแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี และขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทุกรูปแบบโดยทันที และกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างครบถ้วน
พบข้อมูลกัมพูชาเคลื่อนกำลัง 4 จุด
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญของสถานการณ์ถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่าหลังการเจรจาหยุดยิงของทั้งสองฝ่าย ปรากฎการคุกคามของกองกำลังกัมพูชาใน 4 เหตุการณ์
- พื้นที่ช่องคานม้า ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา และตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินตรวจการณ์การวางกำลังของฝ่ายเรา จากนั้นในห้วงกลางคืนมีการปะทะกันด้วยปืนเล็ก
- พื้นที่ภูมะเขือ ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา และตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ตรวจการณ์การวางกำลังของฝ่ายเรา จากนั้นในห้วงกลางคืนมีการปะทะกันด้วยปืนเล็ก
- พื้นที่ผามออีแดง กำลังประเทศกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุน (ค.100) โจมตีเข้ามายังฐานปฏิบัติการฝ่ายเรา แต่ฝ่ายเราไม่มีการตอบโต้แต่อย่างใด (กำลังพลปลอดภัย)
- พื้นที่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังของกำลังประเทศกัมพูชา
กัมพูชาอ้างต้องการพรมแดนที่สงบสุข-เป็นมิตร
พลโท มาลี โสเจียตา ปลัดกระทรวงกลาโหมและโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อเช้าวันที่ 30 ก.ค. 68 ว่า กัมพูชาปรารถนาให้มีพรมแดนที่สงบสุข เป็นมิตร และร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกันและการพัฒนาที่ยั่งยืน
โฆษกยืนยันความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของกัมพูชาในการรักษาและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงร่วมระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทย
เธอยังเน้นย้ำถึงการยึดมั่นของราชอาณาจักรกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือพหุภาคี
นอจากนี้ ในการแถลงข่าวเดียวกัน เพ็ญ โบนา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะโฆษกรัฐบาลกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะธำรงไว้ซึ่งสันติภาพไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม และบอกว่า ข้อกล่าวหาล่าสุดของไทยไม่ได้สะท้อนถึงธรรมชาติที่แท้จริงของกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่รักสันติ
เพ็ญ โบนา กล่าวว่า “ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา สันติภาพได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของกัมพูชา”
เขาเสริมว่า “เราบรรลุสันติภาพอย่างสมบูรณ์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2541 ผ่านนโยบายที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ (Win-Win Policy) ของสมเด็จเดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภาคนปัจจุบัน สันติภาพคือรากฐานของการพัฒนาและการเติบโตของกัมพูชาในปัจจุบัน”
เพ็ญ โบนา บอกอีกว่า “นั่นคือเหตุผลที่รัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการรักษาสันติภาพสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”
ฝ่ายความมั่นคงแจง ปมสัญญาณเสียงชายแดน ไม่โยงไทย-กัมพูชา – ชี้ชาวรัสเซียวางระบบสื่อสารในลาว
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีการเสนอข่าว อ้างว่าบริเวณพื้นที่แนวชายแดนตรวจไทย-กัมพูชา ตรวจจับ ‘สัญญาณเสียงสนทนา’ เป็นภาษารัสเซียได้นั้น
ทั้งนี้มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคง ว่า สัญญาณเสียงดังกล่าว มาจากฝั่งประเทศลาว ไม่ใช่จากประเทศกัมพูชา ซึ่งชาวรัสเซียได้เข้าไปวางระบบสื่อสารต่างๆ ให้ประเทศลาวมานานแล้ว จึงไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาแต่อย่างใด
กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาอ้าง ไม่เคยกระทำการใดที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ทั้งนี้ วันที่ 30 ก.ค. 68 เวลา 00.10 น. กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
โดยระบุว่า “รัฐบาลกัมพูชาขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อรัฐบาลมาเลเซียและสหรัฐฯ สำหรับบทบาทสำคัญในการร่วมจัดการประชุมสมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2568 เพื่อแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย”
“กัมพูชายังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งการมีส่วนร่วมของพวกเขามีส่วนช่วยสนับสนุนกระบวนการเจรจา”
“ในฐานะภาคีที่มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าต่อสันติภาพ กัมพูชาขอยืนยันอย่างหนักแน่นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2568 ณ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย อย่างเต็มที่และแน่วแน่”
“ความมุ่งมั่นของกัมพูชาที่จะรักษาข้อตกลงหยุดยิงนี้ไว้เป็นความแน่วแน่และยั่งยืน กองทัพกัมพูชาไม่เคยกระทำการใด ๆ ที่อาจตีความได้ว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งขัดต่อข้อกล่าวหาที่กุขึ้นในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทย ซึ่งออกเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2568 อย่างสิ้นเชิง”
“รัฐบาลกัมพูชาขอปฏิเสธข้อกล่าวหาที่บิดเบือนและกุขึ้นมาอย่างหนักแน่น ซึ่งบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ และคุกคามความไว้วางใจและการเจรจาอันเปราะบางซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อสันติภาพที่ยั่งยืน”
“กัมพูชาขอย้ำว่าไม่มีความตั้งใจที่จะละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไม่ว่าในปัจจุบันหรือในอนาคต เป้าหมายหลักของเราคือการทำให้สันติภาพไม่เพียงแต่ดำรงอยู่เท่านั้น แต่ยังยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศและเสถียรภาพของภูมิภาคโดยรวม”
ว่าที่เอกอัครราชทูตเตือนไทย ขัดแย้งกับกัมพูชาไม่ช่วยอะไร
“ฌอน โอนีล” ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ว่า หากได้รับการยืนยันว่าได้ตำแหน่งดังกล่าว เขาจะแจ้งต่อไทยว่า ความขัดแย้ง เช่น การปะทะกันบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ไม่ได้ช่วยอะไรประชาชนชาวไทยหรือพันธมิตรของไทยกับสหรัฐฯ เลย
โอนีลเป็นเจ้าหน้าที่การต่างประเทศประจำประเทศไทย ซึ่งเคยรับราชการนักการทูตในประเทศไทยมาแล้ว 2 ครั้ง
เขาแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในการพิจารณารับรองของวุฒิสภา
โดยเมื่อถูกถามว่าเขาจะทำอย่างไรเพื่อให้การหยุดยิงกลายเป็นข้อตกลงสันติภาพระยะยาว โอนีลกล่าวว่า “ผมคิดว่าสิ่งแรกที่ผมจะทำคือการชี้ให้ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสนธิสัญญาเพียงไม่กี่ประเทศในเอเชีย เห็นว่าสงครามเช่นนี้ ความขัดแย้งเช่นนี้ ไม่ได้ช่วยประชาชนของพวกเขาเลย”
“พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อเสริมสร้างพันธมิตรของเรา พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาที่ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญอยู่ พวกเขาเป็นเพียงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินโดยไม่จำเป็น”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.ควบคุมทหารกัมพูชาตกค้าง 18 นาย ยึดพื้นที่ซำแต พร้อมอาวุธครบมือ
"มาริษ" ร่อนประท้วงทั่วโลก ชี้กัมพูชายิงซ้ำหลังเจรจา ไทยยังเป็นสุภาพบุรุษเวทีโลก
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เกาะติดสถานการณ์เหตุปะทะไทย-กัมพูชา 30 ก.ค. 68 กัมพูชาละเมิดหยุดยิง!
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com