โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

แพ้ศึกนอก พ่ายศึกใน!?

สยามรัฐ

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หลายคนที่รู้จัก “ทักษิณ ชินวัตร” รู้ดีว่า สนามไหนที่สู้แล้วไม่มีทางชนะ เขาจะไม่เลือกลงไปเล่นให้เสียเวลา แต่ทว่า ทักษิณ ใน ณ ปัจจุบันนี้ ย่อมแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เพราะสังเวียนที่กำลังโลดแล่นอยู่เวลานี้ นอกจากจะเป็นฝ่าย “ถูกบีบ” ให้ต้องเล่นแล้ว กลับยังมองไม่เห็น “ทางชนะ” ได้อีกต่างหาก

ทักษิณ วันนี้ แม้ยังมีรอยยิ้ม แต่ในแววตาอาจอ่อนล้าเต็มที เพราะสิ่งที่เผชิญอยู่ กำลังกดดัน และล้อมกรอบเขา ไปจนถึง “ครอบครัวชินวัตร” ให้เดินไปสู่ “มุมอับ”

การเดินหน้าบริหารประเทศของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย และ “นายกฯ” ของพรรค จาก “เศรษฐา ทวีสิน” มาถึง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯคนที่ 31 แต่ดูเหมือนว่า 2 ปีสำหรับการเป็นรัฐบาล ถูกมองว่า “สูญเปล่า” เพราะนอกจาก “นโยบายเรือธง” ที่เคยประกาศเอาไว้ ขยับแทบไม่ออก

ปรากฏว่า “คะแนนนิยม” กลับดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ของรัฐบาลเอง ไปจนถึง “ความเชื่อมั่น” ที่ประชาชนมีต่อ นายกฯแพทองธาร กำลังถดถอยอย่างน่าใจหาย

ล่าสุดรัฐบาลยังถูกซ้ำเติมจาก “ศึกนอก” นั่นคือปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทยกับกัมพูชา ที่บานปลายไปจนถึงขั้น “ปะทะกัน” กินเวลาถึง 5 วันทำให้ต้องสูญเสีย ทหารไปถึง 15 นาย ตลอดจนประชาชน ที่บาดเจ็บ หลายสิบราย และเสียชีวิต ทั้งสิ้น 14 ราย จากกองกำลังกัมพูชาที่ยิงเข้าใส่ฝั่งไทย ยังไม่นับรวมโรงพยาบาลที่เสียหายจากจรวดยิง BM-21 จากกัมพูชา อีกหลายสิบแห่ง

จากเหตุปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 68 ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหาย และความสูญเสียต่อครอบครัวทหารกล้า รวมถึงพี่น้องประชาชน เท่านั้นแต่อีกด้านหนึ่ง ยิ่งตอกย้ำ ความรู้สึก “ด้านลบ” ที่ประชาชนมีต่อตัว “นายกฯแพทองธาร” ไปจนถึง ทักษิณ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

อย่าลืมว่า ก่อนเกิดเหตุปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชานั้นได้เกิดปัญหาความคุกรุ่น จากกรณีที่ “สมเด็จ ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ปล่อยคลิปเสียงการสนทนาพูดคุยกับ นายกฯแพทองธาร จนนำไปสู่ความรู้สึก “ไม่ไว้ใจ” ว่า ทั้งนายกฯและทักษิณ นั้นจริงใจต่อประชาชน และ “กองทัพ” หรือไม่

แม้ทั้งทักษิณ และนายกฯแพทองธาร ได้เคยออกมาชี้แจงว่า ปัญหาความขัดแย้ง และความไม่พอใจ มาจากการที่รัฐบาลไทยเดินหน้าลุยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แล้วไปกระทบกับธุรกิจสีเทาของฝั่งกัมพูชาก็ตาม แต่คำชี้แจง กลับถูกหักล้างด้วยความข้องใจของสังคม ว่าเมื่อสมเด็จฮุน เซน คือ เพื่อนรักของทักษิณ และที่ผ่านมาการคบหากันนั้นมีผลประโยชน์ของประเทศเข้าไปเกี่ยวพันด้วยหรือไม่ ยิ่งทำให้ผู้คนไม่เชื่อมั่นอยู่เช่นเดิม

จากกรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกฯแพทองธาร กับสมเด็จ ฮุน เซน ได้นำไปสู่การยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดให้พ้นจากการเป็นนายกฯ เนื่องจากผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง และวันนี้คำร้องอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

แต่เมื่อข้อพิพาทชายแดนไทยกับกัมพูชา เดินมาไกลจนถึงขั้นปะทะกันด้วยอาวุธ และทำให้เกิดความสูญเสีย เป็นภาพที่ประจักษ์ ส่งผลทำให้ “กองทัพ” ได้รับความเชื่อมั่น ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ว่ากองทัพคือที่พึ่ง กองทัพคือคนที่อยู่ข้างประชาชน ทั้งในยามสุขและทุกข์ อย่างแท้จริง

ยิ่งความเชื่อมั่นของกองทัพ เกิดเป็น “กระแสสูง” ยิ่งกดดันให้ “รัฐบาล” ดิ่งลง อย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นแล้วทั้งนายกฯแพทองธาร และทักษิณ คงไม่ถูกชาวบ้านที่ศูนย์พักพิง มาหลบระเบิดในจังหวัดอุบลราชธานี และจ.สุรินทร์ บุกไปตะโกนต่อว่า ทั้งคู่ว่าทำไมถึงปล่อยให้ “เพื่อน” อย่างฮุน เซน มาทำร้าย มายิงคนไทยแบบนี้

จากความไม่เชื่อมั่นที่มีต่อนายกฯแพทองธาร และทักษิณ ที่ทวีมากขึ้นนั้น ยังถูกตอกย้ำ เมื่อการแก้ปัญหาของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกฯ โดนตั้งข้อสังเกตและมีคำถามอย่างหนัก

โดยเฉพาะการที่ภูมิธรรม นำคณะตัวแทนรัฐบาลไทย ไปเข้าร่วมประชุมนัดพิเศษกับ “พล.อ.ฮุน มาเนต” นายกฯกัมพูชา โดยที่ “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกฯมาเลเซีย เป็นคนกลาง ประสานงานที่เมืองปุตราจายา ประแทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนนำมาสู่ “ข้อตกลงหยุดยิงทันที” โดยไม่มีเงื่อนไข กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า การเจรจาหยุดยิง ควรมีขึ้น เมื่อไทยเป็นฝ่ายยื่นเงื่อนไข มากกว่าที่จะยอมรับฝั่งกัมพูชา ทั้งที่เป็นฝ่ายทำผิดสนธิสัญญาเจนีวาด้วยซ้ำ เพราะยิงระเบิดเข้าใส่โรงพยาบาล ถือว่าผิดหลักสากล ชัดเจน

ยังไม่ทันที่ความคลางแคลงใจผ่านพ้นข้ามวัน ปรากฏว่า ทหารกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยกันถึงสองครั้ง ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจว่าทีมเจรจาที่นำโดยภูมิธรรม พูดคุยกันอย่างไร ผลจึงออกมาเช่นนี้ มิหนำซ้ำการเจรจายังเกิดขึ้นโดยฝ่ายที่ล้วนเชื่อมโยงกับทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นอันวาร์ เอง และพล.อ.ฮุน มาเนต ลูกชายฮุน เซน เพื่อนทักษิณ

จนถึง ณ วันนี้รัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯแพทองธาร กลับเป็นฝ่ายที่ประชาชนไม่เชื่อมั่น และแม้ตัวทักษิณจะออกมาเคลื่อนไหวใดๆก็ตาม ยังไม่สามารถการันตีได้ว่า สถานการณ์จะดีขึ้นมาได้

ศึกนอก ที่กดดันรัฐบาลเพื่อไทย คือเกมที่กำลัง “บีบ” ทั้งนายกฯแพทองธาร รัฐบาลเพื่อไทย และตัวทักษิณ อย่างหนัก เพราะนี่คือ “เกม” ที่เขาเองไม่สามารถกำหนดได้ เนื่องจากปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชา ยังถูก “ผูก” เอาไว้ด้วยเงื่อนไขของการเจรจานโยบายภาษีสหรัฐฯ บวกกับการเล่นเกมการเมืองในภูมิภาคของประเทศมหาอำนาจ ทั้งจีนและสหรัฐฯ

ดังนั้นจึงดูเหมือนว่า หากรัฐบาลเพื่อไทย ยังไม่สามารถคลี่คลายปัญหาดังกล่าวได้ โดยที่ไทยไม่ต้องเป็นฝ่าย “เสียเปรียบ” กัมพูชา ซึ่งผู้นำก็คือ อดีตเพื่อนของครอบครัวชินวัตร โอกาส “แรงกดดัน” อาจมาพร้อมๆกับ “เสียงขับไล่” ที่รุนแรงตามมาจากนี้

ศึกนอกที่ประชิดทั้ง อีสานใต้และตะวันออก ยังเขม็งเกลียว ปรากฏว่า ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่า “คดีร้อน” ที่พันทั้งทักษิณ และนายกฯแพทองธาร เองก็กำลังงวดเข้ามาทุกขณะ !

22 ส.ค.นี้ ศาลอาญา นัดจำเลยที่ชื่อทักษิณ ฟังคำวินิจฉัย คดีหมิ่นสถาบัน ตามมาตรา 112 ซึ่งคดีนี้ตัวทักษิณ เองมั่นใจว่า เขาจะรอด แต่ความเชื่อมั่นของทักษิณ อาจสวนทางกับ “คำพิพากษา” ก็เป็นได้

จากนั้นคดี ชั้น 14 จ่อคิวตามหลัง เมื่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำวินิจฉัย ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ และสำหรับคดีชั้น 14 นี่เองที่อาจเป็น “จุดตาย” บีบให้ทักษิณ ต้องกลับเข้าไปสู่เรือนจำ

ยังไม่นับคดีคลิปเสียงที่แม้ล่าสุดนายกฯแพทองธาร จะยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงออกไป ซึ่งศาลฯขีดเส้นวันสุดท้ายกำหนดให้ไม่เกิน 4 ส.ค.นี้ แม้จะใช้วิธี “ยื้อ” อย่างไร นายกฯแพทองธาร ก็ต้องเดินไปถึงวันวินิจฉัย อยู่ดี

ลำพังการ “ยื้อ” เก้าอี้นายกฯ เพื่อ “ต่ออายุ” ให้กับพรรคเพื่อไทย ด้วยสารพัดวิธี สำหรับทักษิณ แล้วก็นับว่ายากเย็นเต็มที เพราะวันนี้ ทักษิณ ไม่ได้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ทุกคนรู้ดีว่า ข้างหลังทักษิณ ยังมี “เงา” ที่ใหญ่กว่ายืนอยู่

แต่เมื่อวันนี้สถานการณ์ “ศึกนอก” ที่มี “อดีตเพื่อนรัก” เป็น “ชนวน” กลับไปผูกเอาไว้ที่ผลประโยชน์ของประเทศ ทั้งชีวิตประชาชน และเลือดเนื้อของทหาร จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย

ทั้งศึกนอกและศึกใน ที่เป็นมรสุมโถมเข้าใส่ทักษิณ และนายกฯแพทองธาร เช่นนี้ ยังไม่มีใครมองเห็น “แสงสว่าง” ที่ปลายอุโมงค์ ว่าจะเอาตัวรอดได้หรือพังไปพร้อมๆกัน !

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

กลุ่มเด็กแว้นชนกันเอง ดับ 2 เจ็บ 3 ส่วนเพื่อนร่วมกลุ่มที่เหลือพากันหนี ทิ้งเพื่อนกลางถนน

26 นาทีที่แล้ว

พี่สาวนักเรียนอาชีวะหอบหลักฐานร้องสื่อ น้องชายถูกโจ๋ถีบมอไซค์ล้มเจ็บ แถมโพสต์โชว์ปืนเพียบ

34 นาทีที่แล้ว

แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยม ฉก.ตชด.44 เสริมขวัญ มอบแนวทางปฏิบัติงาน เน้นย้ำทุกภารกิจจะต้องไม่ประมาท

40 นาทีที่แล้ว

ไม่เข็ด! ตร.เมืองกาฬสินธุ์ ปล่อยแถวสกัดเด็กแว้น ยึดจยย.เสียงดังสร้างความเดือดร้อน 9 คัน

44 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

NGO เขมร เรียกร้องรัฐบาลสวีเดน หยุดขายกริพเพนให้ไทย ใส่ร้ายทหารไทยโจมตีพลเรือน วัด โรงเรียน มรดกโลก

MATICHON ONLINE

“วิสุทธิ์” เผย พท.ประชุมพรรค 5 ส.ค. เคาะรองประธานสภาฯ คนที่ 1

สยามรัฐ

พบเพิ่มอีกจุด รพ.สต.ยางใหญ่ อุบลราชธานี ถูกทหารเขมรยิงปืนใหญ่ถล่ม

มุมข่าว

‘ประเสริฐ’ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ร่วมไว้อาลัยผู้สูญเสีย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือญาติ

เดลินิวส์

เริ่มแล้ว! มวลชนรวมพลังแผ่นดินฯ ชุมนุมให้กำลังใจทหาร-จี้นายกฯลาออก

PPTV HD 36

EOD ทำลายวัตถุระเบิดกลางถนน พื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

Thai PBS

ข่าวและบทความยอดนิยม