คอกาแฟต้องอ่าน เอสเปรสโซ่ vs กาแฟดำ แตกต่างกันกว่าที่คิด
คอกาแฟต้องอ่าน เอสเปรสโซ่ vs กาแฟดำ ต่างกันกว่าที่คิด สำหรับคอกาแฟตัวจริง แม้จะดูคล้ายกัน แต่ เอสเปรสโซ่ กับ กาแฟดำ มีความแตกต่างกันอย่างที่คุณคาดไม่ถึง มาดูกันว่าสองอย่างนี้ต่างกันตรงไหนบ้าง
คุณอาจคิดว่าเอสเปรสโซ่ก็คือกาแฟดำชนิดหนึ่ง…แต่ไม่เลย แม้จะมาจากเมล็ดกาแฟเหมือนกัน แต่สองอย่างนี้มีวิธีการชงที่ต่างกันลิบลับ ส่งผลถึงรสชาติ สัมผัส และแม้แต่ปริมาณคาเฟอีนที่คุณจะได้รับ
คอกาแฟต้องอ่าน เอสเปรสโซ่ vs กาแฟดำ ต่างกันกว่าที่คิด เจาะลึกความต่าง: ไม่ใช่แค่สี
1. วิธีการชง: หัวใจของความแตกต่าง
เอสเปรสโซ่: นี่คือราชากาแฟที่แท้จริง! ชงด้วยการ บีบอัดน้ำร้อนแรงดันสูง (ประมาณ 9 บาร์, อุณหภูมิ 90-96°C) ผ่านผงกาแฟที่บดละเอียดมาก ๆ ในเวลาอันสั้นแค่ 25-30 วินาที ผลลัพธ์ที่ได้คือช็อตกาแฟเข้มข้นปริมาณน้อย (ประมาณ 25-35 มล.) ที่มี "ครีม่า" (Crema) หรือฟองสีทองสวยงามอยู่ด้านบน
กาแฟดำ (Black Coffee): โดยทั่วไปแล้วจะหมายถึงกาแฟที่ชงด้วยวิธีทั่วไป เช่น ดริป (Drip), เฟรนช์เพรส (French Press), หรือโมกาพ็อต (Moka Pot) ซึ่งใช้น้ำร้อนไหลผ่านผงกาแฟที่บดหยาบกว่า โดยไม่มีแรงดันสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง ระยะเวลาการชงนานกว่า ปริมาณที่ได้มากกว่า และความเข้มข้นน้อยกว่าเอสเปรสโซ่
2. รสชาติและสัมผัส: ประสบการณ์ที่ต่างกัน
เอสเปรสโซ่: รสชาติจะ เข้มข้น จัดจ้าน ถึงใจ สัมผัสได้ถึง Body ที่หนักแน่นเต็มปาก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และมักมีรสขมติดปลายลิ้นเล็กน้อย ดื่มแล้วรู้สึกตื่นตัวทันที
กาแฟดำ: รสชาติจะ นุ่มนวลกว่า และมีมิติที่หลากหลายขึ้นอยู่กับสายพันธุ์กาแฟและการคั่ว อาจมีรสเปรี้ยว หวาน หรือขมที่แตกต่างกันไปตามแหล่งที่มา และมี Body ที่เบากว่า เหมาะกับการจิบสบายๆ
3. ปริมาณคาเฟอีน: ใครแรงกว่ากันแน่?
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเอสเปรสโซ่มีคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟดำ เพราะรสชาติที่เข้มข้นกว่า แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
- เอสเปรสโซ่: 1 ช็อต (ประมาณ 30 มล.) มีคาเฟอีนประมาณ 30-50 มิลลิกรัม
- กาแฟดำ: 1 แก้ว (ประมาณ 240 มล.) มีคาเฟอีนประมาณ 95-200 มิลลิกรัม
สรุปคือ: หากวัดกันที่ปริมาณ "ต่อแก้วที่ดื่มทั่วไป" กาแฟดำมักมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าเอสเปรสโซ่ เพราะเราดื่มกาแฟดำในปริมาณที่มากกว่าต่อครั้งนั่นเองครับ
4. ผลต่อสุขภาพ: เลือกแบบไหนดี?
ทั้งเอสเปรสโซ่และกาแฟดำ (หากไม่ใส่น้ำตาล นม หรือครีมเทียม) ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง: เพิ่มความตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า
- ลดความเสี่ยงโรคบางชนิด: เช่น เบาหวานชนิดที่ 2, พาร์กินสัน และอัลไซเมอร์
- ช่วยในการเผาผลาญ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
ข้อควรระวัง: การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการใจสั่น นอนไม่หลับ หรือปวดหัวได้ ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน
สรุป: เลือกดื่มแบบไหนดีที่สุด?
- ไม่มีกาแฟชนิดไหน "ดีที่สุด" ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและสถานการณ์ของคุณ
- เลือกเอสเปรสโซ่: ถ้าคุณชอบรสชาติกาแฟที่ เข้มข้น ดุดัน ต้องการความตื่นตัวอย่างรวดเร็ว และเน้นดื่มแบบช็อตเล็ก ๆ
- เลือกกาแฟดำ: ถ้าคุณชอบรสชาติ นุ่มนวล หลากหลาย จิบได้เรื่อย ๆ ในปริมาณที่มากกว่า และอยากสัมผัสกลิ่นและรสกาแฟที่ซับซ้อน
ไม่ว่าคุณจะเลือกดื่มแบบไหน ขอให้ดื่มอย่างมีความสุขและเลือกกาแฟที่สดใหม่ มีคุณภาพดี เพื่อให้ได้ทั้งประโยชน์และรสชาติที่ดีที่สุดนะครับ!