โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"ณัฐพล" ย้ำต้องฟังเสียงประชาชน เป็นทางการ ไม่ใช่ส่วนตัว ยังตอบข้อเสนอ "ทรัมป์" ไม่ได้ ซัด "เขมร" ไม่จริงใจเปิดฉากยิงเช้าตรู่วันนี้

สยามรัฐ

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 27 ก.ค.2568 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เปิดเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศให้ ทั้ง 2 ประเทศ หยุดยิง แต่ทั้ง 2 ประเทศ ยังไม่มีการหยุดยิง ว่า ปฎิบัติของทางกัมพูชาทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งศบ.ทก.จะเป็นผู้สนับสนุนปฏิบัติการทางทหาร เมื่อคืนนี้ตนได้ร่วมประชุมกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งฝ่ายรัฐบาลไทยต้องฟังเสียงประชาชน เรามีกลไกมีรัฐบาล ไม่สามารถตอบได้ทันที คนที่อยู่ในวงจำนวนไม่มาก อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และตนซึ่งเราจะดำเนินการได้ แต่ขอให้เป็นไปตามกลไกตามกระบวนการของประเทศไทย เพราะไทยปกครองระบอบประชาธิปไตย เราฟังเสียงประชาชน เรามีกลไกรัฐบาล เราต่างจากกัมพูชา เพราะกัมพูชาปกครอง โดย คน 2 คน 3 คน จะไม่สามารถตอบได้ว่า Yes หรือ No เราต้องหารือรัฐบาลก่อน และที่สำคัญอย่างยิ่งเราต้องฟังเสียงประชาชนด้วย

เมื่อคืนนี้ นายภูมิธรรม ได้ทวิตผ่าน X เพื่อฟังเสียงประชาชน ในฐานะรัฐบาล ศบ.ทก.ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมด้วยเป็นตัวเชื่อมระหว่างกองทัพกับรัฐบาล ตนจะทราบข้อมูลทั้งสองทางเมื่อประชุมรัฐบาลก็จะมีข้อมูลกองทัพไปแต่เมื่อกลับไปคุยกับกองทัพก็มีนโยบายของรัฐบาลไปกำหนดกรอบไว้ให้ ซึ่งปัจจุบันนโยบายรัฐบาลอย่างเดียว คือปกป้องอธิปไตยและสนับสนุนกองทัพเต็มที่

พล.อ.ณัฐพล ยังย้ำว่า ประเทศไทยมีกลไกของรัฐบาลในการดำเนินการ ที่ต้องเป็นทางการ ไม่ใช่เป็นการส่วนตัว เราต้องฟังเสียงประชาชน เชื่อว่าไม่นานจะคลี่คลาย เพราะสังคมโลกจับตาดูอยู่ ว่าไทยมีความจริงใจหรือไม่ และไทยมีความจริงใจที่จะเจรจาหยุดยิง แต่หารือกับรัฐบาลให้รอบคอบ และฟังเสียงประชาชน

พล.อ.ณัฐพล ยังระบุว่า การยิงของกัมพูชาช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา สะท้อนว่ากัมพูชามีความจริงใจหรือไม่ ซึ่งหากตนเองเป็นกองทัพก็จะไม่มีความสบายใจ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.68 ที่กัมพูชาถอนกำลังจากต้นพญาสัตตบรรณ แต่ได้วางกับระเบิดไว้ นั่นคือสิ่งที่ไทยไม่สบายใจ เพราะเป็นการแสดงความไม่จริงใจของกัมพูชา และไทยมีความจริงใจแน่นอนที่จะหยุดยิง เพราะเรามีความเป็นห่วงประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน

"เราไม่คิดว่ารัฐบาลกัมพูชาจะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ อนุสัญญาเจนีวา อนุสัญญาออตตาวา และหลักขาดหลักมนุษยธรรม และไม่คิดว่าในปี 2025 จะมีกองทัพประเทศในโลกปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้" พล.อ.ณัฐพล กล่าว

พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวว่าตนเคยพูดว่าผลกระทบในครั้งนี้จะร้ายแรงกว่าปี 2554 ในฐานะที่ตนเคยเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก ที่ได้ประเมินสถานการณ์ต่างๆ ไว้ รวมถึงผลกระทบ พร้อมย้ำว่าการปะทะครั้งนี้ผลกระทบจะรุนแรงกว่าปี 2554 แต่เมื่อเกิดแล้วก็จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดกับประชาชน

ส่วนข้อเสนอให้ยื่นฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ต่อนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าเป็น อาชญากรรมสงคราม พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่ในกรอบของกระทรวงกลาโหม เราแบ่งงานกัน ปกติกองทัพเราพร้อมปฏิบัติตามกรอบนโยบายต่างประเทศของรัฐบาล แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ

เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้มั่นใจว่ากัมพูชามีความจริงใจในการเจรจา เพราะที่ผ่านมาไม่มีอะไรมั่นใจได้เลย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในมิติด้านการทหารถ้ากัมพูชาหยุดยิงเป็นเวลาสักระยะหนึ่ง แต่กลับเพิ่งคุยกับ ประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ ตอนห้าทุ่ม แต่เมื่อตอน 02.00 น.ก็เริ่มยิงอีกครั้ง ซึ่ง ทางการทหารมองว่า ไม่จริงใจ ซึ่งวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของไทยและกัมพูชาจะได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งตนได้มีการรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยว่าทางกัมพูชาได้มีการยิงประเทศไทยในเวลา 02.00 น.

" สิ่งที่กองทัพรู้สึกเสียใจ คือ เป็นเป้าหมายพลเรือน เพราะเขาไม่สนใจ มีกระสุนปืนใหญ่ตกไป 3 นัด แต่โชคดีที่กระทรวงมหาดไทยอพยพประชาชนออกไปแล้ว เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานการสูญเสีย แต่ก็เสียใจ และทำให้ความไว้วางใจตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เรียนแจ้ง นายภูมิธรรม และนพ.พรหมินทร์ ไปเรียบร้อยแล้ว ว่าได้ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลทรัพย์สินของประชาชน เพื่อประชาชนจะได้ไม่ต้องเป็นกังวล" รมช.กลาโหม กล่าว

เมื่อถามว่า กัมพูชามีอาวุธหนักยิงระยะไกลกว่า 100 กิโลเมตร มีความกังวลหรือไม่หากจะมีการใช้อาวุธดังกล่าวและจะมีผลกระทบในวงกว้าง พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่ามีความกังวล กังวลมานานแล้ว เพราะบอกประชาชนมานานแล้วว่าเราทราบ ที่ผ่านมาไม่อยากพูดประเด็นนี้ กลัวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ และตำหนิ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เราต้องบอกความจริงกัน ที่ผ่านมากองทัพถูกตัดลดงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ซื้อเท่าที่จำเป็น อาวุธที่ใช้ในการรุกรานจะไม่ซื้อ จะซื้ออาวุธที่ใช้ในการป้องกันรักษาอธิปไตยเท่านั้น ซึ่งไทยมีอาวุธที่ใช้ในการรุกรานเพียงจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มาก แต่ของกัมพูชา มี 6 ระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพจะต้องมาทบทวนในเรื่อง ต้องคุยกับรัฐบาลว่าหลังจากนี้ ต้องขอความกรุณาประชาชนและความเห็นใจให้กับกองทัพ แต่ไม่ใช่ว่าพอขอความเห็นใจจากประชาชนแล้วจะจัดหาแบบกอบโกยก็ไม่ได้ ยืนยันว่าในช่วงที่ทำหน้าที่อยู่จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเป็นอันขาด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

"หมอวรงค์" ซัด "ภูมิธรรม" รีบรับข้อเสนอหยุดยิง "ทรัมป์" แซะเหมาะเป็นทาสรับใช้มากกว่าป้องชาติ

12 นาทีที่แล้ว

ชาวบ้านชุมชนมณีไพรสณฑ์ร่วมใจพัฒนาชุมชนเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10

17 นาทีที่แล้ว

พร้อมสปีด คอมเมิร์ซ จับมือ LEX ให้บริการบนสาขาเจ้าแรกในประเทศ ตั้งเป้าผู้นำขนส่งครบวงจร ขยายบริการ 27,000 สาขา

22 นาทีที่แล้ว

ทหารไทยฉุนกัมพูชายิงไม่เลิกใช้ปืนใหญ่ถล่มคาสิโนสล็อตแตกกระจุยฝั่งจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู

26 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

พรรคประชาชน แจ้งปิดเว็บไซต์ ยืนยันไม่เคยเผยพิกัดศูนย์อพยพ-หลุมหลบภัย

PostToday

'กัณวีร์' จ่อยกปัญหาปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา ถกเวที IPU

กรุงเทพธุรกิจ

ทภ.2 ลั่น ชายแดนตึงเครียดสูง คาด กัมพูชา โจมตีหนัก ทิ้งทวนก่อนเจรจา

กรุงเทพธุรกิจ
วิดีโอ

ด่วน! เขมรกว่า 2หมื่นคน ทะลักกลับบ้านเกิด

THE ROOM 44 CHANNEL

‘ชัชวาล’ แสดงความห่วงใยประชาชนในพื้นที่สู้รบ พร้อมให้กำลังใจแนวหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนาย

เดลินิวส์

เปิดโพสต์ล่าสุด ฮุนเซน อวยตัวเอง สวมวิญญาณนักรบ จิบสตาร์บัค

มุมข่าว

ข่าวและบทความยอดนิยม