'รพ.พนมดงรัก' เสียหายกว่า 45 ล้าน สธ.คาดภาพรวมกว่า 285 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2568 ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขให้สัมภาษณ์ถึงความเสียหายของสถานพยาบาลจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชาว่า ผลการประมาณการมูลค่าความเสียหายด้านโครงสร้างและอาคารของ'รพ.พนมดงรัก'เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สุรินทร์ ที่เป็นผลจากการโจมตีสถานพยาบาลของกองทัพกัมพูชา โดยทาง สสจ.สุรินทร์ ได้ลงสำรวจความเสียหายในพื้นที่จริง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568
ตรวจพบความเสียหายจำนวนมากเมื่อเทียบจากประมาณการครั้งแรกทางภาพถ่าย ซึ่งแรงระเบิดคาดว่าอาจส่งผลกระทบระดับโครงสร้างและฐานรากของอาคาร และจำเป็นต้องสร้างใหม่จำนวน 4 อาคาร ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขจึงปรับตัวเลขประมาณการเดิมที่ 3,350,000 บาทซึ่งเป็นประมาณการเบื้องต้นจากภาพถ่ายในช่วงที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจได้ เป็นการประมาณการความเสียหายใหม่ที่ 45,050,000 บาท
โดยมีรายละเอียดความเสียหายเบื้องต้นดังนี้
1.อาคารภูมิพัฒน์ - 7 ล้านบาท
2.อาคารขวัญภูมินทร์ - 7 ล้านบาท
3.อาคารหลวงตารอด - 15 ล้านบาท
4.อาคารแฟลตพยาบาล 3 ชั้น - 15 ล้านบาท
5.หลังคาห้องน้ำ - 300,000 บาท
6.ป้อมยาม - 150,000 บาท
7.ป้ายทางออกหน้าโรงพยาบาล - 200,000 บาท
8.หลังคาหน้าอาคารขวัญภูมินทร์ - 200,000 บาท
9.หลังคาที่จอดรถข้างแฟลตพยาบาล - 200,000 บาท
“ตัวเลขความเสียหายในภาพรวมน่าจะมากกว่า 285 ล้านบาทที่มีการประเมินเบื้องต้นก่อนหน้านี้ที่ยังเข้าไปในพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากเฉพาะรพ.พนมดงรักก่อนนี้ประเมินไว้ 3.5 ล้านบาท ก็เพิ่มเป็นกว่า 45 ล้านบาท ซึ่งในวันอังคารนี้ รัฐบาลคงจะมีการตั้งงบประมาณ ระบุว่าแบบนี้จ่ายเท่าไหร่ แบบนั้นจ่ายเท่าไหร่ คงจะมีมาตรชี้วัดตรงนี้ออกมา รวมถึง กรณีน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือที่กำลังประเมินความเสียหาย”นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การประชุมครั้งที่ผ่านมา ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขนั้นเงินทดลองจ่ายมีแค่ 10 ล้านบาท ก็ขอให้เป็น 50 ล้านบาท ส่วนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ไม่มีเงินทดลองจ่าย ก็ขอให้ตั้งไว้จังหวัดละ 2 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังก็รับจะไปพิจารณาเพิ่มระเบียบกระทรวงการคลังในส่วนนี้ให้สธ.
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ได้รับการร้องขอมาเรื่องกลิ่นชายแดน อาจจะเป็นซากอะไรต่างๆจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งตนฟังจากที่ปรึกษาของกองทัพว่าในพื้นที่ของเขานั้น เราจะจะเข้าไปได้หรือ และกว่ากลิ่นจะหมดไปนั้นต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในพื้นที่ชายแดนก็เป็นปัญหาอุปสรรค ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมอนามัยเข้าไปช่วยดูว่าจะดำเนินการอย่างไร และไม่ให้เกิดโรคระบาดจากซากมนุษย์ หรือซากต่างๆ
ถามถึงกรณีที่รพ.ในพื้นที่ชายแดนบางแห่งมีการปลดภาษากัมพูชาลง เป็นการสั่งการจากสธ.หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้สั่งการ เรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันมีความเหมาะสมอย่างไรก็นำมาพิจารณา
"สิ่งสำคัญคือความปลอดภัยของบุคลากรทางสาธารณสุขของเราต้องปลอดภัยเป็นลำดับที่ 1 เรื่องกฎเกณฑ์ของโลกของประเทศต่างๆเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติแต่ก็มีข้อยกเว้นเรื่องของความปลอดภัย ก็ควรช่วยกันพิจารณาให้เหมาะสม มีเหตุมีผลที่ต้องชี้แจงได้ พิจารณาตามสถานการณ์ต้องรักษาดูแลบุคลากรของเราให้ดีที่สุด"นายสมศักดิ์กล่าว