โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

รมต.ดิจิทัลฯ ลงพื้นที่เตรียมพร้อมบริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำโขง จ.หนองคาย

สยามรัฐ

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ประเสริฐ รองนายกฯและ รมต.ดิจิทัลฯ ลงพื้นที่เตรียมพร้อมบริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำโขง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขง ย้ำทุกหน่วยบูรณาการข้อมูลและทรัพยากรในประเทศและเชื่อมโยงกับคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เดินหน้าเชิงป้องกัน เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน


วันนี้ 13 กรกฎาคม 2568 ณ ประชุมศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ลงพื้นที่เป็นประธานการประชุมเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ลุ่มน้ำโขง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 1/2568 พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สทนช. โดยมี นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ผู้แทนจังหวัดสกลนคร มุกดาหาร นครพนม บึงกาฬ เลย และจังหวัดอุดรธานี และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่ ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยบริเวณพระธาตุหล้าหนอง และชุมชนจอมมณี อ.เมืองหนองคาย และจุดประปาเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งประสบปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคมานาน โดยมีผู้บริหารหน่วยงานในพื้นที่รายงานสภาพปัญหาและแผนการดำเนินการ ก่อนพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนเพื่อรับทราบปัญหาและสภาพความเป็นอยู่รวมถึงการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในพื้นที่

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนมาระยะหนึ่งแล้ว และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกสะสมในพื้นที่ สปป.ลาว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มกระทบหลายพื้นที่ของไทย และทราบว่ามีโอกาสที่ระดับน้ำจะล้นตลิ่งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนริมแม่น้ำโขงที่อาจได้รับผลกระทบ จึงได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และได้กำกับการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะใช้เป็นกลไกสำคัญในการประสานงานและบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงาน ในการเตรียมความพร้อมรับมือ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที รวมถึงใช้เป็นที่ร่วมประชุมวางแนวทางการบรรเทาและควบคุมสถานการณ์ให้การปฏิบัติเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด โดยมีเป้าหมายป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำท่วมต่อประชาชนให้มากที่สุด

สำหรับการประชุมในวันนี้ เป็นการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งแต่ละจังหวัดมีการเตรียมความพร้อมไว้อย่างเข้มแข็ง ได้แก่ การจัดทำข้อมูลคาดการณ์ ชี้เป้าและแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม การวางแผนปรับเกณฑ์บริหารจัดการน้ำและอ่างเก็บน้ำตามสถานการณ์ การเตรียมความพร้อมอาคารชลศาสตร์ โทรมาตร เครื่องจักรเครื่องมือต่าง ๆ การตรวจสอบความแข็งแรงปลอดภัยของคันกั้นน้ำ ทำนบ พนังกั้นน้ำและเขื่อน รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพทางระบายน้ำ เป็นต้น เพื่อให้การดำเนินการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการข้อมูลผ่านศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ โดยให้เฝ้าระวังและเผยแพร่สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลในการประสานงานร่วมกับ สปป.ลาว ให้ สทนช. กรมทรัพยากรน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนที่ภูมิประเทศความละเอียดสูง เพื่อนำไปประเมินพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งและใช้วางแผนเตรียมความพร้อมเชิงรุก ให้จังหวัด กรมชลประทาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งกำจัดและแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ สำหรับการเตือนภัยให้จังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมประชาสัมพันธ์ ใช้ระบบแจ้งเตือนภัย เช่น Cell Broadcast (CB) หรือระบบส่งข้อความเตือนภัยฉุกเฉิน ควบคู่กับช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันสถานการณ์ นอกจากนี้ จังหวัดต้องร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที โดยให้เตรียมพร้อมด้านทรัพยากร เช่น เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ และชุดปฐมพยาบาล รวมถึงกำหนดจุดศูนย์พักพิงชั่วคราวในกรณีต้องมีการอพยพประชาชนด้วย จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในความตั้งใจของรัฐบาล ที่จะทำงานอย่างจริงจังและบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้การรับมือกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด

ด้าน เลขาธิการ สทนช.เปิดเผยว่า สำหรับบสถานการณ์น้ำพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือในภาพรวมพบว่า สถานการณ์อ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก จำนวนรวม 10,634 แห่ง ปริมาตรน้ำปีนี้มากกว่าปี 2567 โดยมีปริมาตรน้ำรวมกัน 1,170.43 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 62% ของความจุเก็บกัก จากการคาดการณ์ปริมาณฝน ONE MAP โดยกรมอุตุนิยมวิทยาร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า ช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน มีแนวโน้มปริมาณฝนตกสะสมจ้านวนมาก ประกอบกับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) ได้คาดการณ์และประเมินสถานการณ์ว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและล้นตลิ่งทั้งในพื้นที่ประเทศไทย (บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร) พื้นที่ สปป.ลาว รวมถึงบางพื้นที่ของประเทศกัมพูชา ในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศนั้น สทนช. ได้เข้าร่วม การประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อประสานงานด้านอุทกภัยและโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ (Ad Hoc Task Team for Joint Flood and Hydropower Coordination) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับ MRCS และ สปป.ลาว โดยได้กำหนดการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และ สปป.ลาว ในการแบ่งปันข้อมูลการบริหารจัดการเขื่อน โดยเฉพาะแผนระบายน้ำจากเขื่อนต่าง ๆ เพื่อจำลองแนวทางเร่งพร่องน้ำและชะลอเก็บกักน้ำเพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำโขงในเขตประเทศไทยและ สปป.ลาว ในช่วงฤดูน้ำหลาก และได้เห็นชอบแนวทางความร่วมมือต่าง ๆ ที่จะดำเนินการต่อไป ได้แก่ การจัดประชุมระดับประเทศเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลร่วมด้านอุทกวิทยาและเขื่อน การเสริมสร้างศักยภาพด้านการวิเคราะห์ความเสี่ยงอุทกภัย และการจัดทำร่างแผนความร่วมมือบริหารจัดการการระบายน้ำจากเขื่อน โดยใช้ข้อมูลฝนคาดการณ์ ร่วมกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ real-time เป็นต้น

การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือครั้งนี้ เพื่อบูรณาการข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ครอบคลุมทั้งในระดับพื้นที่ ระดับประเทศ และระหว่างประเทศ โดยภายในประเทศ สทนช. จะทำหน้าที่ประสานและอำนวยการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแก้ไขสถานการณ์น้ำหลากและอุทกภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ดำเนินการผ่านกลไกของสำนักเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง และสปป.ลาว เพื่อให้ศูนย์บริหารจัดการน้ำฯ มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจ ตลอดจนการเผยแพร่ข้อมูลให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องนำไปสู่การบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและลดความเสียหายจากอุทกภัยให้ได้มากที่สุด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

สะเทือนโซเชียล! “ดีเจดาว” เสิร์ฟลุคบิกินีแซ่บซี๊ด

28 นาทีที่แล้ว

รีบส่อง! "สุนารี ราชสีมา" แจกเลขเด็ดจากโคราช

53 นาทีที่แล้ว

"ฮุน เซน" ซัด "ทักษิณ" แฉไทยเป็นแหล่งอาชญากร-ฟอกเงิน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คำชะโนดแทบแตกนักท่องเที่ยวทะลักเที่ยววันหยุดยาวไหว้ขอพรปู่ศรีสุทโธ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความภูมิภาคอื่น ๆ

รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รับฟังแนวทางแก้ปัญหายาเสพติด ด้านผู้นำศาสนาพุทธและมุสลิม ร่วมมือปฏิเสธพืชกระท่อมในพื้นที่

สวพ.FM91

ชื่นชม นาทีชีวิต จนท.ศูนย์นเรนทร กระบี่ วิดีโอคอล ช่วยเด็ก 7 วัน สำลักนม

MATICHON ONLINE

คำชะโนดแทบแตกนักท่องเที่ยวทะลักเที่ยววันหยุดยาวไหว้ขอพรปู่ศรีสุทโธ

สยามรัฐ

ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการจัดงานรำลึกวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ครบรอบปีที่ 132

สยามรัฐ

ไฟโหมไหม้อู่ซ่อมรถวอดทั้งอู่ รถอัลพาร์ด-เก๋ง-กระบะเสียหาย 5 คัน เจ็บ 2 ราย สาเหตุ เด็กปั๊มเติมน้ำมันผิด

สยามรัฐ

เผยภาพอดีตทหารพราน ไลฟ์สด ก่อนชกทหารกัมพูชาแล้ววิ่งหนีข้ามฝั่งไทย จนท.รวบตัวได้ทันควัน

MATICHON ONLINE

ไล่ล่าหนุ่มเสพยาซิ่ง จยย.ย้อนศร หวังหนีตำรวจสุดชีวิต สุดท้ายไม่รอด โดนรวบทันควัน

สวพ.FM91

นย.ยส.35-ปส.สกัดรถกระบะขนยาบ้าหน้าโรงเรียนแม่จัน 1.2 ล้านเม็ด คนหนียึดได้แต่ของกลาง

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...