GPSC ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรในประเทศ A+
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 23.49 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 14 ก.ค.-ฟิทช์ เรทติ้งส์ คงอันดับเครดิตองค์กร GPSC ที่ระดับ A+ พร้อมปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการบริหารจัดการทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
นางพรรณพร ศาสนนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า GPSC ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรในประเทศที่ระดับ “A+ (tha)” และอันดับเครดิตสากล (International Rating) ที่ระดับ “BBB-” ซึ่งทั้งคู่อยู่ในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) ด้วยแนวโน้มขึ้นเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างมีวินัยและมีประสิทธิภาพ แม้ในช่วงราคาพลังงานผันผวน ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นบริหารจัดการต้นทุนและรักษาประสิทธิภาพในการบริหารงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศที่ผ่านมาก็สามารถบริหารจัดการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ผ่านกลยุทธ์การปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่บริษัทฯ วางเป้าหมายไว้ (Rebalance Portfolio) รวมถึงสัดส่วนหนี้สินปรับตัวลดลง และกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง โดย ฟิทช์ ประเมินว่า GPSC มีบทบาทสำคัญในฐานะบริษัทแกนนำธุรกิจผลิตไฟฟ้า และสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. สะท้อนการเชื่อมโยงกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจน
“การคงอันดับเครดิตในประเทศที่ระดับ “A+ (tha)” และต่างประเทศที่ระดับ “BBB-” ซึ่งทั้งคู่อยู่ในระดับน่าลงทุนพร้อมกับปรับแนวโน้มอันดับเครดิตที่ดีขึ้น ชี้ให้เห็นโครงสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง จากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากโรงไฟฟ้าหลักได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการทางการเงินที่สามารถลดระดับหนี้สิน ภายหลังจากการเข้าไปลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศ พร้อมยกระดับการขยายพอร์ตพลังงานสะอาดในระดับภูมิภาคที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของกลุ่ม ปตท. เน้นการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินทุน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว” นางพรรณพร กล่าว
นับเป็นความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงอย่างครอบคลุม และการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้หลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน.-517.-สำนักข่าวไทย