ผู้อพยพตามศูนย์ยังไม่มีกล้ากลับบ้านเกรงกัมพูชาพลิกลิ้นส่งผลบรรยากาศทั่วไปตามร้านค้าชายแดนเงียบเหงา
ผู้อพยพตามศูนย์ยังไม่มีกล้ากลับบ้าน เพราะไม่มั่นใจเขมรพลิกลิ้น ทำให้บรรยากาศทั่วไปตามร้านค้าชายแดนเงียบเหงา ขณะเจ้าของบ้านที่ลูกจรวด BM 21 ตกใส่ แล้วตำรวจชุด EOD ตชด.มากู้ทำให้บ้านพัง ระบุตอนนี้ไม่เชื่อว่าเขมรจะหยุดยิงทหารไทยตายอีก 1 เจ็บ 3 หวั่นซ้ำรอยถามรัฐบาลบ้านพังไร้ที่อยู่ใครรับผิดชอบ
วันที่ 29 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในเขตเทศบาลตำบลบ้านกรวด อ.บ้านกรวด ร้านค้า ปั๊มน้ำมัน ยังไม่เปิดร้านส่วนใหญ่ปิดเงียบ ถึงแม้ผลของการเจรจาจะหยุดยิงโดยไม่มีข้อแม้ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมาก็ตาม
แหล่งข่าวระบุว่าที่บริเวณช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ทหารเขมรยังยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังเที่ยงคืน มีการปะทะกันมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานว่า จ.ส.อ.ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย เสียชีวิตระหว่างการปะทะที่ช่องสายตะกู 1 นายและมีทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 53 ม.6 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านนายเสงี่ยม อายุ 64 ปี เจ้าของบ้าน ที่ถูกลูกจรวด BM 21 ของทหารเขมรยิงเข้ามาตกใส่หลังคาทะลุและลูกจรวดเข้าไปฝังอยู่ใต้พื้นดินภายในบ้าน จนกระทั่งมีตำรวจ EOD เข้ามาเก็บกู้ด้วยการใช้วิธีทำลายไปพร้อมกับบ้านเนื่องจากลูกจรวดฝังลึกในใต้ดินประมาณ 4-5 เมตร ทำให้หลังคาบ้านและตัวบ้านได้รับความเสียหายไปประมาณครึ่งหลัง
โดยสภาพบ้านยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ยังคงร่องรอยของความเสียหายเหมือนเดิม โดยนายเสงี่ยม เจ้าของบ้านเล่าว่า กรณีที่มีการประชุมตกลงกันระหว่างฝ่ายกัมพูชา และฝ่ายประเทศไทยที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนตัวไม่น่าเชื่อ เพราะหลัง 6 ทุ่มของคืนที่ผ่านมายังได้ยินเสียงปืนดังปกติ ยังมีการปะทะกันเหมือนเดิม เชื่อใจเขมรไม่ได้ตอนประชุมก็ประชุม หลังประชุมก็มาทำอีก ครั้งนี้ถือเห็นครั้งที่มีการตกลงหยุดยิงก็ยังยิง ตอนนี้บ้านของตนเสียหายจนไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้ ตามที่นายอำเภอบอกว่าจะมีคนมารับผิดชอบนั้น ยังไม่มีอะไรแน่ชัด และรับผิดชอบแบบไหนหากเมินเฉยไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาซ่อมบ้าน