ผอ.สพม.นนทบุรี ยืนยันสาเหตุ นร.ลูกครึ่งไทย-กัมพูชา ดิ่งตึกเสียชีวิต ไม่เกี่ยวกับการบูลลี่เชื้อชาติ
(15ก.ค.68) เวลา 16.30 น. ที่ วัดแห่งหนึ่ง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งศพ ด.ญ.เอ(นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกครึ่งไทย - กัมพูชา ที่เสียชีวิตจากการพลัดตกตึกของโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวานนี้(14ก.ค.) โดยแม่ของเด็กหญิงรายนี้หวั่นลูกถูกเพื่อนล้อที่เป็นคนกัมพูชา
ความคืบหน้าวันนี้ ดร.อมรรัตน์ โสธารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี พร้อมด้วย คณะครู เพื่อนนักเรียน ได้เดินทางมาร่วมรดน้ำศพ
ดร.อมรรัตน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางโรงเรียนรายงานข้อมูลและได้ติดตามข้อมูลเมื่อวานนี้จึงทราบว่าเด็กนักเรียนคนนี้เป็นเด็กเรียนดี มีทักษะด้านต่าง ๆ เป็นเด็กกิจกรรม เชียร์ลีดเดอร์ ดนตรีวงโยธวาทิตของโรงเรียน
ดร.อมรรัตน์ กล่าวต่อไปว่า จากการสอบถามผู้อำนวยการและฝ่ายแนะแนวของโรงเรียน ตัวนักเรียนเข้าร่วมกับเพื่อนได้อย่างดี ไม่มีปัญหากันในเรื่องของที่พวกเรากังวลในเรื่องเชื้อชาติ ซึ่งสื่อการเรียนการสอนก็จัดแบบเดียวกันหมด ไม่ได้จัดการเรียนการสอนแบ่งเชื้อชาติใดเชื้อชาติหนึ่ง
ดร.อมรรัตน์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุพลัดตก ทางโรงเรียนได้ดำเนินการในระยะเร่งด่วน การดูแลงานสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัว และดูแลให้คำปรึกษากับนักเรียนภายในโรงเรียนทุกคน พร้อมประสานงานกับทางสาธารณะสุขในการนำนักจิตวิทยาเข้ามาเพื่อที่จะสแกนหานักเรียนที่มีภาวะความตึงเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน
"ซึ่งวันนี้ก็ได้ลงไปสแกนมาแล้วเด็กอยู่ในขั้นสีเขียวเกินกว่า 80 - 90 เปอร์เซ็นต์ และยังมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ยังเป็นห่วง ก็ต้องมาติดตามซ้ำอีกครั้งในเรื่องที่มีความเครียดในบางประเด็น" ดร.อมรรัตน์ กล่าว
ดร.อมรรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่า เรื่องถัดไปก็จะจัดกิจกรรมป้องกัน ถอดบทเรียนว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว เราต้องมาปรับเพิ่มแก้ไขยังไงให้กระชับยิ่งขึ้นและไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ อยากย้ำในประเด็นต่าง ๆ ที่ได้ออกข่าวไปว่ามีการบูลลี่และเรื่องต่าง ๆ ไม่เป็นความจริง ไม่มีประเด็นนี้
"จากการติดตามสอบถามคุณครูเรื่องของการเรียนนักเรียนก็มีความสุขในการเรียน กิจกรรมก็เข้าร่วมอย่างดีมาตลอด" ดร.อมรรัตน์ กล่าว
ดร.อมรรัตน์ กล่าวถึงเรื่องพฤติกรรมของน้องว่า ได้ถามจากครูที่ปรึกษา ครูแนะแนว ยืนยันว่านักเรียนเข้ากับสังคมในโรงเรียนได้ดีมาก ๆ ซึ่งการบูลลี่ไม่มีแน่นอน นักเรียนอาจจะมีสภาวะความเครียดในเรื่องของการเรียน ก็ต้องอยู่ในเขตตั้งคณะกรรมการสืบสวน เพื่อที่จะหาข้อมูลจริงในการพัฒนาและแก้ไขต่อไป
ข่าวเวิร์คพอยท์23