โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ทำหนังผีสะท้อนคน เล่าชีวิตใหม่หลังผ่านวิกฤตสุขภาพ

MATICHON ONLINE

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘อ๊อฟ’ ทำหนังผีสะท้อน ‘คน’ เล่าชีวิตใหม่หลังผ่านวิกฤตสุขภาพ มองการเปลี่ยนแปลงวงการบันเทิงคือ สัจธรรม

“ทุกคนมีปอบในตัว” อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง เปิดใจเบื้องหลัง ‘ห่าก้อม’ หนังผีที่ผู้กำกับมากฝีมือย้ำหนักแน่นว่าไม่ใช่แค่เรื่องของผี แต่เป็นการเล่าเรื่อง ‘คน’ ผ่านตำนานพื้นบ้านและความเชื่อของคนอีสาน ภาพยนตร์ผลงานล่าสุดที่กำลังโลดแล่นอยู่ในโรงภาพยนตร์ในขณะนี้ให้ฟังว่า

“ห่าก้อมมันคือคนมีวิชา ปลอมตัวเป็นใครก็ได้ เป็นสัตว์อะไรก็ได้ มีฤทธิ์เยอะและตายยาก ถ้าตายก็เฮี้ยนอีก” อ๊อฟเล่าอย่างจริงจัง “แต่สุดท้ายสิ่งที่ทำผิด ชั่ว มันย่อมแพ้ภัยตัวเอง ไม่มีอะไรอยู่ยั่งยืน โลกนี้มันมีเกิด ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป”

‘ห่าก้อม’ กลายเป็นสัญญะในหนัง ที่สะท้อนการกล่าวหาโดยไร้การพิสูจน์ในสังคม

“ถ้ายุคนี้ก็คือโซเชียล สังคมที่พร้อมกล่าวหากันตลอดเวลา แต่ไม่พิสูจน์ว่าคุณเป็นหรือเปล่า ถ้าคุณอยู่ไปเรื่อยๆ แล้วคุณเคลิ้มตามสิ่งที่ผิด มึงปอบนะ ระวังเจอปอบในตัวเอง”

หากจะพูดว่าเป็นหนังผีที่เล่าเรื่องของคน นั่นก็ใช่ แต่กระนั้นหลักนึงของการทำภาพยนตร์สิ่งแรกคือความสนุกสนานต้องมาก่อน แล้วสอดแทรกด้วยเนื้อหาสาระที่ต้องการจะส่งต่อ

“เพราะฉะนั้นผมต้องทำให้ตกใจ ต้องหลอก สะพรึงขวัญแน่นอน ความสนุกของหนังผีก็คือตรงนี้ อันดับหนึ่งต้องมาคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ อันดับสองคือสิ่งที่สอดแทรกอยู่ข้างใน เนื้อหาสาระที่อยู่ในเรื่องนี้”

เมื่อถามถึงการตีความตำนานแบบไทยๆ ให้คนต่างประเทศเข้าใจ อ๊อฟย้ำว่า “เราไม่ได้ทำสารคดี เราเล่าแบบเอ็นเตอร์เทน เรื่องที่เป็นตำนานเราก็แต่งเติมเพื่อความสนุก แต่ต้องรีเสิร์ชจริงจัง ใส่คัลเจอร์ลงไปจริงๆ เพื่อให้สมจริงและเคารพขนบธรรมเนียมแต่ละภาค”

ทั้งนี้ กับการที่ได้ จิ๋ม-กุณกนิช คุ้มครอง มารับบท “ยายพร” หญิงแก่ผู้ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นปอบ อ๊อฟก็เผยว่า เป็นคนหนึ่งที่ร่วมงานกันมาหลายเรื่องจนมั่นใจในฝีมือการแสดง

“เขาเล่นจนกลัวตัวเอง ขับรถกลับไม่กล้ามองกระจกหลัง” อ๊อฟเล่าพร้อมเสียงหัวเราะ

“สองคำพูดที่คนดูต้องจำให้ได้คือ ‘กูตายไปไม่ต้องเผานะ ขี้เกียจเกิด’ กับ ‘ชาติหน้าฉันใดอย่าเป็นคนจนให้เขาดูถูกอีก’ นั่นคือแก่นในใจยายพร”

“ในแง่ของการเตรียมงานเราก็อ่านบทกัน ประโยคนี้มันพูดออกมาเพราะอะไร เราตีความแต่ละประโยค ทุกคำพูดของตัวละครเรื่องนี้มันมีความหมายหมด”

ในฐานะคนทำหนัง อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ก็ว่า “หวังนิดนึง แต่หน้าที่เราคือทำให้ดีที่สุด ที่เหลือคือของคนดู เพราะเขาต้องจ่ายเงิน”

“สำหรับผม ผมชอบ แต่ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน”

ทั้งนี้ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ยังเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตที่พลิกผันหลังเป็นสโตรก จนต้องกายภาพบำบัดยาวนานกว่า 7 ปี และมองโลกในมุมใหม่ โดยเริ่มจากอัพเดตอาการ ณ ปัจจุบันที่กลับมาทำงานได้เต็มที่อีกครั้งว่า

“ทุกวันนี้เดินได้ พูดได้ แขนยังอ่อนหน่อย แต่เราออกกองได้แล้ว งานทำให้เราอยู่กับสังคม ออกนอกบ้านได้”

จากแรกเริ่มที่ไม่มีแรงเลย ก็ต้องไปทำกายภาพบำบัด “อาการของโรคนี้คือไม่มีแรง กล้ามเนื้อส่วนนึงหายไปเลย ประสาท สมองส่วนที่ควบคุมด้านนี้เสียหาย อาการที่ตามมาสิ่งแรกคือห้อย ไม่มีแรง อย่างที่สองคือค่อยๆ เริ่มเกร็ง ถ้าคุณไม่รักษามันก็คงอยู่ มันถึงมีศาสตร์ของการกายภาพบำบัด”

ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่เป็นสโตรก ทำให้ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากแนะนำความรู้ไปบอกต่อให้กับคนได้เยอะมาก นั่นคือ “โรคนี้ถ้าคุณทำกายภาพบำบัดถ้าคุณต่อสู้กับมัน มันดีขึ้นทุกวัน บางคนเล่นนิดเดียวแล้วคุณจะท้อ แต่จงเชื่อเถอะว่าหนึ่งปี ทุกคนบอกดีขึ้น อีกปีคนทักพูดเป็นภาษาคนได้แล้ว มันมาจากการที่เราฝึก พี่แดง (ธัญญา วชิรบรรจง) ภรรยาผมบอกทุกวันให้บริหารปาก บางทีเราลืม เขาก็เตือนทุกวัน”

รวมถึงการต้องก้าวผ่านความรู้สึกเมื่อต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ซึ่งสำหรับตนนั้นใช่เวลา 3 วันในการหาคำตอบของสิ่งนี้

“ตอนเป็นวันแรก พูดคำเดียวกับตัวเองในใจว่า ‘เสร็จมัน’ แล้วผมบอกลูกเลยว่า ‘พ่อไปละ’ เพราะจะตายหรือเปล่าไม่รู้”

สาเหตุที่เกิดสโตรกคือ 5 ข้อหลัก ทั้งความดันสูงไม่กินยา, ทานอาหารมันเพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนออกกำลังกาย, นอนน้อย, เครียดสะสม และดื่มน้ำน้อย กินแต่กาแฟเพราะคิดว่าทดแทนกันได้ ซึ่งทั้งหมดเกิดจาก “ความถือดี”

“พอรอดตื่นมา เหลือบไปเห็นหน้าเมีย ผมก็ขอโทษเขา คือจริงๆ แค่สาเหตุเดียวคนเขาก็เป็นแล้ว แต่ผมครบเลย มันไม่แปลกหรอกที่บอกว่าขอโทษ เพราะทั้งหมดเกิดจากตัวเองล้วนๆ”

หลังจากนั้นก็ขอเวลาไปรักษาตัวอยู่ 1 ปีเต็ม เป็นคนป่วยได้อย่างสบายใจ ก่อนจะกลับมาทำงานอีกครั้ง พร้อมทั้งฝากข้อคิดถึงคนที่ใช้ชีวิตหนักหน่วงแบบตนในอดีตไว้ว่า

“การป่วยไม่ใช่แค่คุณคนเดียว ครอบครัวคุณก็ป่วยไปด้วย เพราะฉะนั้นรีบรักษาให้ดีขึ้นเร็วที่สุด”

นอกจากนี้ ก็เล่าถึงชีวิตที่ยังคงขับเคลื่อนงานในวงการบันเทิงด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแพชชั่น และความเข้าใจในธรรมะที่ช่วยหล่อเลี้ยงใจให้ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง

“แพชชั่น สำหรับผม มันคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมลุกขึ้นมาทุกวัน ผมอาศัยงาน อาศัยการกายภาพบำบัด หรือแม้แต่การออกจากบ้าน เพื่อเข้าสู่สังคมภายนอก”

อ๊อฟเล่าถึงพลังที่ผลักดันให้เขายังยืนอยู่แถวหน้าในวงการ ทั้งที่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวจากอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมากมาย
“ผมฝึกเดินจากหน้ามอนิเตอร์ไปหน้าเซต ไป-กลับ เหมือนฝึกเดินขึ้นเขา ทีมงานเคยจัดให้ปีนจริงๆ ก็ทำมาแล้ว”

เมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงของวงการบันเทิงที่กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนทั้งแพลตฟอร์ม คนดู และเทคโนโลยี เจ้าตัวก็ว่าไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว เขามองทุกสิ่งด้วยความเข้าใจและยอมรับตามหลักของธรรมะ

“ทุกอย่างมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป เป็นธรรมดา เราผ่านยุคบอกบท มาอนาล็อก ดิจิทัล จนถึงวันนี้ที่ทีวีกลายเป็นเครื่องประดับบ้าน มันก็ไหลไปตามเทคโนโลยี”

เขาย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การฝืนวิถีโลก แต่คือการปรับตัวให้เหมาะกับยุค “ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็หาคนอื่นทำ คอนเทนต์คุณจะไปออกกี่แพลตฟอร์มผมไม่สนใจ ความจริงอย่างนึงคือคุณต้องใช้คอนเทนต์ผมแน่นอน”

สำหรับการทำงานในยุคที่บัดเจ็ตน้อยลงจากอิทธิพลของโซเชียลมีเดียและการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ชม เขายอมรับว่า “มันส่งผลให้คุณภาพลดลงบ้าง แต่ก็มีทางรอดคือสตรีมมิ่ง ซึ่งยังต้องการคอนเทนต์ดีๆ อยู่”

เมื่อพูดถึงความทุกข์จากสภาพวงการในปัจจุบัน เขาตอบอย่างหนักแน่นว่า “จะทุกข์ไปทำไม ทุกข์มันมีประโยชน์อะไร ไปหาอย่างอื่นทำก็ได้ ดาราหลายคนก็หันไปขายของ ขายหมูปิ้ง ไก่ย่าง”

และยังฝากแง่คิดถึงสังคมออนไลน์ที่ชอบตีตราศิลปินเพราะอาชีพเสริมว่า “ใช้คำว่า ‘พระเอกคนนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว’ คือจะสื่ออะไร เขากำลังทำมาหากินอยู่ต่างหาก”

“มันคือสิ่งที่ถูกต้อง อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ทำหนังผีสะท้อนคน เล่าชีวิตใหม่หลังผ่านวิกฤตสุขภาพ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก MATICHON ONLINE

ทีทีบี กำไรครึ่งปีกว่า 1 หมื่นล. ลดลง 6% เหตุดบ.ลด-ปรับโครงสร้างหนี้ โวNPLยังต่ำสุดในอุตฯการเงิน

17 นาทีที่แล้ว

วัดเหลือแต่หนี้! ชาวบ้านโอด ทิดยอดเพชร เคยดี เป็นพระนักพัฒนา เปลี่ยนหนักเพราะสีกา

23 นาทีที่แล้ว

เผยเหตุเพลิงไหม้ สยามสแควร์ซอย 3 ไฟลุกร้านราเมน ก่อนลามอีก 2 ร้าน คาดเสียบปลั๊กไว้ทั้งคืน

46 นาทีที่แล้ว

ผงะยาบ้า 4 ล้านเม็ด คนขับตกใจด่าน ซุกกระบะจอดทิ้งป่าข้างทาง เผ่นหนีไปในความมืด

50 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความบันเทิงอื่น ๆ

POP: รู้จักเทรนด์ ‘Aura Farming’ ท่าเต้นหัวเรือของหนุ่มน้อยอินโดฯ สู่ไวรัลที่คนดังเต้นตามกันทั่วโลก!

BrandThink
วิดีโอ

เป็นเรื่อง! “ตั๊กแตน ชลดา” โดนบูลลี่หุ่น ชาวเน็ตออกโรงปกป้อง

INN News

Confidence Queen ซีรีส์คอเมดี้แนวโจรกรรมของพัคมินยองที่หลายคนตั้งตารอ

INN News

“จ๊ะโอ๋” เผยคบกับ “หนุ่ม กะลา” มา 6 ปีแล้ว! เคลียร์ชัด ค่าใช้จ่ายอดีตภรรยา คนละครึ่งค่ะ (มีคลิป)

THE ROOM 44 CHANNEL

‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ หน้าสดสวยมาก คนแห่ชมเพียบ สดใส ดูเด็กสุด ๆ

The Bangkok Insight

"เอส เอฟ" ต้อนรับ 4 ฮีโร่ระดับตำนานใน ‘The Fantastic Four: First Steps’ พร้อมจัดเต็มรอบพิเศษเอาใจแฟน MARVEL

สยามรัฐ

“เจนนี่” เปิดบ้าน 100 ล้านทำบุญวันเกิด

สยามรัฐวาไรตี้

“ใจขังเจ้า” กระแสแรงไม่มีแผ่ว ดันเรตติ้งพุ่งต่อเนื่อง "ณเดชน์-พาย" เคมีฟาดเบอร์แรง บทดราม่าบาดลึกถึงใจ

new18

ข่าวและบทความยอดนิยม

อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ทำหนังผีสะท้อนคน เล่าชีวิตใหม่หลังผ่านวิกฤตสุขภาพ

MATICHON ONLINE

เปิดเมนูคุกคืนแรก สีกากอล์ฟ เผยยังกังวล แต่ไม่แสดงอาการเครียด นอนหลับได้บ้าง

MATICHON ONLINE

มนพร ชูวิสัยทัศน์ “รถไฟฟ้า 20 บาท – พัฒนาแลนด์บริดจ์ – ระบบราง ปลดล็อกทุกข้อจำกัด

MATICHON ONLINE
ดูเพิ่ม
Loading...