ฮ่องกงประกาศเตือนภัย พายุไต้ฝุ่นวิภา ระดับ 10 หวั่นกระทบตลาดการเงิน-การค้าระยะสั้น
ฮ่องกงประกาศเตือนภัย พายุไต้ฝุ่นวิภา ระดับ 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด รับมือผลกระทบตลาดการเงินและภาคธุรกิจ
20 กรกฎาคม 2568 - ศูนย์สังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory - HKO) ได้ออกประกาศเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อน "สัญญาณเฮอร์ริเคนระดับ 10" (Hurricane Signal, No. 10) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยระบุว่ามีความเร็วลมเฉลี่ย 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่านั้นกำลังจะพัดเข้าสู่พื้นที่ การประกาศเตือนภัยในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำเนินงานของตลาดในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
เมื่อเวลา 14:00 น. พายุไต้ฝุ่นวิภา (Typhoon Wipha) มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากศูนย์สังเกตการณ์ฮ่องกงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 80 กิโลเมตร (ใกล้ละติจูด 21.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก) และคาดการณ์ว่าจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านบริเวณปากแม่น้ำเพิร์ล (Pearl River Estuary) มุ่งหน้าสู่ชายฝั่งตะวันตกของมณฑลกวางตุ้ง
แม้ว่าพายุวิภาจะกำลังเคลื่อนตัวออกจากฮ่องกงไปเรื่อย ๆ และลมในพื้นที่ฝั่งตะวันออกเริ่มอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ลมกำลังเฮอร์ริเคนจากอิทธิพลของพายุวิภายังคงส่งผลกระทบเป็นครั้งคราวต่อพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮ่องกง HKO กำลังพิจารณาที่จะลดระดับสัญญาณเตือนภัยลงเป็น "สัญญาณพายุลมแรงหรือพายุ (Gale or Storm Signal), No. 8" ระหว่างเวลา 16:00 น. ถึง 17:00 น. ขึ้นอยู่กับระดับการอ่อนกำลังลงของกระแสลมในพื้นที่
ผลกระทบต่อภาคธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐาน
การเตือนภัยพายุระดับสูงสุดนี้ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลง โดยเฉพาะภาคบริการและการค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากการที่ประชาชนต้องอยู่ในที่พักอาศัยเพื่อความปลอดภัย ลมที่เปลี่ยนทิศทางเป็นตะวันออกเฉียงใต้ยังคงทำให้พื้นที่ที่เคยมีที่กำบังกลายเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐาน
แถบฝนของพายุวิภายังคงนำมาซึ่งฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนองบ่อยครั้งในฮ่องกง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเดินทาง การระงับกิจกรรมทางน้ำและการห้ามเข้าใกล้ชายฝั่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของสถานการณ์ในทะเล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งทางเรือและการดำเนินงานของท่าเรือ
ในชั่วโมงที่ผ่านมา มีการบันทึกความเร็วลมสูงสุดแบบต่อเนื่องที่ Ngong Ping, Cheung Chau และ Tai Mei Tuk ที่ 144, 119 และ 97 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามลำดับ โดยมีลมกระโชกสูงสุดเกิน 179, 140 และ 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของพายุที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่ออาคารและสิ่งปลูกสร้าง
ข้อควรระวังและการดำเนินงานของสนามบิน
ทางการได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการออกจากอาคาร การอยู่ห่างจากหน้าต่างและประตูที่เปิดโล่ง และระมัดระวังสายไฟที่ขาด สภาพคลื่นทะเลที่รุนแรงและกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากยังคงเป็นอันตราย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาคธุรกิจ การยกเลิกหรือความล่าช้าของเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง (Hong Kong International Airport) ถือเป็นผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานและการเดินทางเพื่อธุรกิจ ซึ่งผู้เดินทางและบริษัทที่เกี่ยวข้องควรติดต่อสายการบินเพื่อขอข้อมูลเที่ยวบินล่าสุดก่อนเดินทางมายังสนามบิน
ความเสียหายที่แตกต่างกันที่พายุหมุนเขตร้อนนำมาสู่ฮ่องกงในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการประเมินความเสี่ยงและมาตรการป้องกันภัยสำหรับธุรกิจและนักลงทุน เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยส่วนบุคคลและการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในสภาวะที่ไม่แน่นอนเช่นนี้
อ้างอิง : www.hko.gov.hk