‘วิโรจน์’ตอก ‘วิสุทธิ์’ถ้าไม่อยากผลาญงบสภา ให้พาสส.มาทำงาน
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระบุว่าการเสนอนับองค์ประชุมของฝ่ายค้าน แล้วประธานสั่งปิดประชุม ทำให้เกิดความเสียหายหลายแสนบาทสำหรับค่าอาหารที่เตรียมไว้สำหรับการประชุมสภา ว่า คิดว่านายวิสุทธิ์ เข้าใจผิด การที่จะไม่ผลาญงบประมาณก็คือการมาประชุม ลองคิดดูถ้าไม่มีการนับองค์ประชุมก็จะไม่มีใครรู้ว่า สส.ฝ่ายรัฐบาลไม่มาทำงานเยอะขนาดไหน ซึ่งตนตั้งคำถามว่าข้าวปลาอาหารที่เขาเตรียมไว้ ทำไมเขาต้องเตรียมไว้ให้กับคนที่ไม่มาหรือมาเซ็นชื่อแล้วกลับบ้านด้วย อย่างนี้ไม่เรียกว่าเป็นการผลาญงบประมาณหรือ
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้จะไม่เกิดปัญหาใดๆ เลย ถ้า สส.ของพรรคเพื่อไทยมาทำงาน และไม่เซ็นชื่อแล้วหนีกลับบ้าน เท่านั้นเอง การแก้ปัญหานี้ง่ายมาก นายวิสุทธิ์ไม่ต้องไปพูดถึงคนอื่น การนับองค์ประชุมเป็นกระบวนการตรวจสอบที่พรรคเพื่อไทยก็เคยใช้ในสภาชุดที่แล้ว ดังนั้นการแก้ปัญหานี้ไม่ใช่ไปวิพากษ์วิจารณ์คนที่เขาขอนับองค์ประชุม ตนว่านายวิสุทธิ์ไปแก้ปัญหา พา สส.ของฟากฝ่ายตัวเองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยมาทำงานดีกว่า หรือการที่นายวิสุทธิ์มาวิพากษ์วิจารณ์พรรคอื่นที่เขานับการประชุมโดยชอบตามข้อบังคับการประชุม เป็นเพราะว่าไม่มีความสามารถ ไม่มีสติปัญญาในฐานะประธานวิปรัฐบาลที่จะจูงใจหรือออกระเบียบเพื่อให้ สส.พรรคเพื่อไทยมาประชุมแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นนายวิสุทธิ์ก็ต้องพิจารณาตัวเองว่ายังเหมาะสมเป็นประธานวิปรัฐบาลอยู่หรือไม่ ทั้งหมดทั้งมวลไม่ต้องไปเพ่งโทษคนอื่น แต่ให้ดูตัวเอง
เมื่อถามว่าฝ่ายรัฐบาลอ้างว่า สส.ติดประชุม กมธ.งบประมาณฯ และกมธ.ต่างๆ นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ประธานกดปุ่มเรียกก็ลงมาได้ ห้องงบประมาณก็อยู่ชั้น 4 มีบันไดเลื่อนเดินลงมา ห้องประชุม กมธ.ก็อยู่รอบๆ ห้องประชุมพระสุริยันอยู่แล้ว คุณอย่ามาหลอกประชาชนที่เขาไม่ได้อยู่ในสภาเลย ข้าราชการที่เขาอยู่ในสภาเขารู้ดีว่า ถ้าประธานกดสัญญาณก็ต้องเข้ามาในห้องประชุมพระสุริยัน เพื่อแสดงตัวและโหวตกฎหมายสำคัญๆ ดังนั้นเขาจะเลือกห้องประชุม กมธ.ที่ใกล้กับห้องประชุมพระสุริยันให้อยู่แล้ว แต่การที่ประธานกดออดกี่ทีๆ ก็ไม่มีใครมานั้น แสดงว่าเขาไม่ได้อยู่ในสภาแล้ว เขาขับรถออกไปแล้ว
“วันหลังผมว่าคุณวิสุทธิ์ก่อนที่จะตำหนิ ให้ลงไปดูที่ชั้นจอดรถ B2 เขาจะมีการล็อกเลขที่จอดรถให้กับ สส.เอาไว้ ไปดูได้เลย มันโหว่ มันแหว่งอย่างไร หรือว่า สส.ยังอยู่แต่มีการโจรกรรมรถยนต์ รถจึงหายไปหมดเกลี้ยงชั้น B2 หรือมีวิญญาณอะไรที่มาพารถไปโดยไม่ต้องมีคนขับ มันหลอนเกินไป คงเป็นไปไม่ได้ คุณวิสุทธิ์ก็รู้ ผมย้ำว่าให้คุณวิสุทธิ์ไปดูชั้น B2 แล้วจะรู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ดังนั้นต้องแก้ที่ตัวเอง ถ้าไม่อยากผลาญงบให้พา สส.ตัวเองมาทำงาน ถ้ายังอ้างว่า สส.ยังอยู่ในพื้นที่ ก็ให้ไปดูชั้น B2 เอาเลขช่องที่จอดรถไปดูเลย แล้วก็จะรู้ว่าอยู่หรือไม่อยู่ หรือถ้าเกิดยังยืนยันว่าอยู่ ก็ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ว่ามีบุคคลภายนอกมาขโมยรถของ สส.ในสภายกใหญ่เลย แต่โจรก็ใจดีเพราะวันพุธหน้าก็เอารถมาคืนให้” นายวิโรจน์ กล่าว.