SOCIETY: รู้จักไวรัล ‘July Theory’ หรือ ‘หน้าร้อนแห่งพลังการตามหารักแท้’ ของฝรั่ง คำถามคือ…แล้วคนไทยที่อยู่ในหน้าฝนมีสิทธิ์ไหม?
มีใครเคยได้ยิน ‘ทฤษฎีประจำเดือน’ ที่แพร่หลายใน TikTok มาแล้วบ้าง?
อย่าง ‘ทฤษฎีเดือนเมษายน’ (April Theory) ที่ว่ากันว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ในเรื่องความรัก ทว่า ตอนนี้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจ ‘ทฤษฎีเดือนกรกฎาคม’ (July Theory) ที่แตกต่างออกไป เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของการเริ่มต้น แต่คือเรื่องของ ‘โชคชะตา’
ทุกอย่างจะเข้ามาหรือออกไปจากชีวิตเราอย่างมีเหตุผล ทฤษฎีนี้บอกว่า ถ้าสิ่งใดจะเกิด มันก็จะเกิดเองในเวลาที่ควรจะเป็น ขอแค่เรายอมให้มันไหลผ่านเข้ามาและจากไปอย่างสง่างาม
โดยสิ่งที่ทำให้ทฤษฎีนี้ดูมีน้ำหนักมากขึ้น ก็คือคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์อย่าง แองเจลิกา คอช (Angelika Koch) จากแอปหาคู่ Taimi ที่บอกว่า คนจำนวนไม่น้อยเริ่มกลับไปคิดถึงความสัมพันธ์เก่าๆ หรือกลับไปติดต่อกับแฟนเก่าในช่วงเดือนกรกฎาคม เพราะเป็นช่วงที่ใจเริ่มได้รับการเยียวยาหลังจากการเลิกรา และกลับมารู้สึกมั่นคงพอจะเปิดประตูใจให้ใครอีกครั้ง
พอคิดดูแล้วก็มีเหตุผล เพราะฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่เรามักรู้สึกเบาสบาย สดใสกว่าในช่วงฤดูหนาวที่อาจทำให้เราหดหู่หรือเก็บตัวอยู่กับบ้านมากเกินไป แถมยังเป็นช่วงที่หลายคู่ที่เพิ่งเริ่มต้นความสัมพันธ์ในช่วงต้นซัมเมอร์อาจมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งในเดือนนี้ และนั่นอาจกลายเป็นแรงกระตุ้นให้หันกลับไปมองความสัมพันธ์เก่าๆ พร้อมกับความรู้สึกโหยหาแบบไม่ทันตั้งตัว
แต่ในขณะเดียวกันคอชก็เตือนว่าความรู้สึกทั้งหมดนี้อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่นได้ หากเราไม่รู้เท่าทันตัวเอง เพราะเมื่อความตื่นเต้นของฤดูร้อนเริ่มจางหาย หลายคนก็เริ่มกลับมาทบทวนว่าจริงๆ แล้ว เราต้องการอะไรจากชีวิต รวมถึงการเริ่มคิดถึงช่วงเทศกาลปลายปี และความรู้สึกกลัวการอยู่คนเดียวในช่วงเวลานั้นก็อาจเริ่มคืบคลานเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
กรกฎาคมจึงเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนของฤดูกาล เป็นช่วงกลางระหว่างความเบิกบานของหน้าร้อน กับการเริ่มกลับเข้าสู่ชีวิตจริงในเดือนสิงหาคม ที่เด็กๆ ถึงเวลาเปิดเทอม เหล่าบริษัทมากมายก็เริ่มวางแผนสำหรับสิ้นปี และความจริงจังค่อยๆ เข้ามาแทนที่ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่ ‘ฤดูจับคู่’ (Cuffing season) เริ่มส่งสัญญาณเข้ามาในใจอย่างเงียบๆ
July Theory จึงไม่ได้พูดถึงแค่ความรักลอยๆ แต่กลับสะท้อนความเปลี่ยนแปลงในใจเราท่ามกลางฤดูร้อน และการยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกความสัมพันธ์จะยั่งยืน แต่ทุกความสัมพันธ์อาจมีเหตุผลบางอย่างที่เข้ามาเพื่อทำให้เราเรียนรู้ เติบโต และพร้อมที่จะก้าวสู่ครึ่งปีหลังด้วยหัวใจที่แข็งแรงกว่าเดิม
สำหรับคนไทย ที่ในเดือนกรกฎาคมคือ ‘ฤดูฝน’ คงได้แต่ถามตัวเองในใจว่า “แล้วจะเอาพลังที่ไหนไปตามหารักแท้?”
ทุกคนอ่านแล้วคิดเห็นอย่างไร หรือถ้าลองตั้งทฤษฎีเช่นนี้ในบริบทคนไทยจะตั้งว่ายังไงบ้าง ลองมาแชร์กันดูนะ