ประเด็นข่าวร้อน! "รอบโลก" (8 ก.ย.68)
ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มผันผวนในช่วงเปิดการซื้อขายวันนี้ (8 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข่าวการประกาศลาออกของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำญี่ปุ่น พร้อมกับจับตาข้อมูลการค้าของจีนในวันนี้ โดยสำนักงานศุลกากรจีนมีกำหนดเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าประจำเดือนส.ค.
-สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2568 ขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัวเพียง 1%
-กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 137,000 บาร์เรล/วันในเดือนต.ค. โดยมีเป้าหมายเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมา
อย่างไรก็ดี ปริมาณการผลิตที่จะปรับเพิ่มในเดือนต.ค.นั้น ยังน้อยกว่าในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ โดยโอเปกพลัสได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิต 547,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย., เพิ่มกำลังการผลิต 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. และปรับเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรล/วันทั้งในเดือนเดือนพ.ค., เดือนมิ.ย. และเดือนก.ค.
-ตลาดการเงินจับตา 3 ผู้สมัครตัวเต็งในศึกชิงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยการเลือกผู้นำคนใหม่ของเฟดนับว่ามีเดิมพันสูง และเป็นที่จับตาของนักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลก เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย มาตรการควบคุมเงินเฟ้อ และความเป็นอิสระของธนาคารกลาง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รายชื่อผู้สมัครที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากเจอโรม พาวเวล ประกอบด้วย เควิน แฮสเซต ที่ปรึกษาของทำเนียบขาว, เควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดคนปัจจุบัน โดยทั้งสามถือเป็นผู้เข้ารอบสุดท้าย
-ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งบริหารเมื่อวันศุกร์ (5 ก.ย.) เพื่อเปิดทางให้มีการยกเว้นภาษีนำเข้าบางส่วนแก่ประเทศคู่ค้าที่บรรลุข้อตกลงด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เช่น นิกเกิล ทองคำ และโลหะอื่น ๆ รวมถึงสารประกอบทางเภสัชภัณฑ์และสารเคมีภัณฑ์ โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00:01 น. ของวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.
ในช่วง 7 เดือนแรกของการดำรงตำแหน่ง ทรัมป์เดินหน้าผลักดันการขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ เพื่อปรับโครงสร้างระบบการค้าโลก ลดการขาดดุลการค้า และกดดันให้ประเทศคู่ค้ายอมอ่อนข้อในการเจรจา
คำสั่งล่าสุดได้กำหนดหมวดหมู่สินค้ามากกว่า 45 ประเภทที่จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ หากประเทศคู่ค้าสามารถทำข้อตกลงกรอบความร่วมมือเพื่อลดภาษีตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมาตรา 232 นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังทำให้โครงสร้างภาษีของสหรัฐฯ สอดคล้องกับพันธกรณีในข้อตกลงกรอบความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว เช่น ข้อตกลงกับญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป
-ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่า เขาจะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ที่มีกำหนดจัดขึ้นในแอฟริกาใต้ในเดือนพ.ย.ปีนี้ และจะส่งรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ ไปแทน
ทรัมป์ยังประกาศที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะเป็นประธานการประชุมสุดยอด G20 ปีหน้าที่รีสอร์ตสนามกอล์ฟของเขาในไมอามี ใกล้คฤหาสน์มาร์อาลาโกในรัฐฟลอริดา
ทรัมป์กล่าวว่า เขาตั้งตารอที่จะนำเสนอความสำเร็จอันน่าทึ่งของสหรัฐฯ ต่อโลก ในฐานะเจ้าภาพต้อนรับผู้นำจากกลุ่มเศรษฐกิจใหญ่ เช่น จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น และรัสเซีย
-กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (5 ก.ย.) ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 75,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.
หลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้