พรรคประชาชน ไม่ขอเป็นองค์ประชุม เหตุรัฐบาลไม่ฟังข้อเสนอ ดื้อเลื่อนวาระเลือกรองประธานสภา คนที่ 1 ก่อนญัตติด่วน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่รัฐสภา พรรคประชาชน นำโดย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงประเด็นการนับองค์ประชุม แถลงภายหลังเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ที่ประชุมสภามีการถกเถียงเกี่ยวกับการขอเลื่อนวาระการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และขอนับองค์ประชุม จนกระทั่งมีการขอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อในช่วงบ่าย
โดย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าระหว่างที่พักการประชุม ก็ได้มีการหารือกับทุกพรรค ว่าจะมีกระทู้เรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบแนวชายแดน ซึ่งพรรคฝ่ายค้าน ได้มีการขอให้มีการเสนอให้ญัตติด่วนก่อน แล้วค่อยเลือกรองประธานสภา คนที่ 1 และหากเป็นเช่นนั้นฝ่ายค้านก็พร้อมจะร่วมเป็นองค์ประชุมให้ แต่วิปรัฐบาลยังยืนยันจะขอเลื่อนวาระเลือกรองประธานสภา คนที่ 1 ขึ้นมาก่อน จึงทำให้สมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้แย้งขึ้นอีก
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจว่าในการประชุม การมีประธาน 3 คน ก็จะทำให้การพิจารณาทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่วิปรัฐบาลไม่ยอม ยังคงยืนยันให้เลือกรองประธานสภา คนที่ 1 ต่อไป และขอให้เสนอมีการนับองค์ประชุมในการขานชื่อ ดังนั้น ต้องขอวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของรองประธานสภาคนใหม่ หรือนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภา คนที่ 2 ว่าการวินิจฉัยเช่นนี้ไม่เป็นไปตามข้อบังคับ และใช้อำนาจ โดยที่ไม่ฟังคำโต้แย้งจากเพื่อนสมาชิกที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้กล่าวไป เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่เคารพ และไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดีเลย โดยเฉพาะการที่ทำงานมาได้เพียง 2 วัน ปรากฏว่าได้ทำหน้าที่ไม่เป็นกลางแล้ว เราจึงไม่สามารถมั่นใจได้ว่า ในการทำหน้าที่ต่อไป ทางสมาชิกจะเชื่อมั่นได้อย่างไร ว่าท่านจัดปฏิบัติหน้าที่บนบัลลังก์อย่างเป็นกลางได้จริง
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ถึงตอนนี้ตนต้องบอกว่า มีโอกาสมากที่เมื่อการนับองค์ประชุมเสร็จสิ้น องค์ประชุมอาจไม่ครบ ซึ่งตนคิดว่า ซีกฝั่งรัฐบาลเองก็น่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าตอนนี้องค์ประชุมของรัฐบาลไม่ครบ โดยพรรคฝ่ายค้านนั้น ยืนยันชัดเจนว่าเราไม่ขอร่วมเป็นองค์ประชุมในวันนี้ และเป็นหน้าที่ที่สำคัญของฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องรักษาองค์ประชุมในการเลือกรองประธานสภา คนที่ 1 ไว้ให้ได้
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าสังเกตคือ เมื่อเช้าของวันนี้ ตนไม่มั่นใจว่าองค์ประชุมไม่ครบ ก่อนที่จะมีการพักการประชุมไป มีพรรคร่วมรัฐบาลไหนบ้าง ที่ไม่ได้แสดงตน หรือแสดงตนไม่ครบ แต่เมื่อการขานชื่อเสร็จสิ้น จะต้องมีการแจ้งจำนวนอย่างชัดเจน จนถึงตอนนั้น คิดว่าน่าจะเห็นภาพได้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนบ้างที่มาไม่ครบ และเป็นจำนวนเท่าไหร่ ก็คงจะได้ทราบกันว่า พรรคไหนขาดมากที่สุด ในซีกฝ่ายรัฐบาล
"เป็นสัญญาณของความขัดแย้ง ของเรื่องเลือกตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 1 ซึ่งยังเป็นความขัดแย้งที่ยังคงดำรงอยู่ ว่าก่อนเข้าวาระก็ยังตกลงกันไม่ได้หรือไม่" นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในเวลา 15.00 น. ตนต้องไปประชุมวิปร่วมกับฝ่ายรัฐบาล เรื่องการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ วาระสองต่อไป หากวันนี้รัฐบาลยังไม่สามารถรักษาองค์ประชุมไว้ได้ ในสัปดาห์หน้า ก็คงมีประธานทำหน้าที่เพียง 2 ท่าน ซึ่งฝ่ายค้านพร้อม หากต้องขยายเวลา เป็น 4 วัน หรือ 5 วัน
เมื่อถามถึงบรรยากาศในช่วงพักการประชุม ฝ่ายรัฐบาลมีเอกภาพมากเพียงพอหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มีสัญญาณความขัดแย้ง แต่ต้องบอกว่า ในตอนนั้นไม่มีการรับปากว่า จะเป็นไปตามพรรคฝ่ายค้านเสนอหรือไม่ ที่เราได้นำเสนอทางออก ที่เราคิดว่าดีที่สุดในการร่วมเป็นองค์ประกอบให้ได้ ซึ่งตนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่ วิปรัฐบาล บอกให้เลือกรองประธานสภา คนที่ 1 ก่อน ใช้เวลานิดเดียว แต่ปรากฏว่า เวลานับองค์ประชุม กลับเสนอให้ขานชื่อ ที่อาจใช้เวลาถึง 2 ชม. เป็นอย่างน้อย ตกลงว่าเราอยากจะประหยัดเวลา หรือเสียเวลากันแน่ และก็มีความเป็นไปได้ว่า ใช้การขานชื่อเพื่อรอสมาชิก แต่ตนก็ไม่มั่นใจว่า ตัวเลขที่นับเมื่อเช้ากับขณะนี้ ตัวเลขไหนจะมากกว่ากัน
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ (6 ส.ค. 2568) วิปรัฐบาล ระบุ สส.ฝ่ายรัฐบาล อย่าสันหลังยาวนั้น เป็นการสะท้อนว่าคุมเสียงไม่อยู่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า น่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ค่อนข้างชัดว่า ทางวิปรัฐบาลไม่สามารถคุมเสียงพรรคร่วมได้ และตัวเลขในวันนี้ที่ออกมา ก็อาจจะสะท้อนว่าคุมเสียงในพรรคตัวเองได้หรือไม่ด้วย