สนามช้างฯ หวั่นปมเขากระโดง ทำมอเตอร์สปอร์ตไทยล่มสลาย ชี้รัฐต้องจ่ายปรับมหาศาล
สนามช้างฯ หวั่นปมเขากระโดง ทำมอเตอร์สปอร์ตไทยล่มสลาย ชี้รัฐต้องจ่ายปรับมหาศาล
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผู้อำนวยการสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมด้วย นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานทรัพย์สิน และผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ และตัวแทนประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจ และนิติบุคคลที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ แถลงข่าวชี้แจงกรณีข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ร่วมกันแถลงเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 5,083 ไร่ (995 ราย) เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568
นายตนัยศิริ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีแถลงกรณีเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง นำมาซึ่งข้อกังวล และความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ใช่เพียงแค่เอกชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งจากการตัดสินของศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ที่ผ่านมา ทำไมประชาชนยังอยู่ในพื้นที่ และได้มีการชี้แจงไปหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้ยิน ดังนั้นวันนี้จึงอยากที่จะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับสาธารณชนได้รับทราบ
นายตนัยศิริ กล่าวอีกว่า สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งรถมาตรฐานระดับโลก มาตรฐานเอฟไอเอ เกรด 1 และเอฟไอเอ็ม เกรดเอ แห่งเดียวของไทย ไม่ใช่แค่สนามแข่งรถ แต่คือหัวใจของอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตไทย และยังเกี่ยวโยงกับธุรกิจท่องเที่ยว การบริการ การจ้างงานหลายหมื่นอัตรา ซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศกว่าปีละ 5,000 ล้านบาท หากไม่สามารถดำเนินงานได้ ย่อมกระทบลึกไปถึงเศรษฐกิจและทำให้ประเทศเสียเครดิตในเวทีโลก รายการแข่งขันระดับโลก ทั้งโมโตจีพี, เอเชียโรด เรซซิ่ง, จีทีเวิลด์เอเชีย, เอเชี่ยน เลอม็อง และอีกหลายรายการที่จ่อคิวจัดในไทย อาจต้องย้ายประเทศทันที หากความไม่แน่นอนนี้ยังคงดำเนินต่อไป รวมถึงรัฐบาลจะต้องจ่ายค่าปรับจำนวนเงินมหาศาลให้เจ้าของลิขสิทธิ์หากต้องยกเลิกการจัด ขณะที่รายการชิงแชมป์ประเทศไทย “บีอาร์ไอซี ซุปเปอร์ไบค์” เวทีให้เยาวชนไทยได้รับโอกาสสู่การเป็นนักแข่งระดับโลกมากมายหลายคน อาจต้องจบเส้นทางลงหากโดนแทรกแซงทางการเมืองเช่นนี้
“ข้อเท็จจริงประการสำคัญที่สาธารณะชนควรทราบ คือที่ดินที่เป็นพื้นที่ของสนามแข่งรถในปัจจุบัน ถูกซื้อตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งขณะนั้นกรมที่ดินได้อนุญาตให้ทำการซื้อขายและออกเอกสารสิทธิให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่วันนี้ที่ดินที่ซื้อมาอย่างถูกต้องกลับถูกคำสั่งเพิกถอนจากข้อพิพาทระหว่างกรมที่ดินกับการรถไฟ ชาวบ้านและเอกชนจึงกลายเป็นเหยื่อผู้ได้รับผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรม นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของสนามแข่ง แต่คือพายุลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้าสู่วงการกีฬาไทย หากปล่อยให้การเมืองกลบทุกเสียงของความเป็นธรรม วงการมอเตอร์สปอร์ตทั้งระบบอาจล่มสลาย ถ้าวันนี้ท่านสั่งให้ต้องปิดสนามช้างฯ จะถือเป็นการทำลายวงการมอเตอร์สปอร์ต และเป็นการทำลายจังหวัดบุรีรัมย์ โดยที่ผ่านมาเราก็ได้ชี้แจงกับสปอนเซอร์ไปแล้ว แน่นอนว่าความเชื่อมั่นของสปอนเซอร์เราได้รับผลกระทบ เราก็จะปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่า ถ้าหากมีสปอนเซอร์ยกเลิกจากกรณีนี้ เราก็จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เพราะสิ่งเหล่านี้มีมูลค่ามหาศาล” นายตนัยศิริ กล่าวอีกว่า
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สนามช้างฯ หวั่นปมเขากระโดง ทำมอเตอร์สปอร์ตไทยล่มสลาย ชี้รัฐต้องจ่ายปรับมหาศาล
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th