สทนช.ลงพื้นที่เขื่อนสิริกิติ์ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเร่งบริหารจัดการน้ำรับมือฝนระลอกใหม่
วันที่ 11 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ เป็นประธานการประชุมหารือติดตามการบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์ และการเตรียมความพร้อมรับมือฝนระลอกใหม่ โดยมี นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายชวลิต กันคำ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายประสิทธิ์ อุปชิตร ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ นางกรรณชนก ขวัญนาง นายอำเภอท่าปลา นายกรีธาทัพ บุณย์ศรีสีไท วิศวกรชลประทานชำนาญการ โครงการชลประทานอุตรดิตถ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องมณีน่าน ร้านอาหารระเบียงน่านเขื่อนสิริกิติ์
การประชุมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและความคืบหน้ามาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 ในจังหวัดอุตรดิตถ์ จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในช่วงพายุวิภา ที่ผ่านมา ปัจจุบัน (11 ส.ค. 2568 เวลา 08.00 น.) เขื่อนสิริกิติ์ มีระดับน้ำกักเก็บอยู่ที่ 155.65 เมตร (รทก.) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 7,937 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 83.46 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,573 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปัจจุบันคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ได้พิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จาก 50 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ขึ้นเป็นวันละ 55 ล้าน ลูกบาศก์เมตร/วัน เพื่อเป็นการเตรียมพื้นที่ว่างในอ่างเก็บน้ำสำหรับรองรับปริมาณน้ำฝนระลอกใหม่จากอิทธิพลของร่องมรสุมและมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11-18 สิงหาคม 2568 และตลอดช่วงฤดูฝนในเดือนกันยายน - ตุลาคม 2568
แผนการระบายน้ำดังกล่าว อยู่ภายใต้การบูรณาการร่วมกันระหว่าง กฟผ. เขื่อนสิริกิติ์ กรมชลประทาน และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มุ่งเน้นบริหารจัดการน้ำทั้งระบบลุ่มน้ำ ในปริมาณที่ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน พร้อมเตรียมพื้นที่ว่างในอ่างฯ เพื่อรองรับน้ำฝนตลอดช่วงฤดูฝนนี้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำหรือริมแม่น้ำ ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการ และ กฟผ.เขื่อนสิริกิติ์อย่างใกล้ชิด