โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

กรมขนส่งฯ ดูแลปชช.เดินทางหยุดยาว "วันแม่แห่งชาติ" เพิ่มรถโดยสาร-จนท.ดูแล

สยามรัฐ

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กรมการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางในช่วงวันหยุดยาว วันแม่แห่งชาติ โดยจัดรถโดยสารเพิ่มเติมสำหรับจังหวัดที่มีการเดินทางหนาแน่น และจัดเจ้าหน้าที่ตรวจความพร้อมรถโดยสารและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอด จุดตรวจ ทั่วประเทศ เพื่อความปลอดภัย

วันที่ 10 สิงหาคม 2568 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการตามมาตรการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันแม่แห่งชาติ โดยมีมาตรการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอด Rest Area และจุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ Check Point ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 9 – 12 สิงหาคม 2568 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดทุกแห่ง ตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทาง ตามแบบ Checklist เช่น การมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ตามประเภทใบอนุญาตขับรถและไม่หมดอายุ ตรวจความพร้อมด้านร่างกาย และการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรงทั้งสภาพตัวรถภายนอกและภายใน รวมทั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆ เช่น ประตูฉุกเฉิน ค้อนทุบกระจก เข็มขัดนิรภัย ถังดับเพลิง ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และขอให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ

สำหรับผลดำเนินการตรวจความพร้อม ในวันที่ 9 สิงหาคม 2568 ตรวจรถโดยสารสาธารณะแล้ว จำนวน 11,493 คัน พบรถบกพร่อง จำนวน 4 คัน โดยได้ดำเนินการออกคำสั่งผู้ตรวจการ ส่วนการตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ จำนวน 11,493 ราย ไม่พบพนักงานขับรถบกพร่องและไม่พบว่ามีอุณหภูมิเกินกำหนด

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนผลการดำเนินการติดตามตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ด้วยระบบ GPS Tracking ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS จำนวน 50,385 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด จำนวน 128 คัน ผลตรวจสอบการใช้ความเร็วรถโดยสารและรถบรรทุก ด้วยกล้องเลเซอร์ บนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ จำนวน 1,400 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด 7 คัน กรมการขนส่งทางบกจะประสานผู้ประกอบการขนส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำกับการใช้ความเร็ว ควบคู่กับมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

สำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะผ่านศูนย์ 1584 ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จำนวน 47 เรื่อง โดยเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุด 3 อันดับได้แก่ ไม่หยุดรับส่งผู้โดยสารที่ป้ายหยุดรถ ขับรถประมาท/น่าหวาดเสียว และผู้ประจำรถแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ/แต่งกายไม่เรียบร้อย กรมการขนส่งทางบกจะเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาสอบสวนและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ สามารถแจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

"หมอลักษณ์" เตือนราศีใดระวังเจ็บป่วยสายฟ้าแลบ

15 นาทีที่แล้ว

สธ. เผยผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 3 ราย อาการสาหัส

20 นาทีที่แล้ว

"แก้วสรร" แพร่บทความ "อุ๊งอิ๊งคุยฮุนเซน : เมื่อนางสีดายอมตามใจทศกัณฐ์"

22 นาทีที่แล้ว

"ทหาร" ล้อมรั้วลวดหนาม "อรัญประเทศ -คลองลึก-ปอยเปต" 9.8 กม. ปิดช่องทางธรรมชาติ สกัดแรงงานเถื่อน-แก๊งค์คอลเซนเตอร์- สิ่งผิด กม.

23 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

กสทช. แจงเสาสัญญาณชายแดนสุรินทร์ ปรับลดสัญญาณตามมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว

สยามรัฐ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'วิทัย รัตนากร' เป็นผู้ว่า ธปท.คนใหม่ มีผล 1 ต.ค.68

กรุงเทพธุรกิจ

'เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์' ขยับร่วมทุน 'เถ้าแก่น้อย' ลุยตลาดป๊อปคอร์น

กรุงเทพธุรกิจ

AF มาแล้ว

ประชาชาติธุรกิจ

ศึกชิงเก้าอี้ “ประธานเฟด” เดือด! ทรัมป์เปิดชื่อ 3 ตัวเต็ง ชี้ชะตานโยบายการเงินโลก

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“รัฐบาล” คุมเข้มชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งช่วยประชาชนกลับภูมิลำเนา

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...