“มาริษ” นำคณะทูตอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ภูมะเขือ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 17 สิงหาคม 2568 เวลา 0.02 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทศรีสะเกษ 16 ส.ค.-“มาริษ” นำคณะทูตอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาลงพื้นที่ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ดูทุ่นระเบิดที่เก็บกู้ได้ ขณะที่ตัวแทนคณะทูต สนใจสอบถามทุ่นระเบิดล่าสุดเก็บได้เมื่อไหร่
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาจำนวน 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศลงพื้นที่ใกล้เคียงหน่วยปฏิบัติการภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติงานเก็บกู้และตรวจยึดทุ่นระเบิดรวมถึงยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่พบในพื้นที่ โดยมีสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ผลการเก็บกู้และยึดคืนอาวุธ
โดยเจ้าหน้าที่จากกองพลทหารช่างที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 ได้รายงานสรุปผลการปฏิบัติงานต่อคณะผู้สังเกตการณ์ ว่า ที่ผ่านมาสามารถเก็บกู้และตรวจยึดทุ่นระเบิดสังหารบุคคลได้แล้วทั้งสิ้น 46 ทุ่น โดยในจำนวนนี้มี 16 ทุ่นอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังพบทุ่นระเบิดดักรถถัง, ลูกจรวด RPG และลูกระเบิดขนาด 60 และ 82 มม.
เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูล ว่า แม้จะมีการประกาศหยุดยิงระหว่าง 2 ประเทศมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ทหารไทยยังคงปฏิบัติภารกิจตรวจค้นในเขตพื้นที่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังคงพบทุ่นระเบิดและยุทโธปกรณ์ของฝ่ายกัมพูชาอยู่เป็นระยะ
ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่า ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ตรวจพบส่วนใหญ่จะถูกฝังอยู่ไม่ลึกจากพื้นดิน และอำพรางด้วยดินและเศษใบไม้ ซึ่งอุปกรณ์ตรวจจับโลหะเป็นเครื่องมือหลักที่ใช้ในการค้นหา ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เหยียบจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของรองเท้าที่สวมใส่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยุทโธปกรณ์ที่ตรวจยึดได้ว่า แม้อาวุธบางส่วนจะดูเก่า แต่ไม่ใช่เป็นอาวุธรุ่นโบราณ เพียงแต่มีสภาพทรุดโทรมจากการเก็บรักษาที่ไม่ดี
โดยหนึ่งในคณะทูตได้สอบถามเจ้าหน้าที่ถึงการตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลครั้งล่าสุด ซึ่งได้รับคำตอบว่าเพิ่งพบเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาในบริเวณพื้นที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ เจ้าหน้าที่ทหารไม่สามารถให้ข้อมูลแหล่งที่มาของยุทโธปกรณ์ที่ตรวจพบได้ เนื่องจากเป็นประเด็นที่อาจเกี่ยวข้องกับประเทศที่สาม
ช่วงท้ายของการเยี่ยมชม เจ้าหน้าที่ทหารเรือได้สาธิตวิธีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้รับชม พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศร่วมบรรยายเป็นภาษาอังกฤษประกอบเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูต ลงพื้นที่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ เพื่อดูความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย