งบ69ฉลุย! สภาฯ257 ต่อ230 เสียง 'เห็นชอบ' ส่งสว.พิจารณาด่านสุดท้าย
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จ(วาระสอง)เป็นวันที่สาม
หลังที่ประชุมมีการพิจารณาเป็นรายมาตราเสร็จสิ้นเรียบร้อย จากนั้นที่ประชุมเข้าสู่ขั้นตอนการลงมติให้ความเห็นชอบ(วาระ3)ร่างพ.ร.บ.งบประมาณทั้งฉบับ
ผลปรากฎว่าที่ประชุม487 คน มีมติ 257 ต่อ230 เสียง "เห็นชอบ" ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ2569
ขณะเดียวกันยังมีมติ 398 ต่อ9 เสียง งด9 ไม่ลงคะแนน 17 เห็นด้วยตามข้อสังเกตของกมธ.
โดยขั้นตอนหลังจากที่สภาฯให้ความเห็นชอบในวาระ3 จากนี้จะเป็นการพิจารณาในส่วนของวุฒิสภาจะพิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบในลำดับถัดไป
ก่อนที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่างพ.ร.บ. ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในวันที่ 1 ต.ค.2568 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่
จากนั้นนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2569 ว่า ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะผู้แทนรัฐบาลขอขอบคุณท่านประธานและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติทุกท่านที่ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณพ.ศ.2569
ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยรับงบประมาณให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยคำนึงถึงความจำเป็นความต้องการในพื้นที่และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการ
สำหรับข้อคิดเห็นคำแนะนำข้อเสนอรวมทั้งความห่วงใยที่ท่านสมาชิกได้เสนอแนะไว้ตลอดระยะเวลาของการประชุม รัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณและจะได้นำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณมากที่สุด
นอกจากนั้นขอขอบคุณกมธ.วิสามัญฯ ทุกท่านที่ได้เสียสละเวลาและร่วมมือกันในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฉบับนี้อย่างเต็มที่จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
โดยข้อสังเกตของกมธ.ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการรัฐบาลจะได้นำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณ มีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้ผมขอให้ความมั่นใจว่า นโยบาย มาตรการ และงบประมาณที่ได้ ผ่านการพิจารณาในครั้งนี้จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และแผนงานที่กำหนดโดยรัฐบาลจะกำกับดูแลเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว มีความโปร่งใสตรวจสอบได้และบรรลุสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่กำหนดไว้เพื่อขับเคลื่อนภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตามเจตนารมย์ของรัฐบาลและความมุ่งมั่นของท่านสมาชิก ทุกท่านณที่นี้ต่อไป