ปัตตานี/ รมว.ยุติธรรม ร่วมงานทำบุญใหญ่อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุไม่สงบใน จชต.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 สค. พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธี ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ วัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยมีพระสิริจริยาลังการ รองเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการเยียวยาจิตใจประชาชน
การเข้าร่วมงานของ พ.ต.อ. ทวี ในครั้งนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้นด้วยการมี พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ดำรงตำแหน่งปัจจุบันเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้มีบทบาทสำคัญด้านความมั่นคงในพื้นที่ เข้าร่วมงานด้วย ซึ่งสะท้อนถึงการทำงานที่ประสานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคง เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างบูรณาการ โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตและผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากทุกภาคส่วนกว่า 2,000 คน ซึ่งประกอบด้วย พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. พล.ท. ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 นางพาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ต. อาชาน จันทร์ศิริ รอง ผบช.ภ.9 พลตรีเฉลิมชัย สุทธินวล ผอ.ศูนย์สันติวิธิ นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ อดีตนายกเทศบาลเมืองปัตตานี รวมถึงเจ้าหน้าที่ข้าราชการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
พิธีสำคัญนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจและสร้างขวัญกำลังใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย และยังเป็นการส่งเสริมความเข้าใจในพหุวัฒนธรรมอันดีงามของพื้นที่ผ่านกิจกรรมร่วมกัน ภายในงานมีการประกอบพิธีทำบุญทอดผ้าไตรบังสุกุล และ รมว.ยุติธรรมได้เป็นตัวแทนมอบของบำรุงขวัญให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความห่วงใยจากภาครัฐ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความรู้สึกจากตัวแทนเยาวชนผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่ประสบความสำเร็จด้านการศึกษาและการงาน เพื่อเป็นแสงสว่างและแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราได้รำลึกถึงความสูญเสียจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตร่วม 6,000 คน ผู้ที่บาดเจ็บอีก 14,000 – 16,000 คน ซึ่งวันนี้เราได้ร่วมทำบุญให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบเพื่อรำลึกผู้ที่จากไป และให้กำลังใจผู้ที่ยังอยู่ที่สูญเสียคนที่รัก ถึงแม้ว่าทางราชการจะได้เยียวยาช่วยเหลือฟื้นฟูถึงด้านจิตใจและชุมชน แต่ทางเรายังอยากจะดูแลผู้คนที่ต้องสูญเสียคนรักในครอบครัว เรามองว่าความรุนแรงมีแต่น้ำตาและความทุกข์ ทำให้พื้นที่พัฒนาไปได้ยากลำบาก ขณะพื้นที่ที่ไม่มีความรุนแรงจะพัฒนาก้าวไปต่อเนื่อง เราจึงเป็นพื้นที่ที่มีความทุกข์และเป็นพื้นที่ที่คนในประเทศมีความห่วงใย ถึงเวลาแล้วที่เมื่อเกิดความขัดแย้งต้องหันหน้ามาคุยกัน เราหวังว่าสันติสุขและสันติภาพอยากให้เกิดขึ้น และพลังของครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจะส่งเสียงว่า การเสียชีวิตและบาดเจ็บของคนรักในครอบครัวไม่ใช่ไร้คำตอบ แต่คำตอบคือสันติภาพและสันติสุขกลับมา