โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทหารเครียด ยิง‘ชาวบ้าน’ ก่อนปลิดชีพ

ไทยโพสต์

อัพเดต 16 สิงหาคม 2568 เวลา 4.15 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สลด! พลทหารจากสมรภูมิตาเมือนธมเครียดจากการปฏิบัติหน้าที่ ยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ราย ก่อนปลิดชีพตัวเอง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่าเหตุการณ์ปะทะที่ผ่านมาส่งผลต่อสุขภาพจิตของกองกำลังพล เน้นย้ำผู้บังคับหน่วยให้ลงไปดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทั่วถึง "ภูมิธรรม" หาคนรับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด

จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ 1.นายอนุวัฒน์ อายุ 32 ปี ชาวบ้านเขื่อนแก้ว ถูกกระสุนปืนทะลุปอดด้านขวา อาการสาหัสแต่ยังรู้สึกตัว ขณะนี้ส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ 2.นายวุทธนา อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดกระจกที่เท้าซ้าย อาการปลอดภัย ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว

พ.อ.ริชฌากล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ จึงได้จัดกำลังออกลาดตระเวนค้นหาโดยรอบพื้นที่ แต่ยังไม่พบตัว

ต่อมา พ.ต.หญิงกัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบพลทหารดังกล่าวเสียชีวิตในบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการอัตวินิบาตกรรม เนื่องจากพบหมวกเหล็กและอาวุธประจำกายวางอยู่ข้างลำตัว ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและนิติเวชฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

กองทัพบกขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในกระบวนการสืบสวนตามกฎหมาย และเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุดต่อไป

ขณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ในสภาวะสงคราม มีเรื่องความเครียดในสนามรบอยู่แล้ว กองทัพจึงจำเป็นต้องเข้าไปดูแลเรื่องสุขภาพจิตของกำลังพลแนวหน้า โดยคณะแพทย์พยาบาลที่จะคอยประเมินว่าใครมีความสุ่มเสี่ยง ยอมรับว่าเหตุการณ์ปะทะที่ผ่านมาส่งผลต่อสุขภาพจิตกองกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ได้เน้นย้ำผู้บังคับหน่วยให้ลงไปดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ทั่วถึง

"ได้ส่งทีมแพทย์ไปดูแลกำลังพล โดยเฉพาะคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุการสู้รบ ประเมินว่ากำลังพลใดที่มีเกณฑ์เสี่ยง แน่นอนว่าการสู้รบและเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อจิตใจ เป็นเรื่องที่เราเฝ้าระวังอยู่แล้ว" แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยว่า ในเบื้องต้นเป็นเรื่องของสภาพจิตใจช่วงการทำงาน แต่ไม่ได้มีการคลั่ง ซึ่งตอนทำงานก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี แต่เป็นคนที่เงียบขรึม ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเป็นคนอารมณ์แรง แต่อาจจะปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลานาน ซึ่งมองด้วยสายตาอาจจะพิสูจน์ยาก อาจต้องใช้วิธีการพูดคุยให้มากขึ้น แต่บังเอิญเป็นช่วงที่มีสถานการณ์สู้รบ การสนทนากันอาจไม่เหมือนช่วงสถานการณ์ปกติ ยืนยันว่าที่ผ่านมาหน่วยก็ได้ดูแลภาวะความเครียดของกำลังพลอยู่ตลอด เพราะเป็นเรื่องสำคัญ และอยู่ในวิธีการปฏิบัติอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้หน่วยของพลทหารคนดังกล่าวปฏิบัติทำการรบปราสาทตาเมือนธม แต่ปัจจุบันหมุนกำลังออกมาประจำที่บริเวณ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์แล้ว

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า คิดว่าผู้ที่รับผิดชอบต้องลงไปดูอย่างเอาใจใส่ ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ทหารหรือผู้ที่อยู่หน้างานค่อนข้างจะเครียด ต้องส่งนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้ทุกหน่วยลงไปหมดแล้ว

นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือเป็นความรุนแรงที่รับรู้ผ่านโลกโซเชียลมีเดีย หรือความรุนแรงจากความเห็นที่ขัดแย้งกัน มีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงเหล่านี้นับเป็นความรุนแรงทั้งหมด คนที่อยู่ในสภาวะเช่นนี้ก็จะมีความเครียดสูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งความเครียดนั้นก็จะนำมาสู่หลายอย่าง เช่น ปัญหาสุขภาพจิต หรืออาจจะพัฒนาเป็นความรุนแรงต่อตัวเอง ซึ่งส่วนมากก็จะพัฒนาเป็นความรุนแรงต่อตัวเอง แต่ก็จะมีส่วนหนึ่งที่จะพัฒนาเป็นความรุนแรงต่อผู้อื่น

ทั้งนี้ ในระยะสั้นคนที่อยู่ในสถานการณ์ความรุนแรงนอกจากจะมีความเครียดแล้ว ในระยะยาวก็จะซึมซับความรุนแรงนั้น บางคนอาจจะเกิดความรู้สึกชินชาเฉยชาต่อความรุนแรง หรือบางคนอาจจะพัฒนาเป็นความรู้สึกมองโลกในแง่ลบ เช่น เห็นความรุนแรงบนโลกออนไลน์ก็จะมองว่าโลกนี้ไม่น่าอยู่เลย มีแต่คนที่ก้าวร้าวใส่กัน มีแต่คนที่มุ่งมาดอาฆาตซึ่งกันและกัน เป็นต้น ก็จะวนกลับมาเป็นความเคยชินต่อความรุนแรง กลายเป็นคนที่ยอมรับความรุนแรง ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะต่อตนเองหรือกระทำต่อผู้อื่น.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘แม่ทัพกุ้ง’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฉบับวันที่ 16 สิงหาคม 2568

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘กัมพูชา’ ปั้นเฟกนิวส์ ‘นักข่าวทำเนียบขาว’ ดูลวดหนาม ทั้งที่ความจริงเป็นเพียง ‘ล็อบบี้ยิสต์’

เดลินิวส์

ระทึกกลางดึก! ไฟไหม้ ‘สหรัฐสเต็กเฮ้าส์’ ลูกค้า-พนักงานหนีตายวุ่นโชคดีไร้เจ็บ

เดลินิวส์

ระทึก!ไฟไหม้ร้านเหล้าชื่อดังย่านปากเกร็ดวอดทั้งร้าน นักดนตรี-นักท่องราตรีหนีตายอลหม่าน

Manager Online

พรีเมียร์ลีก 2025/26 มีอะไรใหม่บ้าง?

THE STANDARD

โฆษก ทบ. ยืนยันการทหารแนวชายแดนสระแก้วไม่มีเชื่อมโยงผลประโยชน์ธุรกิจคาสิโนกัมพูชา พร้อมจัดระเบียบพื้นที่อย่างรอบคอบ

THE STANDARD

พรรคไทยสร้างไทยมีมติไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2569 ชี้จัดสรรไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวน

THE STANDARD

‘แพทองธาร’ เข้าสภาเยี่ยม สส. ส่งกำลังใจก่อนโค้งสุดท้ายพิจารณางบ 69 อุบไปศาล 21 ส.ค. นี้หรือไม่

THE STANDARD

ด่วน! เกิดเหตุไฟไหม้ผับชื่อดัง นนทบุรี เจ้าหน้าที่เร่งระงับเหตุโกลาหล ก่อนคุมเพลิงเอาไว้ได้

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...