โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

คุก 8 ปี! ‘ประชัย เลี่ยวไพรัตน์’ ประธานทีพีไอ นอนเรือนจำ คดีที่ดินสระบุรี

ไทยโพสต์

อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 1.37 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" คอตกนอนเรือนจำ หลังศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 1 พิพากษาจำคุก 8 ปี คดีออกเอกสารปลอมที่ดินสระบุรี เจ้าตัวยื่นประกันตัว ส่งศาลอุทธรณ์วินิจฉัย

19 สิงหาคม 2568 - ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อท98/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อท.84/2568 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 โจทก์ นายณรงค์พล แก้วสาร จำเลยที่ 1 นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 2 บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 3

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุนายจรูญศักดิ์ เอกสวัสดิ์ นายช่างรังวัด 6 สำนักงานมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ กรมที่ดิน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดสระบุรี-ลพบุรี ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตทำโฉนดที่ดินปลอมเลขที่ 41925, 41926, 41339,41909, 41910, 41913, 41914, 41918, 41918, 41919, 41920 รวม 11 ฉบับ ในบริเวณที่เป็นพื้นที่ป่า ภูเขา ซึ่งโดยสภาพไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยได้รับเงินจากนายจักราวุธ นิตยสุทธิ ซึ่งเป็นพนักงานของจำเลยที่ 3 จำนวนทั้งสิ้น 1,050,000 บาท เป็นการตอบแทนและเป็นการก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าผู้มีชื่อในโฉนดที่ดินมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดินนั้น จำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 2 และนายประหยัด เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้มีอำนาจได้ลงนามในหนังสือมอบอำนาจให้นายไวพจน์ คดบัว และหรือนายสุนทร ดิษยนันท์ นำส่งเอกสาร รับเอกสารต่าง ๆ กรณีที่หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำความผิดว่าด้วยการป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) กรมป่าไม้ แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ดำเนินคดีต่อจำเลยที่ 3 ในความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484

นายไวพจน์ได้แสดงสำเนาโฉนดที่ดินทั้ง 11 ฉบับต่อพนักงานสอบสวน เหตุเกิดที่ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี และตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีและแขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91, 151,268

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ทางไต่สวนได้ความว่า ขณะเกิดเหตุนายจรูญศักดิ์ เอกสวัสดิ์ นายช่างรังวัด 6 สำนักงานมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ กรมที่ดิน ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดสระบุรี-ลพบุรี เมื่อปี 2557 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ประกอบกิจการของจำเลยที่ 3 พบว่าประกอบกิจการนอกเขตที่ได้รับประทานบัตรในการทำเหมืองแร่จึงดำเนินคดีต่อจำเลยที่ 3 ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54, 72 ตรี พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 รวม 5 คดี

เป็นผลให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 3 นำเอาหินแร่อุตสาหกรรมชนิดหินปูนและหินดินดานเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์รวมจำนวนหลายสิบล้านเมตริกตันไปถมคืนพื้นที่เดิมที่จำเลยที่ 3 ทำเหมืองแร่โดยมิชอบ หากจำเลยที่ 3 ไม่ดำเนินการให้ชำระค่าเสียหายรวมทั้งสิ้นเป็นเงินหลายพันล้านบาท

ในระหว่างการตรวจสอบที่ดินดังกล่าวจำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 2 กับนายประหยัด เลี่ยวไพรัตน์ มอบอำนาจให้นายไวพจน์ คดบัวและหรือนายสุนทร ดิษยนันท์ เป็นผู้นำส่งเอกสารต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายไวพจน์นำสำเนาโฉนดที่ดินเลขที่ 41339, 41909, 41910, 41918, 41919, 41920, 41925, 41913, 41914, 41917 และ 41926 รวม 11 ฉบับ ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องเขตประทานบัตรในการทำเหมืองแร่ของจำเลยที่ 3 ส่งมอบให้แก่พนักงานสอบสวน โฉนดทั้ง 11 ฉบับดังกล่าวออกตามนโยบายการแปลงทรัพย์สินเป็นทุนของรัฐบาล

ซึ่งนายจักราวุธ นิตยสุทธิ ที่ปรึกษาในการสำรวจที่ดินของจำเลยที่ 3 ได้ขอเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการออกโฉนดที่ดินจากจำเลยที่ 2 โดยขั้นตอนในการขอเบิกเมื่อเริ่มดำเนินการขอเบิก 1,500,000 บาท เมื่อเข้ารังวัดขอเบิกอีก 1,500,000 บาท และเมื่อทยอยออกเอกสารสิทธิ์ประมาณการขอเบิกไว้ 6,000,000 บาท จำเลยที่ 2 พิจารณาแล้ว อนุมัติให้นายจักราวุธเบิกเงินได้ตามที่เสนอ นายจักราวุธติดต่อประสานงานในการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้แก่จำเลยที่ 3 กับจำเลยที่ 1 ได้นำเอารูปแผนที่ที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รังวัดของจำเลยที่ 3 เป็นผู้เขียนส่งมอบให้นายจรูญศักดิ์เขียนลงในแบบพิมพ์โฉนดที่ดิน

โดยนายจักราวุธตกลงจะให้ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 700,000 บาท ในการทำชุดแรกประมาณ 10 แปลง เมื่อขึ้นรูปแผนที่และลงรายละเอียดในแบบพิมพ์โฉนดที่ดินเสร็จสิ้นแล้วจะให้อีก 500,000 บาท หากสามารถนำคู่ฉบับพร้อมสารบบส่งให้สำนักงานที่ดินจังหวัดสระบุรี สาขาแก่งคอยได้จะให้อีก 3,000,000 บาท

นายจรูญศักดิ์จึงนำเอาแบบพิมพ์โฉนดที่ดินที่ต้องส่งทำลายมาขูดลบรายละเอียดเดิมออกและ ปลอมลายมือชื่อในช่องผู้เขียน ผู้ทาน ผู้เขียนแผนที่และผู้ตรวจทานแผนที่ในโฉนดที่ดิน นายจรูญศักดิ์ทยอยส่งมอบโฉนดที่ดินและรับเงินจากนายจักราวุธแล้ว

จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น

จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอมแต่การที่นายไวพจน์อ้างสำเนาโฉนดที่ดินเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2557 รวม 7 ฉบับกับวันที่ 25 กันยายน 2557 อีก 4 ฉบับนั้นเป็นการกระทำโดยมีเจตนาที่จะอ้างสิทธิในการใช้พื้นที่ประกอบกิจการของจำเลยที่ 3 ต่อพนักงานสอบสวนเนื่องจากถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในคดีเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86

จำเลยที่ 2 กับที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 266 มาตรา 83

พฤติการณ์แห่งคดีในการกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติเพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการทำเหมืองแร่ของจำเลยที่ 3 อันเป็นผลประโยชน์ส่วนตน เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งศาลมีคำพิพากษาในคดีส่วนแพ่งให้จำเลยที่ 3 นำเอาหินแร่อุตสาหกรรม ชนิดหินปูนและหินดินดานเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์รวมจำนวนหลายสิบล้านเมตริกตันไปถมคืนพื้นที่เดิมที่จำเลยที่ 3ทำเหมืองแร่โดยมิชอบ หากจำเลยที่ 3 ไม่ดำเนินการให้ชำระค่าเสียหายรวมทั้งสิ้นเป็นเงินหลายพันล้านบาท อันเป็นผลสืบเนื่องจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก

จึงลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 8 ปี ลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุก 8 ปี และลงโทษจำเลยที่ 3 ปรับ 160,000 บาท ถ้าจำเลยที่ 3 ไม่ชำระค่าปรับให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29.

ภายหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุกจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรส่งให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวจำเลยไปคุมขังยังเรือนจำระหว่างรอคำสั่งประกาศระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-3 วัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘สมศักดิ์’ ดันเวชศาสตร์วิถีชีวิต พลิกสุขภาพไทย ลดตายจาก NCDs เพิ่มอายุยืน

57 นาทีที่แล้ว

🛑LIVE เอาใคร..!!?? | ตรงปก ตรงประเด็น กับสำราญ รอดเพชร

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอาชญากรรมอื่น ๆ

ทลายแก๊งคอลฯ ยักษ์ จับ 3 บอสจีน 24 ม้าไทย อ้างชื่อกระทรวงศึกษาตุ๋นเหยื่อสูญเงินล้าน

เดลินิวส์

จนท.คุมตัว 2 ผู้ต้องหา ชี้จุดลอบวางระเบิด ตร.เจาะไอร้อง นราธิวาส

MATICHON ONLINE

เปิดรายชื่อแต่งตั้งโยกย้าย ‘บิ๊กศาล’ 155 บัญชี ‘ชนาธิป’ โยกนั่ง อธิบดีศาลแรงงานภาค 7

เดลินิวส์

ศาลสั่งจำคุก 8 ปี ‘ประชัย เลี่ยวไพรัตน์’ คดีใช้โฉนดปลอมทำเหมืองแร่ในพื้นที่ป่า

เดลินิวส์

ปปท.จับอดีตพนง.คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.ดัง ปลอมเอกสารเบิกเงิน ค่าปฏิบัติงาน กว่า 5 ล้านบ.

MATICHON ONLINE

ด่วน! ศาลสั่งคุก เจ้าสัวประชัย เลี่ยวไพรัตน์ 8 ปี ปลอมโฉนด รุกป่าทำเหมืองปูน

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...