พล.อ.ณัฐพล เผยไทยปฏิเสธเพิ่มเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ กัมพูชา ย้ำความอดทน พร้อมจัดลำดับสร้างรั้ว ยอมรับเซ็นซื้อยุทโธปกรณ์เพิ่ม
วันนี้ (19 สิงหาคม) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกัมพูชาแสดงความไม่พอใจและออกมาขัดขวางระหว่างไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (IOT) ลงพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี โดยระบุว่าไทยไม่แจ้งก่อนว่า จะลงพื้นที่ว่า คงต้องค่อยๆ คุยกันไป เพราะไทยและกัมพูชาได้ตกลงกันแล้วตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ว่าจะนำ IOT ลงพื้นที่ความตั้งใจหลังจากการประชุม GBC จะต้องมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) ต่อรายละเอียดการปฏิบัติพื้นที่จะต้องเป็นผู้ลงรายละเอียด โดยทั้งสองฝ่ายต้องมาคุยกันถึงรายละเอียดทั้ง 13 ข้อ
ส่วนกรณีที่ IOT ลงพื้นที่และทหารกัมพูชามาต่อว่า พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่เป็นไร ต้องคุยกัน และต้องการให้มีกลไกมาตรวจสอบทั้งสองฝ่าย เพื่อความโปร่งใสและแสดงความจริงใจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ทหารกัมพูชาออกมาแสดงในลักษณะนี้ หมายถึงไม่ยอมรับการเจรจาหรือการพูดคุยของไทยหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องดู เพราะตนเพิ่งร่วมประชุมกับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี, มาริษ์ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกัมพูชาต้องการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์อีก แต่ไทยยืนยันจำนวนเดิม หากไม่พอสามารถใช้เจ้าหน้าที่จากสถานทูตได้
สำหรับกรณีประชาชนออกมาแสดงการยั่วยุบริเวณบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอาจมีการพังรั้วลวดหนาม พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ย้ำว่าต้องใช้กลไกเดิมคือ RBC และ IOT หาก IOT ทำงานแล้วมีปัญหา จะใช้ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เสริม พร้อมยืนยันว่าต้องอดทนต่อการยั่วยุ และไม่ใช้อาวุธ หากถึงจุดหนึ่งก็จะพิจารณามาตรการต่อไป
ส่วนกรณีผู้ช่วยทูตทหารที่ลงพื้นที่กับฝ่ายไทยก่อนหน้านี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ฝ่ายกัมพูชาเชื่อถือข้อมูลของไทย และจากการสังเกตในการประชุม GBC พบว่าสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ มารอฟังการแถลงของไทย แสดงให้เห็นว่าไทยมีเครดิตที่ดีกว่า เกี่ยวกับการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มีมติให้ฟ้องร้องเอาผิดผู้นำกัมพูชา พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นการใช้กลไกทางกฎหมายเป็นขั้นเริ่มต้น และอาจมีมาตรการเพิ่มเติมต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการล้อมรั้วลวดหนาม พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบแนวลวดหนามที่วางในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เป็นเพียงเครื่องกีดขวางไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิด ไม่ใช่รั้วถาวร ส่วนการสร้างรั้วถาวรจะต้องพิจารณาลำดับความเร่งด่วน ระหว่างสร้างรั้วหรือเตรียมความพร้อมรบ เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด หากทำพร้อมกันจะไม่เพียงพอ
พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวถึงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมว่า ได้ประสานกับ ครม. และกระทรวงการคลังเพื่อจัดหาแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งของส่วนใหญ่เป็นของที่เคยจัดซื้อมาก่อน จึงไม่น่าจะเกิดข้อผิดพลาด พร้อมยืนยันว่า ต้องเร่งรัดการจัดหาให้เร็วที่สุด และขวัญกำลังใจของหน่วยในพื้นที่ต้องไม่ชักช้า