อ.ปวิน โพสต์ “ส้มเน่า” สับเละ เป็นตราบาป ปชน.ร่วมโหวต “อนุทิน”
อ.ปวิน โพสต์ภาพส้มเน่า หลังพรรคประชาชนโหวตหนุนอนุทิน หัวหน้าพรรคประชาชนยืนยัน การตัดสินใจไม่ได้คำนึงถึงคะแนนนิยมหรือผลประโยชน์พรรค แต่ทำเพื่อนำประเทศไปสู่ทางออกตามระบอบประชาธิปไตย
เมื่อวันพุธที่ 3 กันยายน 2568 อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ได้โพสต์ภาพส้มในจานที่มีส้มเน่าอยู่หลายลูก (นับได้ 12 ลูก) ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว FB/Pavin Chachavalpongpun หลังจากที่พรรคประชาชนประกาศโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ภาพดังกล่าวถูกตีความว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของพรรคประชาชนที่เลือกจับมือกับพรรคภูมิใจไทย
อ.ปวิน กล่าวว่า “บางทีการเมืองมันก็ต้องรอจังหวะเหมือนกัน เบี้ยวไปเสี้ยวนาทีมีโอกาสพังได้ คือไม่เข้าใจว่า ทำไมพรรคส้มต้องรีบแถลงเรื่องการสนับสนุนภูมิใจไทยเร็วขนาดนั้น ตัวเองมีแต้มต่อมากมาย จะเล่นบทคุณนายตื่นสายก็ได้ ทำไมต้องรีบแจ้งจุดยืน จุดยืนที่แม่งไม่ให้ประโยชน์กับตัวเองเลย รู้ทั้งรู้ว่า วันนี้คือวันสำคัญที่เพื่อไทยจะขยับ ทำไมไม่รอให้เพื่อไทยขยับก่อน ถ้าเพื่อไทยไม่ขยับ ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องขยับ
ทีนี้พอแถลงไปแล้ว ว่าจะจับหนูขึ้นเสลี่ยง มันเลยกลายเป็นตราบาป พรรคที่สนับสนุนเรื่องการแก้ไข 112 ปฏิรูปกองทัพ กลับสนุนพรรคที่ไม่เอาเรื่องพวกนี้เลย อะไรคือความชอบธรรมของแถลงการณ์นี้ สุดท้ายก็เป็นรอยด่าง ตอนหาเสียงจะไปตอบชาวส้มได้อย่างเรื่องโหวตรับอนุทิน เห็นชอบกับพรรคที่ไม่เอาการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ขณะที่ตัวเองถูกพรรคเหล่านี้กระทืบซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะการที่ตัวเองต้องการเปลี่ยนแปลงการเมือง สุดท้ายอีกเรื่อง เพื่อไทยอาจไม่ชนะในเกมนี้ แต่เพื่อไทยแม่งสำเร็จในการลากพรรคส้มลงมาอยู่ในโคลนตมเช่นเดียวกัน นางแบกคนดีใจไปหลายวัน
…ถ้าอีส้มรออีกสักชั่วโมง ดูท่าทีเพื่อไทยก่อน ดูว่ายื่นเรื่องยุบสภาไหม ตัวเองก็คงไม่นั่งในโคลนตอนนี้ เบื่อฉิบหาย”
ก่อนหน้านี้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้ตั้งโต๊ะแถลงถึงจุดยืนของพรรคว่า ในที่ประชุมมีมติโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ภายใต้ 5 เงื่อนไข โดยมติจะมีผลเมื่อหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยร่วมลงนามในข้อตกลงนี้อย่างเป็นทางการ
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้คำนึงถึงคะแนนนิยมหรือผลประโยชน์ของพรรคเป็นหลัก แต่มีเป้าหมายเพื่อหาทางออกให้ประเทศตามระบบประชาธิปไตยแห่งสภา ป้องกันอำนาจนอกระบบเข้าแทรกแซง ปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคืนอำนาจให้กับประชาชนให้เร็วที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง