กทม.ลุยพัฒนาแอพพ์ รองรับ ‘บ้านนี้ไม่เทรวม’ แยกขยะลดค่าเก็บ 60 เหลือ 20 บาท
กทม.ลุยพัฒนาแอพพ์ รองรับ ‘บ้านนี้ไม่เทรวม’ แยกขยะลดค่าเก็บ 60 เหลือ 20 บาท
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ห้องปัญญพัฒน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการใช้ระบบสารสนเทศบริหารจัดการการจัดเก็บค่าธรรมเนียมมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. 2568 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2568
โดย กรุงเทพมหานคร ได้เชิญชวนประชาชนคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม ผ่านแอพพลิเคชั่น BKK WASTE PAY เพื่อรับสิทธิลดค่าธรรมเนียมขยะจาก 60 บาท เหลือเพียง 20 บาทต่อเดือน
สำหรับการประชุมในวันนี้ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการฯ ของสำนักงานเขต 50 เขต และสำนักสิ่งแวดล้อม
นายจักกพันธุ์ รองผู้ว่าฯ ได้มอบนโยบายในการดำเนินงาน และรับทราบปัญหาอุปสรรค พิจารณาแนวทางการปรับปรุงระบบสารสนเทศ เพื่อให้สามารถรองรับการใช้บริการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมี นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขต 50 เขต ร่วมประชุม
ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น BKK WASTE PAY ได้ทั้งระบบ IOS และ Android
– ระบบ IOS : https://u.bangkok.go.th/Appbkkwastepay
– ระบบ Android : https://u.bangkok.go.th/Wastepayforandroid
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. นายจักกพันธุ์ รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตบางคอแหลม ประกอบด้วย
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ หมู่บ้านศรีไทยวิลล่า ซอยเจริญราษฎร์ 7 แยก 35-3 บ้านเรือน 173 หลัง เข้าร่วมโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม 100 หลัง เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะทั่วไป ตั้งวางถังรองรับขยะทั่วไป บริเวณจุดทิ้งขยะรวมของหมู่บ้าน เขตฯ จัดเก็บทุกวัน 2.ขยะรีไซเคิล ตั้งวางถังรองรับขยะรีไซเคิล บริเวณจุดทิ้งขยะรวมของหมู่บ้าน เขตฯ จัดเก็บอาทิตย์ละ 1 ครั้ง บางส่วนหมู่บ้านนำไปบริหารจัดการเอง 3.ขยะอินทรีย์ ตั้งวางถังรองรับขยะเศษอาหาร เศษผัก เศษผลไม้ บริเวณจุดทิ้งขยะรวมของหมู่บ้าน เขตฯ จัดเก็บทุกวัน 4.ขยะอันตราย ตั้งวางถังรองรับขยะอันตราย บริเวณจุดทิ้งขยะรวมของหมู่บ้าน เขตฯ จัดเก็บเดือนละ 1 ครั้ง สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 15,000 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 14,677 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 80 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 241 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 1 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่างๆ เพื่อให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่ตามบ้านเรือน ชุมชน ร้านอาหาร เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนและผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY เข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2568
พัฒนาสวน 15 นาที สวนเจริญรักษ์ ถนนเจริญราษฎร์ 10 ซึ่งเขตฯ ได้พัฒนาพื้นที่ว่างข้างบ้านหนังสือ กรุงเทพมหานคร ชุมชนสวนสุขภาพ ปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดทำทางเดินวิ่ง ทาสีลวดลายบนพื้นตัวหนอน ตั้งวางม้านั่ง จัดทำชิงช้า ปูหญ้า ปลูกไม้พุ่มไม้ประดับเพิ่มเติม รวมถึงอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่เดิมภายในสวน ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเขตฯ ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดสวนเจริญรักษ์อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งปลูกต้นบานชื่น ต้นเข็ม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสร้างความร่มรื่นภายในสวนดังกล่าว ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1.สวนหย่อมแท่นศิลาฤกษ์ ถนนพระรามที่ 3 พื้นที่ 2 งาน 50 ตารางวา 2.สวนหย่อมใต้สะพานพระราม 3 พื้นที่ 3 ไร่ 1 งาน 89 ตารางวา สวน 15 นาที (สวนใหม่) จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ 1.สวนมาตานุสรณ์ ถนนมไหสวรรย์ พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 45 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ 2.สวนหย่อมริมถนนเจริญราษฎร์ 7 พื้นที่ 1 งาน 38 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ 3.สวนเจริญรักษ์ ถนนเจริญราษฎร์ 10 พื้นที่ 1 งาน 13 ตารางวา 4.สวนตลาดริมคลองเจริญกรุง 103 พื้นที่ 118.31 ตารางเมตร 5.สวนสุสานโปรเตสแตนต์ พื้นที่ 73 ตารางเมตร 6.สวนหย่อมทวีสุข เชิงสะพานพระราม 3 พื้นที่ 450 ตารางเมตร 7.สวนไทรภิรมย์ วัดไทร พื้นที่ 371.54 ตารางเมตร ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่จัดทำสวน 15 นาที ให้ครบ 10 แห่ง ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกแบบพื้นที่ภายในสวนให้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการภายในสวนอย่างแท้จริง
ตรวจการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ บริเวณบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด ถนนเจริญราษฎร์ 7 ผู้ขับขี่ 51 คน สถานที่ตั้งวินอยู่บนทางเท้า และจุดจอดรถจักรยานยนต์อยู่บนผิวจราจร ปัจจุบันเขตฯ มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่ 97 วิน ผู้ขับขี่ 1,472 คน เป็นวินรถจักรยานยนต์สาธารณะต้นแบบ 1 วิน ซึ่งเขตฯ จะต้องตรวจความเรียบร้อยตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีข้อใดไม่เรียบร้อยให้แจ้งข้อบกพร่องนั้น ๆ แก่ผู้ขับขี่ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย โดยแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ ประกอบด้วย 1.ด้านความสะอาด ได้แก่ สถานที่ตั้งวินและโดยรอบต้องมีความสะอาด ไม่มีการตอกผูกยึดโยง 2.ด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ได้แก่ จอดรถจักรยานยนต์เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเท้าหรือพื้นผิวจราจร ตั้งวางม้านั่งเป็นระเบียบ 3.ด้านกฎหมาย ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เสื้อวินและเบอร์เสื้อถูกต้องตามบัญชี ไม่ขับขี่บนทางเท้า ป้ายทะเบียนถูกต้อง สวมหมวกนิรภัย ป้ายอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง ไม่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ไม่นำเสื้อวินไปเช่าช่วงต่อ 4.ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ไม่ดื่มสุรา กริยามารยาทสุภาพ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด อาทิ การแต่งกาย อัตราค่าโดยสาร ป้ายทะเบียนรถ สถานที่ตั้งวิน วินัยจราจร นอกจากนี้ได้สอบถามถึงจุดติดตั้งกล้อง CCTV จับภาพอัจฉริยะผ่านระบบ BMA AI CAMERA บริเวณปากซอยพระรามที่ 3 ซอย 7 ทางเข้าสำนักงานเขตบางคอแหลม เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า กวดขันวินัยจราจรเปรียบเทียบปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า
ติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณถนนเจริญกรุง 89-91 ผู้ค้า 12 ราย ปัจจุบันเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผัน จำนวน 3 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 114 ราย ได้แก่ 1.ตลาดบางคอแหลม ตั้งแต่ปากซอยเจริญกรุง 107 ถึงหน้ามัสยิดอัสสละฟรียะห์ ผู้ค้า 41 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-18.00 น. 2.ถนนเจริญกรุง 89-91 ตั้งแต่หน้าอาคารเลขที่ 89/1 ถึงปากซอยเจริญกรุง 91 ผู้ค้า 12 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 07.00-22.00 น. 3.ฝั่งบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด ถนนเจริญราษฎร์ ตั้งแต่เชิงสะพานข้ามคลองบางโคล่ ถึงประตูทางเข้าบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด ผู้ค้า 6 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-14.00 น. และฝั่งตรงข้ามบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด ถนนเจริญราษฎร์ ตั้งแต่เชิงสะพานข้ามคลองบางโคล่ ถึงอาคารเลขที่ 4236/197 ผู้ค้า 55 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-14.00 น. รวมผู้ค้า 61 ราย สำหรับพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 4 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 126 ราย ได้แก่ 1.ตลาดคลองสวนหลวง ตั้งแต่ปากซอยเจริญกรุง 101 ถึงปากซอยเจริญกรุง 103 ผู้ค้า 72 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-22.00 น. 2.ซอยเจริญกรุง 81-85 ตั้งแต่ปากซอยเจริญกรุง 81 ถึงปากซอยเจริญกรุง 85 ผู้ค้า 22 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-22.00 น. 3.หน้าศูนย์บริการสาธารณสุข 18 ตั้งแต่ซอยจันทน์ 43 แยก 33 ถึงหน้าบ้านเลขที่ 877 ผู้ค้า 12 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-18.00 น. 4.ซอยเจริญกรุง 99 ตั้งแต่ปากซอยเจริญกรุง 99 ถึงบริเวณข้างสถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร ผู้ค้า 20 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-22.00 น. ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ได้ยกเลิกพื้นที่ทำการค้าบริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ผู้ค้า 8 ราย และด้านหลังโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ผู้ค้า 16 ราย โดยย้ายผู้ค้าบริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ (ผู้ค้า 8 ราย เลิกทำการค้า 1 ราย) เข้ามาทำการค้าในจุดที่เขตฯ จัดทำเป็น Hawker Center บริเวณพื้นที่ว่างฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โดยจัดทำแผงค้าให้มีรูปแบบเดียวกัน เพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบในพื้นที่ ส่วนผู้ค้าด้านหลังโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ผู้ค้า 16 ราย ย้ายเข้า Hawker Center จำนวน 6 ราย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ผู้ค้าอีก 10 ราย ย้ายเข้าจุดที่เขตฯ จัดเตรียมไว้รองรับ ปัจจุบันมีผู้ค้าที่อยู่ใน Hawker Center ทั้งหมด 13 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. จากนั้นเขตฯ ได้ปรับปรุงพื้นที่ด้านหลังโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ติดตั้งเสาจราจรสีส้ม ทาสีพื้นทางเดิน เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ในการเดินไปยังพื้นที่ลานจอดรถที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงพยาบาล ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทำการค้าปี 67 ขอความร่วมมือผู้ค้าให้เก็บอุปกรณ์ทำการค้าและทำความสะอาดพื้นที่หลังเลิกทำการค้าในแต่ละวัน เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กทม.ลุยพัฒนาแอพพ์ รองรับ ‘บ้านนี้ไม่เทรวม’ แยกขยะลดค่าเก็บ 60 เหลือ 20 บาท
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th