ผบ.ทอ. ลงนามซื้อ Gripen E/F เฟสแรก ชี้ สร้างมูลค่าเครดิตกองทัพ-ประเทศเป็นแสนล้าน
ไทยลงนามซื้อ Gripen E/F เฟสแรกแล้ว พ่วง Offset Policy ผบ.ทอ. โว สร้างมูลค่าเครดิตกองทัพ-ประเทศเป็นแสนล้าน “มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ชี้ เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพแสดงให้เห็นศักยภาพ
วันที่ 25 สิงหาคม 2568 เมื่อเวลา 12.20 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสวีเดน) พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้ลงนามร่วมกับ FMV (องค์การบริหารจัดการยุทธภัณฑ์ทางทหารสวีเดน) กับบริษัท Saab สวีเดน ในส่วนของ Offset Policy ในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน Gripen E/F ในเฟสแรก จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 19,500 ล้านบาท โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เป็นสักขีพยานในการลงนาม
สำหรับความตกลงในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน 3 ฉบับ คือ
1. สัญญาจัดซื้อเครื่องบินระหว่าง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี กับ นายมิคาเอล กรันโฮล์ม ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานยุทโธปกรณ์สวีเดน (FMV)
2. ความตกลง Offset Policy ระหว่าง ผบ.ทอ. กับ นายลาร์ส ทอสส์มันน์ จากบริษัท Saab AB ผู้ผลิต
3. เป็นข้อตกลงภายในของฝ่ายสวีเดน การจัดซื้อครั้งนี้เป็น 4 ลำแรกจากแผนทั้งหมด 12 ลำ เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ประจำการมานานกว่า 37 ปี โดยมีกำหนดเริ่มจัดส่งตั้งแต่ปี 2572 เป็นต้นไป
สำหรับแผนการจัดส่งเครื่องบิน ทางสวีเดนจะเริ่มจัดส่งให้ไทยในปี 2572-2577 โดยกำหนดจัดส่งปีละ 2 เครื่อง จนครบ 1 ฝูงบิน
พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การจัดซื้อในครั้งนี้ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ให้นโยบายให้เราเอาจริงจังกับเรื่อง Offset Policy เป็นนโยบายที่กองทัพอากาศริเริ่มขึ้นมา และเสนอผ่านไปยังรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็เห็นด้วย และเราก็ทำให้เป็นรูปธรรม ในวันนี้เชื่อว่าผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่หลายคนเห็นว่าเราซื้อเครื่องบินสูง 67,000 ล้านบาท แต่มูลค่าทางเครดิตที่กองทัพและประเทศชาติจะได้รับอาจจะถึงแสนล้านก็ไม่ใช่ไกลเกินจริง เราก็จะพิสูจน์ให้เห็นด้วยโครงการกริพเพนว่าเรามีความตั้งใจจริงที่จะให้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากภาษีประชาชน มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและกลับเข้าสู่ประเทศ
ทางด้าน นายมาริษ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้างเขี้ยวเล็บให้กองทัพ แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการผลักดันนโยบายชดเชยทางเศรษฐกิจ (Offset Policy) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญต่อเนื่อง เพื่อสร้างประโยชน์ให้ประเทศไทยในระยะยาว เราตั้งเป้าหมายให้ภาครัฐเป็นผู้อำนวยความสะดวก ขณะที่ผู้ประกอบการจะเป็นผู้เล่นหลักในการรับถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ การลงนามครั้งนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่สวีเดนและประชาคมโลก ภายหลังจากสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกองทัพไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและการปฏิบัติตามหลักสากลอย่างชัดเจน.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผบ.ทอ. ลงนามซื้อ Gripen E/F เฟสแรก ชี้ สร้างมูลค่าเครดิตกองทัพ-ประเทศเป็นแสนล้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สว.อิสระ แถลงฉะวุฒิสภา ทำงานรับลูกพรรคการเมือง ลักหลับชงญัตติยกเลิก MOU 43-44
- "แม่ทัพภาคที่ 2" ย้ำชัด ไม่รับข้อเสนอรื้อแนวรั้วลวดหนาม แลกการเก็บกู้ระเบิด
- ชายแดนสระแก้วตึงเครียด "ชาวกัมพูชา" บุกรื้อรั้วลวดหนาม–ปาของใส่ทหารไทย
- “ภูมิธรรม” หนักใจ ตกลงอะไรกัมพูชาไปพูดอีกแบบ ปมบ้านหนองจาน ผู้ว่าฯ สื่อสารผิด
- กองทัพภาคที่ 1 แจงเหตุ กัมพูชาฮือรื้อลวดหนาม ที่บ้านหนองจาน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath