สาวใหญ่หลังพ้นคุกพบถูกอดีตผัวขายบ้านที่ดินเกลี้ยงรวบรวมหลักฐานมอบทนายเดินหน้าฟ้องขอความเป็นธรรม

จากกรณีน.ส.รัชนีพร หรือสาว อายุ 53 ปี อยู่บ้าน หมู่ 12 ตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังพ้นโทษคดียาเสพติดเดินทางกลับบ้านที่พ่อแม่เคยสร้างไว้ด้วยน้ำพักน้ำแรง หวังเป็นที่อยู่อาศัย ทำสวนทุเรียนเลี้ยงชีพในช่วงบั้นปลายชีวิต ต้องน้ำตาตกพบว่าอดีตผัว ที่เคยเลิกรากันกว่า 2 ปี เหตุเพราะอ้างว่าติดการพนันและติดผู้หญิง ย่องกลับมาแอบขายบ้านและสวนทุเรียนเชิดเงินไปจนหมด ขณะสาวใหญ่ผู้ร้องถูกจำคุกอยู่ในฑัณฑสถานหญิงสงขลาและพ้นโทษเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 พบว่าถูกขายผ่านมือไปแล้วถึง 5 ราย จึงร้องขอความเป็นธรรมทวงถามถึงหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องว่า มีการซื้อขายกันได้อย่างไรเมื่อ ทั้งที่ผู้เสียหายยังมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านอยู่ในทะเบียนบ้าน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าของบ้านผู้เสียหายถาม ใครเป็นผู้เซ็นต์รับรองหนังสือซื้อขายบ้านให้ ต่อมาได้มีพยานเป็นชาวบ้านในพื้นที่หลายรายได้ออกมาให้ข้อมูลเพื่อยืนยันว่าน.ส.รัชนีพร ฯผู้ร้อง พูดความจริงมีรายละเอียด ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 14 ส.ค.68 นายปัญจกฤฎิ์ สิทธิหีต ทนายความได้นัดหมายพบกับน.ส.รัชนีพร ฯผู้ร้อง เพื่อยื่นมือเข้าช่วยเหลือทางคดี รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นนายปัญจกฤฎิ์ หรือทนายกิ๊ก กล่าวว่า ตนได้มารับเอกสารจากน.ส.รัชนีพรฯ ซึ่งมีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายแล้ว แต่ยังขาดเอกสารบางอย่าง จึงแนะนำผู้เสียหายให้นำเอกสารมาเพิ่มเติมเพื่อนำมาเรียบเรียงและจะได้ดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงหลายขั้นตอนเพราะมีความซับซ้อนหลายขั้นตอน

ด้านน.ส.รัชนีพรฯผู้เสียหายหรือผู้ร้อง ให้ข้อมูลเพิ่มเพิ่มเติมความคืบหน้ากรณีมีข้อพิพาทกับอดีตสามีดังกล่าวว่าอำเภอท่าแซะแจ้งมาถึงตนว่า หลังจากที่เป็นข่าวทางสื่อออนไลน์ พร้อมทั้งได้ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงเบื้องต้น โดยได้มีหนังสือแจ้งหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.10 (จันทึง) ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ (อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง) และมีหนังสือเชิญนางสาวรัชนีพร กลิ่นม่วง (ผู้ร้อง) อดีตสามีนางสาวรัชนีพรฯ และ เจ้าของบ้านคนปัจจุบัน มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงและไกล่เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาท เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ปรากฏว่า เวลา 09.00 น. อดีตสามี ผู้ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นคนขายที่ดินได้มาพบเจ้าหน้าที่อำเภอท่าแซะเพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริง แต่ไม่ประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

โดยให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ว่าที่ดินดังกล่าวไม่ได้เป็นที่ดินมรดกตามที่นางสาวรัชนีพร ฯ (ผู้ร้อง) กล่าวอ้าง แต่ประมาณปี 2551 ได้ซื้อพืชผลอาสิน(สวนกาแฟ) และบ้าน(ไม่มีบ้านเลขที่) บริเวณหมู่ที่ 12 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ร่วมกับนางรัชนีพรฯ (ผู้ร้อง) ต่อมาประมาณปี 2552 ได้เลิกรากับนางรัชนีพรฯ และได้ไปอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ยังติดต่อกันตลอด และต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวใหม่ หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี ได้กลับมาอยู่ที่จังหวัดชุมพร และทราบว่านางรัชนีพรฯ ติดคุกคดียาเสพติด และมีบุคคลอื่นมาอยู่ในสวนและบ้านที่เป็นข่าว จึงกลับมาอยู่บ้านดังกล่าว ต่อมาปี 2559 ได้ไปขึ้นทะเบียนเกษตรกร (สมุดเขียว)

ขณะที่นางสาวรัชนีพรฯ ติดคุก ได้ไปเยี่ยมและบอกว่าจะขายบ้านและพืชผลอาสิน นางรัชนีพรฯ รับทราบ และไม่ได้คัดค้าน ต่อมาประมาณปี 2564 ได้ขายพืชผลอาสิน (สวนทุเรียน)และบ้านเลขที่ 299 หมู่ที่ 12 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ให้กับบุคคลอื่นโดยที่ไม่มีใครมาคัดค้านแต่อย่างใด และไม่ได้ติดต่อกับนางรัชนีพรฯ มาทราบตอนที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อออนไลน์

เวลา 13.30 น. นางสาวรัชนีพร ฯ (ผู้ร้อง) และนายสุทิน ลำเพ็ง (ผู้ถูกร้อง) ได้มาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว แต่อดีตสามีน.ส.รัชนีพรฯผู้ร้อง ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ซึ่งนางสาวรัชนีพรฯ (ผู้ร้อง) และเจ้าของบ้านคนปัจจุบัน (ผู้ถูกร้อง) คู่กรณีทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ จึงขอยุติเรื่องดังกล่าว และแต่ละฝ่ายจะไปใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับกรณีการออกบ้านเลขที่อำเภอท่าแซะได้ตรวจสอบพบมีบุคคลอ้างว่าบ้านหลังดังกล่าว มีทะเบียนบ้าน จำนวน 3 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ปรากฏดังนี้ 1. บ้านเลขที่ 299 มีอดีตสามีนางสาวรัชนีพรฯ เป็นเจ้าของบ้าน/ผู้ยื่นคำร้อง ออกเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 เป็นทะเบียนบ้านชั่วคราว (อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง) ในการออกเลขที่บ้าน 2. บ้านเลขที่ 59 มีนางสาวรัชนีพร กลิ่นม่วง เป็นเจ้าของบ้าน/ผู้ยื่นคำร้อง ออกเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 เป็นทะเบียนบ้านชั่วคราว (อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง) ในการออกเลขที่บ้าน 3. บ้านเลขที่ 598 มีนายกิต(นามสมมติ) เป็นเจ้าของบ้าน/ผู้ยื่นคำร้อง ออกเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เป็นทะเบียนบ้านชั่วคราว (อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง) ในการออกเลขที่บ้าน

โดยอำเภอท่าแซะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทำการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงว่าการรับแจ้งเพื่อออกเลขที่บ้านของนายทะเบียนผู้รับแจ้ง (ผู้ใหญ่บ้าน) ถูกต้องหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการตามระเบียบต่อไป”

น.ส.รัชนีพรฯผู้เสียหายหรือผู้ร้อง กล่าวว่า การที่อดีตสามีให้การต่อเจ้าหน้าที่อำเภอท่าแซะว่า “ที่ดินดังกล่าวไม่ได้เป็นที่ดินมรดกตามที่นางสาวรัชนีพร ฯ (ผู้ร้อง) แต่ประมาณปี 2551 ได้ซื้อพืชผลอาสิน(สวนกาแฟ) และบ้าน(ไม่มีบ้านเลขที่) บริเวณหมู่ที่ 12 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ร่วมกับนางรัชนีพรฯ (ผู้ร้อง) และอ้างว่าขณะที่นางสาวรัชนีพรฯ ติดคุก ได้ไปเยี่ยมและบอกว่าจะขายบ้านและพืชผลอาสิน นางรัชนีพรฯ รับทราบ และไม่ได้คัดค้าน ต่อมาประมาณปี 2564 ได้ขายพืชผลอาสิน (สวนทุเรียน)และบ้านเลขที่ 299 หมู่ที่ 12 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ให้กับบุคคลอื่นโดยที่ไม่มีใครมาคัดค้านแต่อย่างใด และไม่ได้ติดต่อกับนางรัชนีพรฯ มาทราบตอนที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อออนไลน์

ทั้งนี้ น.ส.รัชนีพรฯ กล่าวอีกว่า สองเรื่องนี้อดีตสามีให้การต่อเจ้าหน้าที่อำเภอท่าแซะเป็นเท็จ ซึ่งไม่เป็นความจริง ความจริงตนเองได้กล่าวไปหมดแล้วตามที่เป็นข่าว ตนมีหลักฐานเป็นพยานบุคคลและเอกสารอย่างครบถ้วน ซึ่งหลังจากนี้ได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการทางกฎหมายต่อไป