ย้ายลุงพลเข้าเรือนจำกลางนครพนม – ป้าแต๋นหอบหัวใจมาฝาก ให้กำลังใจสู้คดีถึงฎีกา
นครพนม : ย้ายลุงพลมาขังเรือนจำนครพนม ป้าแต๋นตามมาส่งให้กำลังใจ บอกเอาหัวใจมาฝากสามี 1 ดวง ยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกาแน่
กรณีวันที่ 13 ส.ค.2568 ศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 โดยพิพากษานายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล (จำเลยที่ 1) ทั้งหมด 3 ข้อหาคือฐานฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล จำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุยังไม่เกิน15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา จำคุก 10 ปี และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น จำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งหมด 26 ปี
ซึ่งศาลฎีกามีคำสั่งพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฎีกา จำเลยที่ 1 อาจสามารถหลบหนีไปได้ โดยจำเลยถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร 2 วัน ทางเรือนจำฯจะนำตัวจำเลยที่ 1 มาขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากอัตราโทษจำคุกสูงกว่าที่ขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหารนั้น
ความคืบหน้า เวลา 11.05 น. วันที่ 15 ส.ค.2568 ที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม บ.กุดข้าวปุ้น ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม รถบรรทุกคุมขังเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร นำตัวนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล จำเลยที่ 1เดินทางมาถึงเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารอรับ 9-10 นาย ที่บริเวณปากประตูทางเข้าเรือนจำชั้นนอก โดยเจ้าหน้าที่ได้ถอยรถคุมขังลุงพลเข้าไปใช้เวลา 4-5 นาที คาดว่าจะเข้าไปสู่แดนแรกรับ ก่อนตรวจร่างกายและตรวจโรคตามขั้นตอนต่อไป
ในเวลาไล่เลี่ยกันพบรถตู้สีขาว แล่นไล่หลังรถคุมขัง พบนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภรรยาลุงพล จำเลยที่ 2 ที่ศาลพิพากษายกฟ้อง พร้อมพวกรวม 5 คน เดินทางไปที่ศาลาเยี่ยมญาติ เพื่อยื่นเรื่องขออนุญาติเยี่ยมลุงพล โดยป้าแต๋นบอกว่าวันนี้เอาหัวใจ 1 ดวงมาฝากลุงพล คนเราไม่มีหัวใจหลายดวง ป้าแต๋นย้อนถามนักข่าวด้วยว่านักข่าวมีหลายดวงเหรอค่ะ และมาให้กำลังใจสามี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสู้ถึงฎีกาหรือไม่ ป้าแต๋นกล่าวว่า ก็ต้องสู่สิค่ะ เมื่อคืนนอนหลับสบายดีแต่ไม่ได้ฝันอะไร ยังไม่ได้พูดคุยกับลุงพลตั้งแต่อยู่ที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหารเลย ส่วนกับข้าวในวันนี้ยังไม่ได้เอาอะไรมาฝากลุงพล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายนายไชย์พล หรือ ลุงพล มาคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม เนื่องจากที่เรือนจำแห่งนั้น สามารถคุมขังนักโทษชาย-หญิงที่ต้องโทษในคดีต่างๆไม่เกิน 20 ปี ส่วนเรือนจำกลางจังหวัดนครพนมสามารถคุมขังนักโทษได้สูงสุด 25 ปี ในระหว่างที่ลุงพลถูกจองจำและต่อสู้ในศาลชั้นฎีกาต่อไป