#saveป๊ายปาย ดราม่าร้อนกลางเวที เมื่อซีรีส์ยูริกลายเป็นเวทีน้ำตา กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลก
#saveป๊ายปาย ดราม่าร้อนกลางเวที เมื่อซีรีส์ยูริกลายเป็นเวทีน้ำตา กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลก
บันเทิงทันที เมื่อผู้จัดซีรีส์ยูริ “B-Friend – เจตนา(ไม่)ลืม” อย่าง “กุ้ง ศรุดา” ขึ้นเวทีอีเวนต์พร้อมน้ำเสียงสั่นเครือ พูดต่อหน้าแฟนคลับและคุณแม่ของนักแสดงนำ “ป๊ายปาย โอริโอ้” ถึงความเจ็บปวดตลอด 7 เดือนที่ทำงานร่วมกัน โดยกล่าวว่าโดนด่าทุกวันจนทีมงานแทบเป็นโรคซึมเศร้า พร้อมเผยว่า “ป๊ายปาย” คือแรงบันดาลใจในการสร้างซีรีส์นี้ แต่การพยายามรวม “โลกของกุ้ง” กับ “โลกของปาย” กลับกลายเป็นความท้าทายที่เจ็บปวดและยังหาคำตอบไม่ได้
แฟนคลับลุกฮือ! ซีรีส์ไม่ตรงปก โปรโมทหลอกตา? หลังเหตุการณ์บนเวที แฮชแท็ก #saveป๊ายปายโอริโอ้ ก็พุ่งติดเทรนด์ทันที แฟนคลับจำนวนมากออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการจัดการของผู้ผลิตซีรีส์ โดยเฉพาะการโปรโมทที่ชู “ป๊ายปาย” เป็นตัวเอก แต่เมื่อซีรีส์ออกฉายจริง กลับมีบทน้อย บางตอนโผล่ไม่ถึง 10 วินาที ขณะที่นักแสดงคนอื่นกลับได้บทเด่นทุกตอน แถมเนื้อเรื่องยังออกทะเลจากนิยายต้นฉบับที่แฟน ๆ ซื้อมาในราคา 500 บาท จนเกิดคำถามว่า “นี่คือการหลอกลวงผู้บริโภคหรือไม่?” และ “ผู้จัดเคยเห็นใจนักแสดงที่ถูกโยนความผิดหรือเปล่า?”
บทเรียนจากดราม่า: โปรดักชันดีต้องมีแผน และใจต้องมีความรับผิดชอบ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนโปรดักชันที่ชัดเจน การสื่อสารที่รอบคอบ และการรับผิดชอบร่วมกันในงานสร้างสรรค์ ซีรีส์ไม่ใช่งานของคนคนเดียว แต่เป็นผลลัพธ์จากทีมงานหลายฝ่าย หากเกิดข้อผิดพลาด การโยนความผิดให้คนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะนักแสดงที่เป็นหน้าแรกของงาน ย่อมสร้างความเสียหายทั้งต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ในวงการบันเทิง ยิ่งในยุคที่แฟนคลับมีพลังผ่านโซเชียล การสื่อสารอย่างโปร่งใสและการยอมรับข้อผิดพลาดอย่างตรงไปตรงมา คือหัวใจของการรักษาความเชื่อมั่นและความรักจากผู้ชม
แล้วคุณล่ะ คิดว่าในโลกของซีรีส์ควรมี “ความรับผิดชอบร่วม” มากแค่ไหน?