ผ่ารายงาน กมธ.งบ 69 ชงพระที่มีสมณศักดิ์ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินทุกๆ 3 ปี!
ผ่ารายงาน กมธ.งบฯ 2569 ทำวงการผ้าเหลืองร้อนฉ่า แนะสำนักพุทธฯ สั่งพระสมณศักดิ์เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินส่วนตัวทุก 3 ปีรวมถึงบัญชีวัด ป้องกันยักยอกเงินบริจาคใช้ส่วนตัว พร้อมจี้”บัวแก้ว”ปรับบทบาทให้ทันโลก
13 ส.ค.2568 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรตลอดสัปดาห์นี้ช่วงวันที่ 13-15 ส.ค. ที่จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวาระสองและวาระสาม พบว่าในส่วนของเอกสารรายงานผลการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ 2569 ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ 2569 ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน กมธ.ที่มีการจัดทำข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ไว้ในเอกสารร่าง พ.ร.บ.งบ 2569 ที่เสนอต่อสภาไว้ครบทุกหน่วยงาน
ปรากฏว่า กมธ.งบสรุปรายงานข้อสังเกตไว้ในเอกสารดังกล่าว มีหลายหน่วยงานที่น่าสนใจ ที่ กมธ.ให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่อหน่วยงาน เช่น สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช. ซึ่งในสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ถือว่ามีบทบาทสำคัญไม่น้อย โดย กมธ.ให้ข้อสังเกตเช่น หน่วยงานควรดำเนินการแก้ไขปัญหาและต่อต้านปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยการปล่อยข่าวบิดเบือนข้อมูลลงสื่อโซเชียล จากกรณีความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา
หน่วยงานควรเพิ่มมิติการทำงานด้านต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามใหม่ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ และเพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเช่น ปัญหายาเสพติด ที่จำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามจากประเทศต้นกำเนิด หรือประเทศที่ผลิตสารตั้งต้นเป็นต้น
หน่วยงานควรมีระบบติดตามและกำกับดูแลแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องเพื่อสามารถบริหารจัดการแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นกลไกหนึ่งในการรักษาความมั่นคงของชาติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและความปลอดภัย
หน่วยงานควรมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม ในการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนพิเศษจากการปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ผู้ได้รับค่าตอบแทนพิเศษ ลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จริงหรือไม่เพราะหากมีแต่รายชื่อผู้ปฏิบัติงาน และได้รับค่าตอบแทนพิเศษ แต่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่หน้างานจริง จะทำให้ผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จริงมีภาระงานมากขึ้น เพราะภารกิจจะถูกมอบหมายตามอัตรากำลังคน และเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ที่เอาภารกิจด้านความมั่นคงมาบังหน้า และสุ่มเสี่ยงอย่างมาก ที่จะทำให้วัตถุประสงค์ของภารกิจสำคัญด้านความมั่นคงล้มเหลว
สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ มีข้อสังเกตว่าหน่วยงานควรปรับเปลี่ยนบทบาทและกลยุทธ์การดำเนินการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกและภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและคนไทยในต่างแดนท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกที่เพิ่มขึ้น
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กมธ.ตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยงานควรกำหนดหลักเกณฑ์ให้ทุกวัดจัดทำและเปิดเผยบัญชีรายรับ รายจ่ายและเงินบริจาคต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้โดยง่ายและเป็นการป้องกันมิให้เกิดการทุจริตหรือการนำเงินทำบุญของพุทธศาสนิกชนไปใช้ในทางส่วนตัวโดยมิชอบ รวมถึงกำหนดให้มีเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของพระที่มีสมณศักดิ์ทุกๆ 3 ปี
หน่วยงานควรถอดบทเรียนจากกรณีการทุจริตของพระสงฆ์ที่ผ่านมา เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการป้องกันและปราบปรามในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น-ควรมีมาตรการที่ชัดเจนในการตรวจสอบและติดตามการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของวัดว่ามีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น-ควรมีแนวทางในการจัดการในกรณีที่พระสงฆ์นำเงินของวัดไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การเล่นพนันออนไลน์โดยดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ควรดำเนินมาตรการทั้งทางวินัยและกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งส่งเสริมให้วัดมีระบบบริหารจัดการทางการเงินที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้ความรู้แก่พระสงฆ์เกี่ยวกับการใช้เงินทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างเหมาะสม