ไต้ฝุ่นคาจิกิถล่ม "เวียดนาม" ฝนตกหนัก-ลมแรงเสียหายหลายจุด
วันที่ 25 ส.ค.2568 พายุไต้ฝุ่น "คาจิกิ" ขึ้นฝั่งเวียดนาม เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ส่งผลให้ จ.ห่าติ๋ญ ทางตอนกลางของเวียดนาม เผชิญลมกระโชกแรงและคลื่นทะเลซัดเข้าหาฝั่ง ท่ามกลางเมฆฝนจากของพายุ ขณะที่น้ำทะลักเข้าท่วมขังในหลายพื้นที่
หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของเวียดนาม รายงานว่า พายุไต้ฝุ่นคาจิกิพัดถล่มภาคกลางของประเทศด้วยความเร็วลมสูงสุดถึง 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากเคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งและวัดความเร็วลมได้ถึง 166 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้คาจิกิถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุด เท่าที่พัดถล่มเวียดนามมาในปี 2568
อิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม โดยสถานีโทรทัศน์ VTV ของทางการเวียดนาม รายงานว่า พายุพัดป้ายโฆษณาและหลังคาอาคารปลิวว่อน ต้นไม้หักโค่นและเสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด นอกจากนี้พายุยังพัดเข้าสู่ชายฝั่งในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูง ทำให้เกิดน้ำท่วมใน จ.เหงะอาน และ จ.ห่าติ๋ญ
ฝนตกหนักในเมืองวิญ จ.เหงะอาน เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2568 ก่อนที่พายุไต้ฝุ่นคาจิกิจะพัดขึ้นฝั่งในเวียดนาม
ขณะที่บรรยากาศความเสียหายคล้ายกันนี้ยังเกิดขึ้นที่เมืองวิญ จ.เหงะอาน ตั้งแต่ก่อนพายุพัดขึ้นฝั่ง ลมกระโชกแรงพัดต้นไม้หักโค่นและทะเลมีคลื่นขนาดใหญ่ ขณะที่เรือประมงกลับเข้าฝั่งทั้งหมดท่ามกลางการเฝ้าระวังความเสียหาย ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ ขณะที่โรงเรียนและสนามบินปิดทำการเพื่อเตรียมรับมือกับพายุ
พายุลูกนี้เริ่มก่อตัวจากพายุดีเปรสชันที่ไม่รุนแรง เมื่อวันที่ 22 ส.ค. แต่ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 2 วัน ทำให้มีความรุนแรงเทียบเท่ากับพายุไต้ฝุ่นยางิ เมื่อปี 2567 ซึ่งเป็นหนึ่งในพายุที่ทวีความรุุนแรงเร็วที่สุดในภูมิภาค
ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางการเวียดนามต้องเร่งดำเนินมาตรการฉุกเฉินรับมือกับลมกระโชกแรงและฝนที่ตกหนักในภูมิภาค โดยสื่อของรัฐรายงานว่า มีชายคนหนึ่งใน จ.เหงะอาน เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อต ขณะที่พยายามซ่อมแซมหลังคาบ้านเพื่อเตรียมรับมือกับพายุ
ประชาชนหลบภัยพายุในโรงยิมเนเซียมที่เมืองวิญ จ.เหงะอาน
ในเมืองวิญ ประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพเข้าไปในสนามกีฬาหลังพายุไต้ฝุ่นพัดขึ้นฝั่ง ผู้คนต่างจับจองพื้นที่ภายในสนามกีฬา ซึ่งถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว หลายคนเดินทางมาหลังจากได้ยินเสียงประกาศตามสายเตือนอันตรายจากพายุ โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจนำชาวบ้านบางส่วนอพยพมา
บางคนระบุว่า ปกติแล้วจะไม่อพยพหนีพายุ แต่ครั้งนี้พายุขนาดใหญ่มาก จึงตัดสินใจเดินทางมายังศูนย์พักพิงตามคำแนะนำของทางการ ขณะที่หลายคนบ้านพักอยู่ในอาคารเก่าที่ไม่แข็งแรง ได้แต่หวังว่าพายุจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะได้กลับไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งหลายคนเป็นเพียงแรงงานที่หาเช้ากินค่ำและไม่มีเงินที่จะซ่อมแซมบ้านหากเกิดความเสียหาย ซึ่งค่าซ่อมเพียงไม่กี่ล้านดง (ประมาณ 70-80 ดอลลาร์) ก็ถือเป็นเรื่องยากลำบาก
เมื่อปี 2567 พายุไต้ฝุ่นยางิได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 300 คนและสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์
อ่านข่าว
"เวียดนาม" สั่งอพยพ 5.8 แสนคนหนีไต้ฝุ่น "คาจิกิ" พัดขึ้นฝั่ง
"น่าน" ตั้งวอร์รูมเตรียมรับพายุคาจิกิ คาดฝนเริ่มตกหนัก 26 ส.ค.
สภาพอากาศวันนี้ รับมือ "คาจิกิ" ฝนหนักมากเหนือ-อีสาน-ตะวันออก