ลูกหนี้แอปเงินกู้เถื่อนร้อง DSI ช่วย เจอดอกเบี้ยโหดซ้ำระบบเพิ่มยอดหนี้เอง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายซึ่งได้รับผลกระทบจากการกู้ยืมเงินนอกระบบผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ หลากหลายชื่อ เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ความช่วยเหลือ และพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย ภายหลังพบว่ามีการกระทำของคณะบุคคลที่เข้าข่ายผิดกฎหมายและส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก โดยมี นายสมเกียรติ เพชรประดับ ผอ.ส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้แทนรับเรื่อง
โดย นายภัทรพงศ์ เปิดเผยว่า แอปพลิเคชันกู้เงินนอกระบบเถื่อนต่าง ๆ มีโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง ทั้งยังพบว่ามีสำนักงานตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ โดยรูปแบบการกระทำความผิด คือ 1.การเพิ่มยอดหนี้โดยมิชอบ มีการคิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด บางกรณีสูงเกือบ 100% ของวงเงินกู้ และเมื่อผู้กู้ไม่ยินยอม กลับไม่สามารถยกเลิกสัญญาหรือการกู้ผ่านแอปได้ เช่น ขอกู้เงิน 10,000 บาท ได้รับจริงประมาณ 9,000 กว่าบาท ซึ่งหักค่าดอกเบี้ยและเอกสาร แต่เมื่อสมัครจริงกลับเป็นหนี้ถึง 18,000 บาท ระยะเวลาใช้คืนไม่เป็นตามโฆษณา 2.การโอนเงินโดยพลการ แม้ผู้กู้จะชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว แอปดังกล่าวยังคงโอนยอดกู้ใหม่เข้าบัญชีของผู้กู้โดยไม่ได้ยินยอม และบังคับเรียกเก็บหนี้เพิ่ม และ 3.การทวงหนี้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เช่น การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้และญาติ เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน แล้วนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อประจานและบังคับให้ชำระหนี้
"นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่ามีกลุ่มบุคคลบางส่วนอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปเกี่ยวข้องและมีการเรียกรับผลประโยชน์กับขบวนการดังกล่าว จากพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดหลายประการ อาทิ การปล่อยเงินกู้นอกระบบ การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด การทวงหนี้โดยมิชอบ การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงอาจเป็นการฟอกเงินในระดับข้ามชาติ โดยมีการบันทึกคลิปเสียงเป็นพยานหลักฐาน" นายภัทรพงศ์ ระบุ
ด้าน นายเอ (นามสมมุติ) ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า ตนมีความจำเป็นต้องใช้เงินในชีวิตประจำวัน และเห็นแอปโฆษณาอยู่ในระบบสังคมออนไลน์ กำหนดจำนวนเงินกู้และระยะเวลาคืนเงิน แต่เมื่อตนสมัครกู้ยืมเงิน 5,000 บาท ชำระภายในเวลา 30 วัน คิดว่ารวมดอกเบี้ยแล้วจะจ่ายประมาณ 6,000 บาท ตามกระบวนการหนี้ทั่วไป โดยโฆษณามีเพียงเบอร์โทรศัพท์ให้ลงทะเบียนดูตามเงื่อนไข ซึ่งจริง ๆ แล้วหลังได้เงินกู้ยืมมาแล้ว ตนกลับต้องจ่ายกว่า 8,000 บาท และกำหนดระยะเวลา 15 วันเท่านั้น ทำให้ได้รับความเดือดร้อน จึงรวมตัวมาร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้.