โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

บอร์ด รฟท.รับทราบแก้สัญญา “ไฮสปีด 3 สนามบิน” สั่งเช็ก 5 เงื่อนไขด้านการเงิน

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.มีมติถึงการรายงานผลการตรวจพิจารณาร่างแก้สัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ของสำนักงานอัยการสูงสุดนั้น

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยอัยการสูงสุดได้ตอบกลับร่างแก้ไขสัญญาโครงการดังกล่าวมาที่ รฟท.แล้ว ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบภายหลังอัยการสูงสุดตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็นโดยให้รฟท.ไปทบทวนเงื่อนไขของสัญญาฉบับใหม่ทั้ง 5 ประเด็นหลักให้เรียบร้อยว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพื่อรักษาประโยชน์ของภาครัฐให้มากที่สุด

อย่างไรก็ดีเบื้องต้นต้องรอทางเอกชนจัดทำคำชี้แจงตอบกลับข้อสังเกตของอัยการสูงสุดโดยยืนยันว่าจะดำเนินการตามกรอบเวลาที่กพอ.อนุมัติไว้

จากนั้นจะนัดประชุมร่วมกับเอกชนเพื่อหารือถึงข้อสังเกตของอัยการสูงสุดอีกครั้ง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนก.ย.นี้

ทั้งนี้ตามแผนหากหารือร่วมกับเอกชนแล้วเสร็จ จะต้องรายงานไปยังสกพอ.และคณะกรรมกำกับสัญญาฯ พิจารณาก่อนเสนอต่อคณะกรรมการกพอ.(บอร์ดอีอีซี) และคณะรัฐมตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป คาดว่าจะเร่งรัดลงนามสัญญาให้ได้ภายในปีนี้

ส่วนความเห็นที่อัยการสูงสุดมีข้อกังวลถึงประเด็นการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่า ๆ กัน

ซึ่งต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญานั้น หากเอกชนจ่ายค่าใช้สิทธิ์ไม่ครบถ้วนก็ไม่ควรจะได้สิทธิ์บริหารโครงการ

นอกจากนี้ยังมีประเด็นการปรับวิธีการชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการฯ (Public Investment Cost: PIC) ทั้งโครงการากเดิมกำหนดชำระเงินเมื่อก่อสร้างโครงการฯ แล้วเสร็จและเริ่มเปิดให้บริการเดินรถ แล้ว จำนวนไม่เกิน 149,650 ล้านบาท เป็นโดยรัฐต้องจ่ายเร็วขึ้นตามจ่ายเป็นงวด

ตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างที่ รฟท. ตรวจรับ ซึ่งวงเงินรวมเป็น 125,932.54 ล้านบาท ซึ่งทำให้รัฐประหยัดค่าดอกเบี้ยได้ประมาณ 24,000 ล้านบาท อาจขัดต่อหลักการกับสัญญานั้น

ในประเด็นทั้ง 2 นี้ ที่ผ่านมาเคยมีการรายงานผลการเจรจาแก้ไขร่างสัญญาแล้วตามหลักการของกพอ.ซึ่งครม.เคยอนุมัติแล้วไม่ได้ขัดต่อหลักการ

สำหรับ 5 ประเด็นที่อัยการสูงสุดตั้งข้อสังเกตให้รฟท.ไปดำเนินการทบทวนให้เรียบร้อย ดังนี้

1. วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน (Public Investment Cost : PIC) จากเดิม รัฐจะจ่ายเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง โดยรัฐจะ “แบ่งจ่าย” เป็นเวลา 10 ปี ปีละเท่า ๆ กัน รวมเป็นเงิน 149,650 ล้านบาท

เปลี่ยนมาเป็นรัฐจะจ่ายเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างที่ รฟท.ตรวจรับ วงเงินไม่เกิน 120,000 ล้านบาท

แต่มีเงื่อนไขให้เอเชีย เอรา วัน ต้องวางหลักประกันเพิ่มเติมจากสัญญาเดิม รวมเป็นจำนวน 152,164 ล้านบาท

เพื่อประกันว่างานก่อสร้างและรถไฟความเร็วสูงจะเปิดให้บริการได้ภายในระยะเวลา 5 ปี กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างจะทยอยตกเป็นของ รฟท.ทันทีตามงวดการจ่ายเงินนั้น ๆ

2. การกำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) จะให้เอเชีย เอรา วัน แบ่งชำระค่าสิทธิ จำนวน 10,671.09 ล้านบาท ออกเป็น 7 งวด เป็นรายปี ในจำนวนแบ่งชำระเท่า ๆ กัน

แต่บริษัทจะต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญากับ รฟท.และบริษัทยังต้องวางหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารในมูลค่าเท่ากับค่าสิทธิ ARL รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเงินอื่น ๆ ที่ รฟท.จะต้องรับภาระด้วย

3. การกำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทน (Revenue Sharing) เพิ่มเติม หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญและเป็นผลทำให้เอเชีย เอรา วัน ได้ผลประโยชน์ตอบแทน (IRR) เพิ่มขึ้นเกินกว่า 5.52% แล้วก็จะให้สิทธิ รฟท.เรียกให้บริษัทชำระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้ตามแต่จะตกลงกันต่อไป

4. การ “ยกเว้น” เงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) ให้คู่สัญญาจัดทำบันทึกความตกลงยกเว้นเงื่อนไข NTP ที่ยังไม่สำเร็จ (การรับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ) เพื่อให้ รฟท.สามารถออกหนังสือ NTP ให้กับเอเชีย เอรา วัน ได้ทันทีหลัง 2 ฝ่ายลงนามในการแก้ไขสัญญา

5. ป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ โดยทำการปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนของ “เหตุสุดวิสัย” กับ “เหตุผ่อนปรน” ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในโครงการอื่น

อย่างไรก็ดีในการแก้ไขสัญญาใหม่นั้นยังมีหลักประกันเพิ่มเติมที่เอกชนต้องนำมาวางการันตีในการดำเนินโครงการนี้ รวมวงเงินประมาณ 160,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องนำมาวางให้กับ รฟท.ภายใน 270 วันหลังลงนามแก้ไขสัญญา ประกอบด้วย

หนังสือค้ำประกันค่าก่อสร้างงานโยธา 125,932.54 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีหนังสือค้ำประกันงานระบบ 14,813.49 ล้านบาท หนังสือค้ำประกันคุณภาพเดินรถ 748.25 ล้านบาทและหนังสือค้ำประกันค่าสิทธิบริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) 10,671 ล้านบาท

โดยวันลงนามสัญญาใหม่ เอกชนจะต้องชำระค่าสิทธิบริหาร ARL งวดแรกทันทีประมาณ 1,500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือกำหนดทยอยชำระรวม 7 งวด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ไทย-สิงคโปร์ยกระดับคาร์บอนเครดิตดันเศรษฐกิจสีเขียวอาเซียน

57 นาทีที่แล้ว

“กพช.” ยกเลิกแยกศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้าเป็นนิติบุคลออกจาก กฟผ.

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

"หมอสุภัทร" มั่นใจไม่ได้ทำผิดระเบียบปมจัดซื้อชุดตรวจ ATK

Thai PBS

‘แม่ทัพไพศาล’ สั่งปิดทุกช่องทาง..อย่าให้เล็ดลอดข้ามแดน!!

77kaoded

กรมข่าวทหาร ประชุมการทบทวนหลังการปฏิบัติ ร่วมกับคณะผู้สังเกตการณ์ฯ หลังการลงพื้นที่ชายแดน

สวพ.FM91
วิดีโอ

อึ้งแรง! เปิดประวัติแท้จริง "หลวงพ่ออลงกต" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ หลังโป๊ะแตกวุฒิปลอม!

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

รัฐบาลหนุนเศรษฐกิจดิจิทัล บอร์ดดีอีเคาะเมืองอัจฉริยะ ตั้งกลไก AI ไทยขับเคลื่อนประเทศ

สวพ.FM91

RBC ไทย-กัมพูชา ยังไม่ล่มกองเลขาฯประชุมผ่าน โทรศัพท์-อีเมล์ หลังฝ่ายไทยยื่นเพิ่ม 3 ข้อเสนอ

THE ROOM 44 CHANNEL

ราคาน้ำมันพรุ่งนี้ 22 ส.ค. 68 "เบนซิน-แก๊สโซฮอล์" ปรับขึ้น 40 สตางค์/ลิตร

TOP NEWS ONLINE

ทบ. โต้กลับ "พลโท มาลี" เรียกร้องไทย แต่เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง

สวพ.FM91

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...