"โรม" เชื่อ พยานคดีคลิปเสียงหากเป็น"กองทัพ"คงมีน้ำหนักมากกว่า ฟาด "อุ๊งอิ๊งค์" อยากเล่นการเมืองต้องมีสปิริต
"โรม" เชื่อ พยานคดีคลิปเสียงหากเป็น"กองทัพ"คงมีน้ำหนักมากกว่า ฟาด "อุ๊งอิ๊งค์" อยากเล่นการเมืองต้องมีสปิริต ย้ำ นายกฯ ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ที่ได้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่แรก
เวลา 09.30 น. วันที่ 20 ส.ค. 68 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวน คดีคลิปเสียงของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสนทนากับสมเด็จฮุน เซนในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ว่า ต้องยอมรับว่า มีคลิปจริงไม่ใช่การถกเถียงว่าเป็นคลิปปลอม แต่ตนก็ต้องตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ไปเป็นพยาน ถ้าเป็นกองทัพน้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้น แต่พยานเมื่อเป็นพยานที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง ก็ต้องยอมรับว่าน้ำหนักน้อยลง แต่ก็ต้องติดตามต่อไป
ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการที่จะใช้นิติสงครามใดๆ ซึ่งไม่ตรงกับจุดยืนของพรรคประชาชน และต้องยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ที่ได้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากคลิปเสียง
"ผมยอมรับว่า สิ่งที่สมเด็จฮุนเซนทำในการปล่อยคลิปเสียงไม่เหมาะสม แต่การพูดของนายกฯในเรื่องนั้นก็ไม่เหมาะสมเช่นเดียวกัน ดังนั้นก็ต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าจะเข้ามาทำการเมืองแล้วแสวงหาแต่ความรับชอบผมว่าก็ไม่ควรมาเป็นนักการเมือง เพราะเราต้องการนักการเมือง ที่กล้าหาญมากกว่านี้ วันนี้ที่มีปัญหาหลายๆอย่าง พี่แกไม่ตกเพราะว่า ท่านไม่รู้จักความรับผิดรับผิดชอบ จึงทำให้ สถานการณ์บ้านเมืองเรายุ่งเหยิง และเกิดปัญหาเสถียรภาพแบบนี้ ผมอยากเห็นนายกฯแสดงสปิริต แต่ก็คงเป็นคำพูดที่ช้าไปเพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าท่านไม่ได้มีสปิริตอะไรเลย" นายรังสิมันต์กล่าว