คุยเรื่องลี้ลับกับ "แม่หมอโอปอ" หมอเหยาทางจิตวิญญาณ พิธีกรรมโบราณในหนังไทย "ท่าแร่"
"ท่าแร่" ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องใหม่ของผู้กำกับคุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา ผู้สร้างปรากฏการณ์จักรวาลธี่หยดให้วงการผีไทย กลับมาอีกครั้งผลงานใหม่ที่รวมคอนเซปต์ของสองความเชื่อที่ต่างกันสุดขั้วระหว่าง "ความศรัทธาในศาสนาคริสต์" และ "การบูชาผีในพิธีเหยาภาคอีสาน" เพื่อร่วมมือกันกำจัดสิ่งลี้ลับที่อาละวาดผู้คนในชุมชน
สำหรับพิธีเหยาเป็นความเชื่อพื้นถิ่นในแถบภาคอีสาน โดยทำพิธีผ่าน "หมอเหยา" ผู้เปรียบเสมือนสื่อกลางในการสื่อสารกับผีบรรพบุรุษ ซึ่งจะมีการร่ายรำและกล่าวบทกลอนประกอบดนตรีบรรเลง ถือเป็นพิธีกรรมโบราณที่สืบทอดกันในกลุ่มชาวภูไทจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ใช่แค่การรักษาอาการป่วยตามความเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลอบประโลมทางจิตวิญญาณ และเสริมสิริมงคลให้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าบทบาทของหมอเหยาก็จะปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ท่าแร่"
ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสพูดคุยกับ "แม่หมอโอปอ" หมอเหยาตัวจริงจากสกลนคร ที่ได้ถ่ายทอดต้นแบบคาแรกเตอร์ให้นักแสดงหนุ่ม มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร ซึ่งรับบทหมอเหยาในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องนี้ ชวนทุกคนมาทำความรู้จักหมอเหยา พร้อมเรื่องราวลี้ลับท้าทายความศรัทธา ไม่เชื่ออย่าลบหลู่…
คุยกับ "แม่หมอโอปอ" หมอเหยาสกลนคร เปิดเบื้องหลังความเชื่อลี้ลับในภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ท่าแร่"
แม่หมอโอปอ มีประสบการณ์ในการเป็นหมอเหยามาแล้วกว่า 10 ปี และเป็นบุคคลเบื้องหลังที่ถ่ายทอดบทบาทนี้สู่นักแสดงในภาพยนตร์ท่าแร่อย่างสมจริง พร้อมด้วย "ครูคิม-นิติ ไชยวงศ์คต" ผู้ให้คำปรึกษากองถ่ายด้านเครื่องแต่งกาย ภาษา และทำนองเหยา
นิยามของ "หมอเหยา" ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นอีสานคืออะไร
แม่หมอโอปอ : หมอเหยาของชาวสกลนคร คือ ปราชญ์คนหนึ่งที่ใช้อำนาจของผีบรรพบุรุษลงมาสื่อสารกับคน เหมือนเป็นสื่อกลางระหว่างผีกับคน และใช้อำนาจของผีในการรักษาเยียวยาจิตใจ หรือการปลอบขวัญกำลังใจรักษาคนในเคสต่างๆ
ครูคิม : หมอเหยาอยู่ในกลุ่มวัฒนธรรมอีสานเหนือ แต่ภูไทจะค่อนข้างรักษาจารีตแบบดั้งเดิมไว้ ในหนังเรื่องท่าแร่ ก็จะเป็นการนำเสนอเคสของหมอเหยาชาติพันธุ์ผู้ไท ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผีบรรพบุรุษ สมมติมีผีตนหนึ่งมาทำให้ใครสักคนเจ็บป่วย หมอเหยาจะเป็นสื่อกลางในการประนีประนอม โดยใช้ศาสตร์ของเสียงแคนและดนตรีเป็นสื่อกลาง
วิธีการสืบทอดของ "หมอเหยา" มีกี่แบบ
แม่หมอโอปอ : การสืบทอดมีหลายแบบ หนึ่งสืบทอดจากบรรพบุรุษแบบรุ่นสู่รุ่น สองสืบทอดผ่านอาการเจ็บป่วย สามสืบทอดผ่านการถูกเลือก บางทีบรรพบุรุษเขาอาจไม่ได้เป็นหมอเหยา แต่เมื่อมีพลังงานบางอย่างต้องการมาสื่อ หรือจะมาอยู่กับคนๆ นั้น ก็จะทำให้มีอาการเจ็บป่วยก่อน โดยอาจจะมาด้วยโชคชะตาฟ้ากำหนด ผีกำหนด หรือแถนกำหนด
ครูคิม : สรุปก็คือมีทั้งหมด 3 แบบ สืบทอดผ่านสายตระกูล, สืบทอดจากอาการเจ็บป่วย และสืบทอดเพราะคุณถูกเลือกแล้ว แต่คนที่ถูกเลือกส่วนใหญ่ก็จะเลือกมาจากสายตระกูลครับ
แม่หมอโอปอถูกเลือกให้เป็นหมอเหยาได้อย่างไร
แม่หมอโอปอ : เริ่มต้นจากมีอาการเจ็บป่วยก่อน อายุประมาณ 5 ขวบ จะเป็นเด็กตัวเหลือง เป็นตุ่มตามร่างกาย ปวดท้อง เจ็บป่วยบ่อย เหมือนมีโรคเข้ามาเรื่อยๆ แม่พาไปรักษาก็ยังไม่หาย แต่ลึกๆ แม่ก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าเป็นแบบนี้ ต้องมีเรื่องผีบรรพบุรุษมาเกี่ยวข้อง ทำให้คุณย่าทวดพาไปทำพิธีสื่อว่าหลานฉันเป็นอะไร เลยได้รู้ว่าบรรพบุรุษเป็นคนทำให้เจ็บป่วย ท่านต้องการคนที่จะมาสืบทอด รับขันธ์หรือรับช่วงต่อ แต่แม่ยังไม่อยากให้รับ เพราะยังเป็นเด็กน้อย
แต่พออายุย่างเข้า 6 ขวบ แม่ของแม่หมอก็เจ็บป่วย รักษาไม่หาย ย่าทวดบอกว่าสาเหตุมาจากผีบรรพบุรุษ แม่เลยทำการขอขมาว่าหากเป็นอำนาจของบรรพบุรุษจริงๆ ที่ทำให้เจ็บป่วย ก็ขอให้หายวันหายคืน แล้วจะรับขันธ์ หากบรรพบุรุษชอบใครให้เลือกเอา ให้สิงสู่คนที่อยากให้สืบทอด
แปลกมากหลังจากนั้นแม่ก็อาการดีขึ้น ก็เลยไปอัญเชิญครูบาอาจารย์จากอีกหมู่บ้านหนึ่ง ให้มาสื่อว่าจริงไหมที่บรรพบุรุษจะมาอยู่ด้วย มาจากไหน อยู่ที่ไหน ชื่ออะไร และจะเลือกใครสิงสู่ใคร เราจะเรียกทุกคนในวงศ์ตระกูลมารวมกัน แล้วดูว่าบรรพบุรุษจะเลือกใคร ปรากฏว่าเขาต้องการแม่หมอ ในการร่ายรำกลอนรำของเขา แปลความหมายได้ว่า "จะมาอยู่กับเด็กคนนี้ เด็กที่เจ็บป่วย"
หลังจากนั้นแม่ก็เลยให้รับขันธ์ เพราะกลัวลูกจะไม่หาย แล้วอาการเจ็บป่วยอาจลุกลามไปถึงคนอื่นๆ ในครอบครัว ก็จะมีการทำพิธีฟ้อนรับประจำปีหรือเลี้ยงผีหมอเหยาประจำปี พอถึงอายุ 13 ปี แม่สามีของพี่สาวป่วย ต้องการเหยา ก็มาบอกว่า "ให้โอปอไปเหยาแม่พี่ให้หน่อย ไปหาหมอก็ไม่หาย ไม่ดีขึ้น"
ตอนนั้นแม่หมอก็ตกใจเพราะเป็นเคสแรกที่ต้องไปทำพิธีเหยา ซึ่งต้องไปขออนุญาตครูบาอาจารย์ก่อน แม่ครูบอกว่า "ถึงวันแล้วที่โอปอต้องออกไปรักษาคน" เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้มาทำหน้าที่ตรงนี้ ชาวสกลนครจะเรียกตำแหน่งนี้ว่า "แม่เมืองหมอเหยา" ทำหน้าที่สื่อกับผีและออกไปรักษาคน
ปัจจุบันนี้ พิธีหมอเหยาที่จังหวัดสกลนครยังคงมีอยู่ใช่ไหม
ครูคิม : จริงๆ ในพื้นที่จังหวัดสกลนครและกาฬสินธุ์ยังคงมีพิธีกรรมนี้ให้เห็นเยอะกว่าที่อื่นๆ ทุกวันนี้วัฒนธรรมหมอเหยาเข้มแข็งขึ้น แม่หมอโอปอเองก็ยังรักษาจารีตแบบดั้งเดิม ยังไม่มีการประยุกต์ หรือนำความเชื่ออื่นๆ เข้ามาผสม ยังคงทำตามขนบแบบเดิมครับ
คิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นหมอเหยาคืออะไร
แม่หมอโอปอ : การครองตน ไม่ทำผิดจารีต เพราะจะมีข้อต้องห้ามที่ต้องปฏิบัติ เช่น ไม่ให้คนอื่นตบหัว ตีไหล่ ข้ามหัว ห้ามตัวแม่หมอ ไม่ให้กินสัตว์ต้องห้าม ห้ามกินข้าวงานศพ ถ้าหิวจริงๆ ให้ไปกินบ้านคนอื่น ไม่ให้กินเศษอาหารเหลือของคนอื่น และต้องซื่อสัตย์กับบรรพบุรุษ ถ้าเราทำผิดจารีต ท่านก็จะเตือนก่อน แต่ถ้าบอกแล้วไม่ฟัง ก็จะมีการลงโทษ อาจมีสัญญาณเตือนผ่านความฝัน หรือเกิดลางร้ายต่างๆ
อยากให้แม่หมอโอปอเล่าเคส การไปทำพิธีเหยาที่น่ากลัวที่สุดให้ฟังหน่อย
แม่หมอโอปอ : เคสลี้ลับคือไปเหยาคนที่ไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อว่ามีอำนาจสิ่งชั่วร้ายจะมาเอาชีวิต ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมให้แม่หมอเข้าไปยุ่ง มาขัดขวางทั้งผีทั้งคน เหมือนเป็นโชคชะตากำหนดไว้แล้วว่า คนนี้ต้องตายภายใน 3 วัน 7 วัน ตอนนั้นแม่หมอเหนื่อยกับการไปอ้อนวอน เพราะเราอ้อนวอนจนสิ่งชั่วร้ายนั้นมาเข้าตัวแม่หมอเอง
ตอนนั้นได้คุณย่าทวดช่วยทำพิธีดึงสติให้กลับมา แล้วท่านก็ร่ายมนตร์คาถาปกป้องหลานตัวเองไว้ก่อน แม่หมอบอกไว้ว่า "เคสนี้รักษาไม่ได้ เพราะอำนาจสิ่งลี้ลับโกรธมาก ต้องการจะเอาชีวิต ให้ระวังไว้ภายใน 3 วัน 7 วัน" แต่หากผ่านช่วงเวลานี้ไป แม่หมอจะกลับมาช่วยรักษาอีกครั้ง ปรากฏว่าพอเข้าวันที่ 6 เขาก็เสียชีวิต ต้นเหตุของเรื่องนี้คือเขาเป็นพรานป่ามือสมัครเล่น ชอบท้าทาย แล้วไปลบหลู่เจ้าป่าเจ้าเขา
มีเหตุการณ์ไหนบ้างไหมที่รู้สึกเป็นพลังงานสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งไม่เกี่ยวกับพิธีเหยา
แม่หมอโอปอ : มีครั้งหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุรถชน ขับมอเตอร์ไซค์ไปชนกับอีกคัน คนที่ไปด้วยบาดเจ็บแขนหัก ขาหัก แต่แม่หมอกระเด็นไปลงบนกองฟาง รู้สึกเหมือนมีคนมาอุ้มเราไปวางไว้ตรงนั้น แม่หมอคิดว่าคงเป็นความบังเอิญ แต่ภายหลังมีการสื่อก็รู้ได้ว่าวันนั้นที่เราประสบอุบัติเหตุ เป็นอำนาจของผีบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือมาช่วยชีวิตไว้ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
ตอนที่ทีมงานภาพยนตร์ท่าแร่ติดต่อเข้ามา เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นักแสดง รู้สึกอย่างไรบ้าง
แม่หมอโอปอ : ตอนแรกก็กังวลเพราะพูดภาษาไทยกลางไม่ค่อยชัด แต่รู้สึกดีใจมากที่มีคนมองเห็นความสำคัญของประเพณีวัฒนธรรมหมอเหยา ให้แม่หมอได้ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดออกไปให้สังคมได้รับรู้ว่าหมอเหยาคืออะไร ทำไมต้องมีการเหยา เรารู้สึกดีใจเพราะหนังเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการเผยแพร่วัฒนธรรมหมอเหยาของชาวสกลนคร
นักแสดงได้ส่งคลิปวิดีโอตอนฟ้อนร่ายรำพิธีเหยามาให้ดูด้วย
แม่หมอโอปอ : แม่หมอได้สอนท่าฟ้อนร่ายรำ นักแสดง (มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร รับบทหมอเหยา) ก็ได้ไปฝึกซ้อม แล้วอัดคลิปวิดีโอส่งมาให้แม่หมอดู เขามีความพยายามและตั้งใจมากๆ
ครูคิม : น้องมีนเก่งมาก เพราะเขาต้องไปฝึกพูดภาษาภูไทด้วย มีแม่หมอโอปอสอนรำ สอนทำพิธีเหยา ส่วนครูคิมก็จะรับผิดชอบในการสอนพูดสำเนียงภูไทของสกลนคร สอนเรื่องการแต่งกาย การแสดงกลอนรำ ซึ่งกลอนในพิธีเหยาเป็นคำปลอบประโลม แสดงความนอบน้อมอ่อนโยน แต่ก็จะมีบางบทที่เข้มขลัง ความขลังของคำศัพท์ก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
มีคำแนะนำข้อไหนที่เตือนให้นักแสดงและทีมงานระมัดระวังเป็นพิเศษไหม
แม่หมอโอปอ : ก็มีอยู่นะ จะต้องมีความอ่อนน้อม ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ และต้องมีความตั้งใจในการฝึก แม่หมอได้บอกจารีตและข้อห้ามให้นักแสดงรับรู้ว่าสิ่งไหนทำหรือไม่ควรทำบ้าง
ครูคิม : เราจะกำชับกับทีมงานมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายว่าควรให้ถูกต้องตามจารีตประเพณีไปเลย
แม่หมอโอปอ : มีเรื่องของเครื่องประกอบด้วย เช่น เครื่องคายของหมอเหยา, หมอแคน, อุปกรณ์ในการเหยา ทั้งดาบ ขันหมาก ขันพลู เงินที่ใส่ในคาย รวมถึงเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ให้เป็นลวดลายเฉพาะที่ถูกต้อง เพราะหมอเหยาเป็นประเพณีที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ใช่แค่ความเชื่อผีบรรพบุรุษ แต่ยังมีการสืบทอดศิลปวัฒนธรรม เครื่องแต่งกาย ผ้านุ่งโบราณ เราก็รักษาและอนุรักษ์ไว้
สุดท้ายฝากภาพยนตร์เรื่องท่าแร่หน่อย
ครูคิม : อยากให้คนไทยได้มาดูอีกหนึ่งความเชื่อ เรื่องพิธีหมอเหยาน่าจะเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยให้หนังเรื่องท่าแร่นี้มีความกลมกล่อมมากขึ้น จะได้เห็นอีกพิธีกรรมหนึ่งที่เป็นพิธีกรรมลึกลับ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังได้รับการสืบทอดและมีให้เห็นอยู่
แม่หมอโอปอ : ภาพยนตร์ท่าแร่ก็จะมีเรื่องราวของหลายศาสนาและหลายประเพณีมารวมกัน ต่างคนต่างไม่ขัดแย้งกัน สามารถอยู่ร่วมกันได้ เหมือนมาช่วยรักษา ช่วยกันอนุรักษ์สืบทอดประเพณีดั้งเดิมของชาวสกลนคร
ภาพยนตร์เรื่อง "ท่าแร่" เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : คุยเรื่องลี้ลับกับ "แม่หมอโอปอ" หมอเหยาทางจิตวิญญาณ พิธีกรรมโบราณในหนังไทย "ท่าแร่"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คุยเรื่องลี้ลับกับ "แม่หมอโอปอ" หมอเหยาทางจิตวิญญาณ พิธีกรรมโบราณในหนังไทย "ท่าแร่"
- รวมพลปราบผี ยกพิธีเหยาเข้าโบสถ์ เจมส์ จิรายุ-มีน พีรวิชญ์-คุ้ย ทวีวัฒน์ เปิดตัวท่าแร่ ภาพยนตร์สยอง
- ก้อง ห้วยไร่ สุดปลื้ม ร้องเพลงประกอบหนังแห่งบ้านเกิด ดาวหลงทาง OST. ท่าแร่
- เจมส์ จิรายุ-มีน พีรวิชญ์-เอก ธเนศ-แพรวา บุกท่าแร่ ปลุกความสยอง 7 ส.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์
- ศาสนาผี และ คริสต์ศาสนา ต้องเผชิญหน้าความสยองของความลี้ลับแดนอีสาน ในท่าแร่
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath