การบินไทย ผงาด! ลวรณ ยันฟื้นฟูสำเร็จ ซื้อโบอิงเพิ่ม 35 ลำ
วันนี้ (4 ส.ค. 68) นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) THAI เปิดเผยว่า บริษัท การบินไทย ได้เปิดกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ (4 ส.ค.) เป็นวันแรก ในรอบ 4 ปี โดยราคาหุ้น เปิดตลาดวินาทีแรก 10.50 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 134.4% จากราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 4.48 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าตลาดเกือบ 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดทำการซื้อขายครั้งสุดท้าย ก่อนเข้ากระบวนการฟื้นฟู เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2564 อยู่ที่ 3.32 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 7.18 บาท
“กระบวนการฟื้นฟูกิจบริษัท การบินไทย สามารถดำเนินการได้ด้วยดี หลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวมีมากขึ้น เพราะสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทำให้ การบินไทยก็มีรายได้มากขึ้นตามไปด้วย จึงมีการเสนอให้การบินไทย กลับเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์ได้ใหม่อีกครั้ง”
นายลวรณ กล่าวว่า ขณะนี้ การบินไทยมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมั่นใจว่า ยอดหนี้ 95,000 ล้านบาท ที่ยังติดค้างเจ้าหนี้จะสามารถชำระได้ครบ ภายใน 10 ปี ตามที่ตกลงกันไว้ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้ว การบินไทย ยังเป็นสายการบินเดียวที่เป็นของคนไทย แต่ไม่ได้มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้การบริหารงานเป็นอิสระ และมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยมีแผนการจัดหาเครื่องบินอีก 35 ลำ จากที่ซื้อไป 45 ลำ รวม 80 ลำ ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องบินโบอิง จากสหรัฐฯ หรือไม่ เรื่องนี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะจะขึ้นอยู่กับสมรรถนะและการออกแบบที่บริษัท การบินไทยต้องการ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้แก้ไขปัญหากิจการรัฐวิสาหกิจที่ขาดอย่างหนัก และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทางสำนักงานคณะกรรมนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้นำรัฐวิสาหกิจจำนวน 7 แห่งเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ ประกอบด้วย 1.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) 2.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) 3.การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 4.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 5.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 6.บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ 7.บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่ผ่าน การฟื้นฟูจากรัฐบาลไปแล้ว มีจำนวน 5 แห่ง ยังคงเหลือ ร.ฟ.ท. และ ขสมก. 2 แห่งเท่านั้น ที่ยังไม่สามารถฟื้นฟูกิจการได้