สหรัฐจ่อเรียกเงินประกัน ผู้ทำวีซ่าท่องเที่ยวเฉียดครึ่งล้าน เน้นประเทศคนอยู่เกินสูง
สหรัฐจ่อเรียกเงินประกัน ผู้ทำวีซ่าท่องเที่ยวเฉียดครึ่งล้าน เน้นประเทศคนอยู่เกินสูง
รัฐบาลหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ตามเวลาในสหรัฐ เปิดตัวโครงการนำร่องสำหรับผู้ยื่นขอวีซ่าสหรัฐที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยกำหนดให้มีการเรียกเก็บเงินประกันสูงถึง 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 485,300 บาท สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าธุรกิจบางประเภท ซึ่งเป็นความพยายามที่จะปราบปรามผู้เดินทางที่อยู่เกินกว่าวีซ่าที่ได้รับ
ตามประกาศในเอกสารของรัฐบาลกลางสหรัฐ โครงการดังกล่าวให้อำนาจเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐในการกำหนดวงเงินประกันตัวสำหรับผู้ยื่นขอวีซ่าสหรัฐจากประเทศที่มีอัตราการอยู่เกินวีซ่าสูง หรือจากประเทศที่ข้อมูลเกี่ยวกับการคัดกรองและการตรวจสอบความปลอดภัยของบุคคลยังไม่มีความแม่นยำเพียงพอ
ประธานาธิบดีทรัมป์ให้ความสำคัญกับการปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในระหว่างการรณรงค์หาเสียงของเขา และเมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 ทรัมป์ได้เพิ่มทรัพยากรในการรรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดน จับกุมผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย และเนรเทศกลุ่มคนเหล่านี้ออกไปเป็นการเร่งด่วน
ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน ทรัมป์ได้ออกคำสั่งห้ามการเดินทาง ซึ่งมีผลให้พลเมืองจาก 19 ประเทศไม่สามารถเข้าสหรัฐได้ทั้งหมดหรือบางส่วน โอยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
นโยบายการเข้าเมืองของทรัมป์ทำให้หลายคนตัดสินใจไม่เดินทางไปยังสหรัฐ ทำให้ในเดือนพฤษภาคม ค่าโดยสารเครื่องบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกลดลงอยู่ในระดับก่อนก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่การเดินทางจากแคนาดาและเม็กซิโกมายังสหรัฐลดลง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ประกาศของรัฐบาลกลางสหรัฐระบุว่า โครงการวีซ่านำร่องใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมเป็นต้นไป และจะมีผลบังคับใช้ประมาณหนึ่งปี โดยเจ้าหน้าที่กงสุลจะมีสามทางเลือกในการกำหนดวงเงินประกันสำหรับผู้ยื่นขอวีซ่าที่อยู่ในข่ายต้องถูกเรียกเก็บเงินประกันดังกล่าว ได้แก่ 5,000 ดอลลาร์ 10,000 ดอลลาร์ หรือ 15,000 ดอลลาร์ แต่โดยทั่วไปคาดว่าเงินประกันที่จะถูกเรียกเก็บจะอยู่ที่อย่างน้อย 10,000 ดอลลาร์ ขณะที่เงินประกันจะถูกคืนให้กับผู้เดินทาง หากพวกเขาเดินทางออกจากสหรัฐตามเงื่อนไขของวีซ่า
ประกาศดังกล่าวระบุว่า เคยมีการเปิดตัวโครงการนำร่องที่คล้ายคลึงกันนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ในช่วงเดือนสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งวาระแรกของประธานาธิบดีของทรัมป์ แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่เพราะการเดินทางทั่วโลกลดลงเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า มีการกำหนดเกณฑ์ที่จะใช้ในการระบุชื่อประเทศที่เข้าข่ายได้รับผลกระทบ โดยอาจมีการปรับปรุงประเทศในภายหลัง
“ประเทศที่ถูกระบุว่าเข้าข่ายจะโดยพิจารณาจากอัตราการอยู่เกินวีซ่าที่สูง ข้อบกพร่องในกระบวนการการคัดกรองและการตรวจสอบ ความกังวลเกี่ยวกับการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนโดยไม่ต้องมีข้อกำหนดเรื่องถิ่นที่อยู่ และการพิจารณานโยบายต่างประเทศ” โฆษกระบุ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้ยื่นขอวีซ่าที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ อย่างไรก็ดี หลายประเทศที่ตกอยู่ในลิสต์ประเทศที่ถูกสั่งห้ามเดินทางมายังสหรัฐของทรัมป์ อาทิ ชาด เอริเทรีย เฮติ เมียนมา และเยเมน ก็มีอัตราการอยู่เกินวีซ่าสูงเช่นกัน
สมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวรายใหญ่ ประเมินว่า ขอบเขตของโครงการนำร่องวีซ่าใหม่นี้ดูเหมือนจะมีจำกัด โดยคาดว่าจะมีผู้ยื่นขอวีซ่าประมาณ 2,000 รายที่ได้รับผลกระทบ และส่วนใหญ่น่าจะมาจากเพียงไม่กี่ประเทศที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสหรัฐค่อนข้างต่ำ
ตามข้อมูลของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐประจำปีงบประมาณ 2023 หลายประเทศในแอฟริกา เช่น บุรุนดี จิบูตี และโตโก ก็มีอัตราการอยู่เกินวีซ่าสูงเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ กฎหมายงบประมาณฉบับใหม่เกี่ยวกับมาตรการใช้จ่ายครั้งใหญ่ที่เรียกประธานาธิบดีทรัมป์เรียกว่า Big and Beautiful Bill ที่ผ่านการรับรองโดยรัฐสภาสหรัฐ ที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากไปในเดือนกรกฎาคม ได้กำหนดให้มีการเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบความถูกต้องของวีซ่า” เพิ่มขึ้นอีก 250 ดอลลาร์ หรือราว 8,000 บาท สำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติวีซ่าประเภทไม่ใช่ผู้อพยพ ซึ่งอาจได้รับคืนสำหรับผู้ที่ปฏิบัติตามกฎวีซ่า โดยค่าธรรมเนียม 250 ดอลลาร์นี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
สำนักงานการท่องเที่ยวสหรัฐระบุว่า ค่าธรรมเนียมดังกล่าวอาจเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง และหากมีการดำเนินการตามที่ได้ระบุไว้ สหรัฐจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าท่องเที่ยวสูงที่สุดในโลก หรืออาจจะถือว่าสูงที่สุดด้วยซ้ำ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สหรัฐจ่อเรียกเงินประกัน ผู้ทำวีซ่าท่องเที่ยวเฉียดครึ่งล้าน เน้นประเทศคนอยู่เกินสูง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th