สรุปปมร้อน ฮุน เซน เผย ทักษิณ แกล้งป่วย ถ่ายรูปเวร็จถอดเฝือก
หลังจากวานนี้ (27 มิ.ย.) Kampuchea Thmey Daily รายงาน สมเด็จฯ ฮุน เซน ออกมากล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร เนื้อหาบางช่วงพาดพิงเรื่องที่แกล้งทำเป็นป่วย อีกทั้งยังระบุถึงอีกฝ่ายทำนอง “หนาวสั่น หนาวสะท้าน หนาวแสดง” เพื่อหลอกศาล
เท่านั้นไม่พอยังกล่าวถึงตอนไปเยี่ยมอาการป่วยของนายทักษิณ เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2567 อีกฝ่ายไม่ได้มีอาการป่วยใด แต่พอถ่ายภาพร่วมกันกลับสวมใส่อุปกรณ์ของผู้ป่วยเพื่อหลอกลวงประชาชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ไทย
ฮุน เซน อ้างว่าบินไปกรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมทักษิณและบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ป่วยแม้แต่น้อย เวลาถ่ายรูปจะขออุปกรณ์ประกอบฉาก ที่มีเฝือกดามคอ เฝือกดามแขน เพื่อทำให้ดูเหมือนป่วย และพอทันทีที่ถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก เพื่อไปรับประทานอาหาร
ผู้นำชาวกัมพูชาวัย 72 ปี ย้ำชัดเจนสิ่งที่นายทักษิณกระทำนั้นไม่ใช่การป่วย แต่เป็นการแสดง และคนไทยสงสัยเรื่องนี้อยู่แล้ว ตนแค่ออกมายืนยันเพราะทั้งทักษิณและลูกสาวแพทองธาร กำลังแสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจ
สมเด็จฯ ฮุน ยังอ้างด้วยว่า น.ส.แพทองธาร รู้อยู่เต็มอกว่าบิดาของตนไม่ได้ป่วย แต่ก็ยังร่วมมือในการหลอกลวงศาลรัฐธรรมนูญ
สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังอ้างชื่อของนายควง เซร็ง ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ สามารถเป็นพยานเรื่องการแสร้งป่วยของนายทักษิณได้ และยังมีคนไทยอีกหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเจ้าตัวระบุจะเปิดเผยชื่อหากศาลไทยร้องขอเพื่อการสอบสวนต่อไป
ทั้งนี้ ฮุน เซน ระบุเหตุผลที่เพิ่งออกมาเปิดเผยเนื่องจาก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยขาดคุณธรรม
ข้อมูลจากเพจกรรมกรข่าวของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งตามติดประเด็นนี้ต่อเนื่องยังระบุ “ฟางเส้นสุดท้าย” ของสมเด็จฯ ฮุน เซน ซึ่งออกมากล่าวถึงนายกรัฐมนตรีแพทองธาร หลังถูกกล่าวหาว่า “ไม่เป็นมืออาชีพ” ซึ่งประธานวุฒิสภาของกัมพูชาซัดกลับล่าสุดว่า เป็นการดูหมิ่นร้ายแรง
อ้างอิงข้อมูลจากบีบีซีไทย นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เอ่ยคำดังกล่าวออกมาเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของสองพ่อลูกตระกูลฮุน และทำให้การจัดการเรื่องข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาไปคนละทิศละทางมากขึ้น
ขณะเดียวกันผู้นำกัมพูชาอ้างความจำเป็นต้องบันทึกการสนทนาระหว่างกับนายกฯ แพทองธารไว้ เพื่อความโปร่งใส และที่จริงโทรศัพท์ของเขาบันทึกทุกสายสนทนาโดยอัตโนมัติ
สมเด็จฮุน เซน ยังเน้นย้ำว่าตนเองไม่มีเจตนาเผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวในตอนแรก กระทั่งนายกรัฐมนตรีไทยกล่าวหาผู้นำกัมพูชาทั้งสองด้วยคำที่ระบุว่า “ไม่เป็นมืออาชีพ”
ด้าน นายวิชานา สาร์ นักวิเคราะห์จากราชวิทยาลัยแห่งกัมพูชา (Royal Academy of Cambodia) แสดงความเห็นผ่านบีบีซีไทย ชี้ชัดว่าการที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ตอบโต้ว่า พล.อ.ฮุน มาเนต และ สมเด็จฮุน เซน ไม่เป็นมืออาชีพนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำพูดดังกล่าวมาจากหญิงสาวที่ประสบการณ์ทางการเมืองน้อยกว่า และเรียกผู้นำของกัมพูชาอย่างสมเด็จฮุนเซนว่า “อังเคิล” (uncle แปลว่า อา ในภาษาไทย)
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์วานนี้ (27 มิ.ย.) โดยระบุตามที่ได้มีความพยายามปั่นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อสร้างความแตกแยกในสังคมไทย รัฐบาลไทยขอยืนยันและทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย ไทยจะใช้ช่องทางที่เป็นช่องทางทางการเท่านั้นในการสื่อสารระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา.